โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม ปีงบประมาณ พุทธศักราช 2568 – 2570
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 10 July 2024 00:42
- Hits: 7806
โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม ปีงบประมาณ พุทธศักราช 2568 – 2570
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม ปีงบประมาณ พุทธศักราช 2568 – 2570 (โครงการฯ) ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ ยกเว้นการให้สิทธิประโยชน์ฯ ให้ กห. ไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำหรับเรื่องงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้ กห. รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ
สาระสำคัญของเรื่อง
กห. รายงานว่า
1. กห. มีแผนปรับลดกำลังพลนายทหารชั้นนายพลในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ (ผทค.พิเศษ) ผู้ทรงคุณวุฒิ (ผทค.) และนายทหารปฏิบัติการ (นปก.)1 ให้เหลือร้อยละ 50 ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 – 2571 และต่อมามีแผนปฏิรูปการบริหารจัดการกำลังพลของ กห. กำหนดเป้าหมายการปรับลดกำลังพลลงร้อยละ 5 ของยอดกำลังพล ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 - 2570 เพื่อให้เกิดความสมดุลของสัดส่วนกำลังพลในทุกระดับ มุ่งสู่ “การเป็นกองทัพที่กะทัดรัด ทันสมัย มีการบริหารจัดการกำลังพลที่มีประสิทธิภาพ” ดังนั้น กห. จึงได้จัดทำแนวทางการดำเนินโครงการเกษียณอายุราชก่อนกำหนดของ กห. โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะสามารถแก้ไขปัญหาด้านกำลังพลของ กห. ได้ตรงจุด และจะส่งผลให้ กห. เกิดความสมดุลของสัดส่วนกำลังพลในทุกระดับ ประหยัดงบประมาณด้านบุคลากรภาครัฐในระยะยาว รวมทั้งทำให้การพัฒนาระบบบริหารจัดการและการพัฒนากองทัพของ กห. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2. โครงการฯ มีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
หัวข้อ |
รายละเอียด |
|
หลักการ |
จูงใจข้าราชการทหารที่ดำรงตำแหน่ง ผทค.พิเศษ ผทค. นปก. และประจำหน่วยให้ลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุราชการโดยสมัครใจ เพื่อลดความคับคั่งของกำลังพลในกลุ่มชั้นยศสูง |
|
วัตถุประสงค์ |
(1) เพื่อปรับขนาดอัตรากำลังพลของ กห. ให้มีความเหมาะสม เกิดความสมดุลระหว่างระดับปฏิบัติการและระดับบริหาร (2) เพื่อลดความคับคั่งของผู้ดำรงตำแหน่ง ผทค.พิเศษ ผทค. นปก. และประจำหน่วย ซึ่งเป็นกำลังพลในกลุ่มชั้นยศสูง (3) เพื่อประหยัดงบประมาณด้านบุคลากรของรัฐระยะยาว |
|
เป้าหมาย |
ข้าราชการทหารชั้นยศพันเอก (พ.อ.) นาวาเอกและนาวาอากาศเอก (น.อ.) [อัตราเงินเดือน พ.อ. (พิเศษ) น.อ. (พิเศษ)] ขึ้นไป ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผทค.พิเศษ ผทค. นปก. และประจำหน่วยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และเป็นผู้มีเวลาราชการ 25 ปีขึ้นไป (ไม่รวมเวลาราชการทวีคูณ) นับถึงวันก่อนออกจากราชการตามโครงการฯ (วันที่ 30 กันยายน) และมีเวลาราชการเหลือ 2 ปีขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ออกจากราชการตามโครงการฯ (ออกจากราชการ 1 ตุลาคม) และจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ ถูกสอบสวน หรือสอบหาข้อเท็จจริงทางวินัยพิจารณาโทษทางวินัย รายงานการลงโทษทางวินัย หรือพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัย หรือไม่เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาซึ่งมิใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือไม่ตกเป็นบุคคลล้มละลายตามคำพิพากษาของศาล (2) ไม่เป็นผู้ซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องปลดออกจากราชการในทุกกรณี