ร่างกฎหมายและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกองทุนการออมแห่งชาติ
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 04 March 2015 23:41
- Hits: 1864
ร่างกฎหมายและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกองทุนการออมแห่งชาติ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของกองทุนการออมแห่งชาติดังนี้
1) ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
2) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 จำนวน 7 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้
2. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราค่าตอบแทนของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
3. สำหรับการขอจัดสรรงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กรณีที่มีผู้เข้าเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติจำนวนมากเกินกว่างบประมาณคงเหลือจะรองรับได้ นั้น ให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติกรณี การขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 ต่อไป
4. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการด้วย สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ ร่างพระราชกฤษฎีกา ร่างกฎกระทรวง และร่างประกาศ กค.
1. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
1.1 กำหนดให้ กอช. รับโอนผู้ประกันตนและเงินของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 กรณีบำนาญชราภาพทั้งหมดที่แสดงความจำนงเป็นสมาชิกของ กอช. โดยให้ผู้ที่มีอายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปมีสิทธิเป็นสมาชิกต่อไปได้อีก 10 ปีนับแต่วันที่เป็นสมาชิก เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการของพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ที่ให้ผู้ที่มีอายุมากที่สมัครในช่วงปีแรก ได้มีระยะเวลาในการออมมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลจะไม่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำหรับเงินสะสมที่โอนมาดังกล่าว เนื่องจากได้รับเงินสมทบจากกองทุนประกันสังคมแล้ว
1.2 กำหนดให้ผู้สมัครสมาชิก กอช. รายใหม่ที่อายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และสมัครภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับ มีสิทธิเป็นสมาชิกต่อไปได้อีก 10 ปีนับแต่วันที่เป็นสมาชิก เพื่อให้เป็นไปตามหลักการของ กอช. ดังกล่าวข้างต้น และเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ที่รับโอนจากกองทุนประกันสังคมและผู้ที่สมัครใหม่ ทั้งนี้ สมาชิก กอช. จะได้รับเงินสมทบเป็นอัตราส่วนตามช่วงอายุตามที่ได้กำหนดไว้
2. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....เป็นการยกเลิกการดำเนินการตามมาตรา 40 กรณีบำนาญชราภาพ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมจะโอนผู้ประกันตนและเงินของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 กรณีบำนาญชราภาพ ทั้งหมดที่ประสงค์จะเป็นสมาชิก กอช. มาที่ กอช. ซึ่งรวมถึงผู้ประกันตนที่อายุเกิน 60 ปีด้วย ส่วนผู้ประกันตนที่ไม่ประสงค์จะเป็นสมาชิก กอช. จะได้รับเงินที่ผู้ประกันตนส่งเข้ากองทุนเงินสมทบจากรัฐ และดอกผล คืนทั้งจำนวน
3. ร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 จำนวน 7 ฉบับ ดังนี้
3.1 ร่างกฎกระทรวงกำหนดการเป็นสมาชิกกองทุนหรืออยู่ในระบบบำนาญอื่นที่ไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ....กำหนดให้บุคคลที่มีสิทธิเป็นสมาชิก กอช. ต้องไม่เป็นบุคคลที่เป็นสมาชิกกองทุนหรืออยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานอื่นที่มีเงินสมทบจากนายจ้างเพื่อการชราภาพ
3.2 ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติของผู้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ....กำหนดเกี่ยวกับผู้ดำเนินการจัดการเงินของกองทุน คุณสมบัติของบริษัทจัดการลงทุน ข้อจำกัดเกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่จะลงทุน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดการเงินของกองทุน
3.3 ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบ พ.ศ. ....กำหนดให้สมาชิกจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนปีละไม่เกิน 13,200 บาท และรัฐบาลจ่ายเงินสมทบตามอายุสมาชิก ดังนี้
อายุสมาชิก อัตราเงินสมทบต่อเงินสะสม เงินสมทบสูงสุดที่จะกำหนดโดยกฎกระทรวง
ไม่ต่ำกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 30 ปี ร้อยละ 50 600 บาท/ปี
มากกว่า 30 ปี แต่ไม่เกิน 50 ปี ร้อยละ 80 960 บาท/ปี
มากกว่ 50 ปี แต่ไม่เกิน 60 ปี ร้อยละ 100 1,200 บาท/ปี
3.4 ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณเงินบำนาญและจำนวนเงินบำนาญขั้นต่ำ พ.ศ. ....กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณบำนาญให้เพียงพอกับการจ่ายบำนาญให้แก่สมาชิกได้จนถึงอายุครบ 80 ปีบริบูรณ์
3.5 ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการจ่ายเงินให้กับสมาชิก หรือผู้รับบำนาญ หรือผู้รับเงินดำรงชีพ ตามมาตรา 40 ของกฎหมายว่าด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ....
กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินจากกองทุนให้แก่สมาชิกในกรณีสมาชิกอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ กรณีการจ่ายเงินดำรงชีพให้แก่สมาชิก ที่เมื่อคำนวณบำนาญแล้วได้น้อยกว่าบำนาญขั้นต่ำ กรณีสมาชิกผู้รับบำนาญหรือผู้รับเงินดำรงชีพถึงแก่ความตาย กรณีสมาชิกทุพพลภาพก่อนอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และกรณีสมาชิกลาออกจากกองทุน
3.6 ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ....กำหนดเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของเงินกองทุน การแบ่งเงินของกองทุนเป็นกองทุนย่อย และการดำเนินการกรณีมอบหมายบริษัทจัดการลงทุน เป็นผู้จัดการเงินของกองทุนย่อยและกรณีที่ กอช. ดำเนินการจัดการเอง
3.7 ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายเงินชดเชย พ.ศ. ....กำหนดให้กองทุนจ่ายเงินชดเชยจากบัญชีเงินกองกลางให้แก่สมาชิก ในกรณีที่สมาชิกได้รับผลประโยชน์จากเงินสะสมและเงินสมทบ ตั้งแต่วันที่เริ่มเป็นสมาชิกจนถึงวันที่สิ้นสมาชิกน้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 12 เดือน โดยเฉลี่ยของธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารพาณิชย์แห่งใหญ่ 5 แห่ง เพื่อให้สมาชิกได้รับผลตอบแทนเท่ากับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว
4. ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราค่าตอบแทนของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติแ กำหนดให้คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการของ กอช. ได้รับประโยชน์ตอบแทนในอัตราเดียวกันกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) โดยประธานกรรมการได้รับประโยชน์ตอบแทน 10,000 บาทต่อเดือน กรรมการได้รับ 8,000 บาทต่อเดือน ประธานอนุกรรมการได้รับ 5,000 บาทต่อเดือน และอนุกรรมการได้รับ 4,000 บาทต่อเดือน โดยให้จ่ายเป็นรายเดือนเฉพาะเดือนที่เข้าร่วมประชุม
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มีนาคม 2558