ครม.วางกรอบไทยศูนย์กลาง แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอาเซียน
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 25 February 2015 20:01
- Hits: 2127
ครม.วางกรอบไทยศูนย์กลาง แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอาเซียน
แนวหน้า : ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลภายหลังการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงวัฒนธรรม วางกรอบการทำงานระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมในอาเซียน โดยมีภารกิจในการเป็นศูนย์กลางการอบรมด้านวัฒนธรรมและการแสดง ได้แก่ ศูนย์ภูมิภาคโบราณคดีและวิจิตรศิลป์ ศูนย์ฝึกอบรมโบราณคดีใต้น้ำภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งอยู่ในจังหวัดจันทบุรี สมาคมระดับนานาชาติโบราณสถาน และศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดศูนย์ศิลปกรรมวิจัย วัฒนธรรมและประเพณีแห่งอันดามันในจังหวัดพังงา เป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับ 6 จังหวัดที่ติดกับทะเลอันดามันและมีการพัฒนาพิพิธภัณฑ์โบราณสถานให้เท่ากับระดับนานาชาติ พร้อมจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมอาเซียน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดตั้งในหอศิลป์ร่วมสมัย ถนนราชดำเนินการดำเนินงานและแผนปฏิบัติงานการขับเคลื่อนเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมของอาเซียน
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินงานและแผนปฏิบัติงานการขับเคลื่อนเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมของอาเซียน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
วธ. รายงานว่า
1. นโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมโดยการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ภาษาไทยและภาษาถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นรวมทั้งความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อการเรียนรู้สร้างความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์และความเป็นไทย นำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์อันดีในระดับประชาชน ระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติตลอดจนเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ และการสนับสนุนการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน วัฒนธรรมสากลและการสร้างสรรค์งานศิลปะและวัฒนธรรมที่เป็นสากล เพื่อเตรียมเข้าสู่เสาหลักวัฒนธรรมของประชาคมอาเซียนและเพื่อการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก
2. มิติด้านสังคมและวัฒนธรรมเป็นหนึ่งในสามเสาหลักที่สำคัญของการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ การดำเนินงานและแผนปฏิบัติงานการขับเคลื่อนเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมของอาเซียนของ วธ. นอกจากจะเป็นการเตรียมการเพื่อรองรับประชาคมอาเซียนแล้ว ยังเป็นการดำเนินงานที่ใช้มิติทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการสร้างความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทยและการเรียนรู้ ยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี
3.วธ. ได้วางกรอบการดำเนินงานขับเคลื่อนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมของอาเซียน ซึ่งประกอบด้วย
3.1 ภารกิจที่เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมและการแสดงด้านวัฒนธรรมในปัจจุบัน ได้แก่
1) ศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยโบราณคดีและวิจิตรศิลป์หรือเรียกว่า “สปาฟา” (SEAMEO REGIONAL Centre for Archaeology and Fine Arts : SPAFA) เป็นศูนย์ประสานงาน วิจัยและฝึกอบรมด้านโบราณคดีและวิจิตรศิลป์ของอาเซียนก่อตั้งเมื่อปี 2521
2) ศูนย์ฝึกอบรมโบราณคดีใต้น้ำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งตั้งอยู่ ณ จังหวัดจันทบุรี เป็นศูนย์ที่ได้ดำเนินการร่วมกับองค์การยูเนสโกในการฝึกอบรมบุคลากรที่ทำงานด้านการสำรวจ ค้นคว้า วิจัย ด้านโบราณคดีใต้น้ำของภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก
3) สมาคมระดับนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถานของไทย ซึ่งเป็นองค์กรสาขาของอิโคโมสสากล มีหน้าที่ประสาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้การอบรมด้านอนุรักษ์โบราณสถานระดับนานาชาติ
4) ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยเป็นศูนย์การแสดงนานาชาติโดยร่วมมือและส่งเสริมให้องค์กรเอกชนและหน่วยงานต่าง ๆ จัดการแสดงทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
3.2 เปิดให้บริการศูนย์ศึกษาวิจัยศิลปกรรม วัฒนธรรมและประเพณีแห่งอันดามัน จังหวัดพังงา หรือเรียกว่า “อันดามันเซ็นเตอร์” เพื่อให้บริการองค์ความรู้ด้านมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่ 6 จังหวัดที่ติดทะเลอันดามัน
3.3 การพัฒนาพิพิธภัณฑ์และโบราณสถานให้ได้มาตรฐานระดับสากล
3.4 การจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมอาเซียน ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการ ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน ถนนราชดำเนิน
3.5 โครงการเพื่อสร้างการเรียนรู้ ความเข้าใจ อัตลักษณ์และความต่างของอาเซียนเพื่อให้ประชาชนเรียนรู้และปรับตัว เพื่อเตรียมการต้อนรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
4. วธ. กำลังดำเนินการโครงการขยายศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยบนพื้นที่ 58 ไร่ ซึ่งเป็นการก่อสร้างและขยายพื้นที่ของศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยในปัจจุบันซึ่งมีพื้นที่ 23 ไร่ โดยโครงการประกอบด้วย อาคาร วธ. หอศิลป์ร่วมสมัยโรงละครแห่งใหม่ หอสมุดทางวัฒนธรรม ลานอเนกประสงค์สำหรับจัดแสดงทางวัฒนธรรมและจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม โครงการระยะแรกจะแล้วเสร็จในปี 2559 และโครงการระยะที่ 2 จะแล้วเสร็จในปี 2562 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมระดับโลก
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558