หรือมีผลการสอบสวนพิจารณาให้ปลดออกจากราชการ แต่อยู่ในระหว่างดำเนินการปลดออกจากราชการ หรือต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลายเพราะทำหนี้สินขึ้น (3) ถ้าเป็นผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับส่วนราชการในการไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัย จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้มาแล้วไม่น้อยกว่าระยะเวลาศึกษา ฝึกอบรมหรือปฏิบัติการวิจัยและจะต้องยินยอมชดใช้เงินตามสัญญาผูกพันที่ได้ทำไว้กับราชการ สำหรับเวลาที่ยังปฏิบัติราชการชดใช้ไม่ครบ (4) กรณีที่ทางราชการตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีหนี้สินกับทางราชการผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องมีหนังสือยินยอมให้หักหนี้สินจากสิทธิประโยชน์ (เงินก้อนและหรือเงินบำนาญ) ที่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับ ทั้งนี้ ผู้จะได้รับอนุญาตให้ออกจากราชการตามโครงการฯ จะต้องมีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วนตั้งแต่วันที่ยื่นใบสมัครจนถึงวันที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากราชการ หมายเหตุ: 1. กห. ประมาณการผู้เข้าร่วมโครงการรวมทุกเหล่าทัพปีละ 244 นาย (244 นาย x โครงการ 3 ปี = 732 นาย) และสามารถประหยัดงบประมาณได้ประมาณ 4,479,836,400 บาท 2. นาวาเอกและนาวาอากาศเอกใช้ตัวย่อเดียวกันคือ น.อ. |
|
การดำเนินโครงการ/เงื่อนไข |
(1) จัดสรรจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในตำแหน่ง ผทค.พิเศษ ผทค. นปก. และประจำหน่วยชั้นยศ พ.อ. และ น.อ. [อัตราเงินเดือน พ.อ. (พิเศษ), น.อ. (พิเศษ)] ขึ้นไปซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย แยกตามชั้นยศและตำแหน่งให้กับหน่วยขึ้นตรง กห. กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ (2) ให้หน่วยขึ้นตรง กห. กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ และคัดเลือกกำลังพลเข้าร่วมโครงการตามเงื่อนไขที่กำหนด (3) กรณีมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ เป็นจำนวนมาก ให้พิจารณาจากปัจจัยตามลำดับ ดังนี้ (3.1) ตำแหน่ง : ผู้ดำรงตำแหน่ง ผทค.พิเศษ ผทค. นปก. และประจำหน่วยเป็นลำดับแรกและกำลังพลผู้ดำรงตำแหน่งหลักเป็นลำดับรอง ทั้งนี้ การพิจารณาในกลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งหลัก หากเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้าง กห. ให้พิจารณาเป็นลำดับแรก (3.2) อายุ : กำลังพลที่มีอายุมากเป็นลำดับแรก และกำลังพลที่มีอายุน้อยกว่าเป็นลำดับรอง (4) กรณีมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการในระดับชั้นยศใดไม่ครบตามจำนวนที่จัดสรร ให้เพิ่มจำนวนผู้สมัครในระดับชั้นยศที่ต่ำกว่าให้ครบตามงบประมาณที่จัดสรรได้ แต่มิให้เพิ่มจำนวนผู้สมัครในตำแหน่งที่มีชั้นยศสูงกว่า (5) ไม่ให้นำอัตราตำแหน่ง ผทค.พิเศษ ผทค. นปก. และประจำหน่วย ที่ว่างจากการเข้าร่วมโครงการฯ มาใช้สำหรับการบรรจุทดแทนกำลังพลในตำแหน่งอัตราแรกบรรจุทุกกรณี (6) การนำอัตราตำแหน่ง ผทค.พิเศษ และ ผทค. ที่ว่างจากการเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อบริหารกำลังพลเข้าสู่ตำแหน่งดังกล่าว ผู้ที่จะปรับทดแทนจะต้องเป็นผู้เหลืออายุราชการไม่เกิน 1 ปี หรือจะเกษียณอายุราชการในปีงบประมาณนั้นเท่านั้น เพื่อ กห. จะดำเนินการปิดอัตราดังกล่าวต่อไป เช่น เมื่อมีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (ออกจากราชการ 1 ตุลาคม 2567) ดังนั้น ผู้ที่จะถูกปรับเพื่อทดแทนในตำแหน่งดังกล่าว จะต้องเป็นผู้ที่เกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (ออกจากราชการ 1 ตุลาคม 2568) (7) ตำแหน่ง นปก. และประจำหน่วย ไม่ให้มีการบรรจุทดแทนทุกกรณี (8) ห้ามบรรจุกลับเข้ารับราชการประจำ (9) ห้ามทำสัญญาจ้างกลับเข้าเป็นพนักงานราชการ |
|
สิทธิประโยชน์ |
อาทิ สิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินก้อน 7 – 10 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) โดยไม่รวมเงินหรือค่าตอบแทนพิเศษอื่นๆ ตามสูตรการคำนวณ ดังนี้ เงินก้อน = [5 + อายุราชการที่เหลือ (ปี)] x เงินเดือนเดือนสุดท้ายรวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) แต่สูงสุดไม่เกิน 10 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) หมายเหตุ: เงินเดือนเดือนสุดท้าย หมายถึง เงินเดือนที่ได้รับจากเงินงบประมาณประเภทเงินเดือนเดือนสุดท้ายที่ออกจากราชการ รวมทั้งเงินเดือนที่ได้เลื่อนครั้งสุดท้ายก่อนออกจากราชการและเงินประจำตำแหน่ง แต่ไม่รวมถึงเงินเพิ่มทุกประเภท (พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ. 2551) เงินประจำตำแหน่ง หมายถึงเงินประจำตำแหน่งตามพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการทหาร พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม |
|
ระยะเวลาโครงการ |
3 ปีต่อเนื่อง เริ่มจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (ออกจากราชการ 1 ตุลาคม 2567) ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 (ออกจากราชการ 1 ตุลาคม 2569) (โดยไม่ของบกลางเพิ่มเติม) |
|
แหล่งเงินงบประมาณ |
(1) ใช้งบประมาณด้านบุคลากรของ กห. ดำเนินการภายในกรอบวงเงินงบประมาณที่ กห. จัดสรรในวงเงิน 600 ล้านบาท (โดยไม่ของบกลางเพิ่มเติม) (2) แบ่งการดำเนินโครงการฯ ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ในวงเงิน จำนวน 200 ล้านบาท/ปี โดยให้หน่วยขึ้นตรง กห. กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ จ่ายสิทธิประโยชน์เป็นเงินก้อนจากงบประมาณด้านบุคลากรและการจ่ายเงินบำนาญ บำเหน็จ บำเหน็จดำรงชีพให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด |
|
ผลที่คาดว่าจะได้รับ |
(1) ลดความคับคั่งของกำลังชั้นยศสูงโดยเฉพาะ ผทค.พิเศษ ผทค. นปก. และประจำหน่วยชั้นยศ พ.อ. และ น.อ. [อัตราเงินเดือน พ.อ. (พิเศษ) น.อ. (พิเศษ)] ตามแผนปฏิรูปการบริหารจัดการกำลังพลของ กห. (2) กห. มีขนาดอัตรากำลังพลที่มีความเหมาะสม เกิดความสมดุลระหว่างระดับปฏิบัติการและระดับบริหาร ทำให้สามารถบริหารจัดการกำลังพลได้อย่างมีประสิทธิภาพ (3) ประหยัดงบประมาณด้านบุคลากรในระยะยาว |
|
การรายงานผลการปฏิบัติ |
หน่วยขึ้นตรง กห. กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ รายงานผลการดำเนินโครงการฯ รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (กรมเสมียนตรา) ภายใน 30 วัน หลังจากวันที่มีคำสั่งให้ข้าราชการทหารออกจากราชการของแต่ละปี เพื่อรวบรวมและสรุปผลนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม |
________________________
หมายเหตุ: 1ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ได้แก่ นายทหารชั้นยศพลโท – พลเอก พลเรือโท – พลเรือเอก และพลอากาศโท – พลอากาศเอก
ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นายทหารชั้นยศพลตรี พลเรือตรี และพลอากาศตรี
ตำแหน่งนายทหารปฏิบัติการ ได้แก่ นายทหารชั้นยศพันเอก นาวาเอก และนาวาอากาศเอก ที่ได้รับอัตราเงินเดือนพันเอก (พิเศษ) นาวาเอก (พิเศษ) และนาวาอากาศเอก (พิเศษ) ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะและเชี่ยวชาญพิเศษ
ตำแหน่งประจำหน่วย ได้แก่ นายทหารชั้นยศพันเอก นาวาเอก และนาวาอากาศเอก ที่ได้รับอัตราเงินเดือนพันเอก (พิเศษ) นาวาเอก (พิเศษ) และนาวาอากาศเอก (พิเศษ)
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 9 กรกฎาคม 2567
7288