ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 26 (The 26th GMS Ministerial Conference)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Thursday, 20 June 2024 00:04
- Hits: 7997
ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 26 (The 26th GMS Ministerial Conference)
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ ดังนี้
1. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ [Greater Mekong Subregion (GMS)] ครั้งที่ 26 (การประชุมฯ)
2. เห็นชอบการมอบหมายภารกิจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมฯ
สาระสำคัญของเรื่อง
สศช. รายงานว่า
1. รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ) ในฐานะผู้แทนรัฐมนตรีประจำแผนงาน GMS [รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์)] และเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ ในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ณ กรุงเนปยีดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมา (เมียนมา) ได้ให้การรับรอง (โดยไม่มีการลงนาม) ร่างเอกสารทั้ง 2 ฉบับ (ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 12 ธันวาคม 2566) เรียบร้อยแล้ว โดยที่ประชุมได้มีการแก้ไขเอกสารจำนวน 1 ฉบับ (ร่างข้อเสนอแนวคิดฯ) ในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดวันที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS จากเดิมวันที่ 14 ธันวาคม 2566 เป็นวันที่ 15 ธันวาคม 2566 เพื่อความถูกต้องของข้อมูลในเอกสาร ซึ่งสาระสำคัญของเอกสารไม่แตกต่างจากฉบับที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไว้ข้างต้น
2. ในการประชุมดังกล่าวรัฐมนตรีหรือผู้แทนของประเทศลุ่มน้ำโขงได้มีข้อเสนอ/ข้อคิดเห็นในประเด็นต่างๆ สรุปได้ ดังนี้
ผู้แทน |
สาระสำคัญ |
|
ประเทศไทย รองเลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ) |
1) ให้เร่งขยายการลงทุนในนวัตกรรมเพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เทคโนโลยีดิจิทัล และเงินทุนสีเขียวในภาคส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ การเกษตร การท่องเที่ยว (2) เร่งจัดตั้งสำนักงานการท่องเที่ยวอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน (3) สนับสนุนให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานอย่างยั่งยืนผ่านการพัฒนาตลาดพลังงานระดับภูมิภาค การใช้พลังงานหมุนเวียน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และโครงข่ายไฟฟ้าแบบสมาร์ทกริด (Smart Grid) (4) เน้นย้ำความสำคัญของการผลักดันความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (CBTA) ไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ |
|
ราชอาณาจักรกัมพูชา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (นายนัท อุนวอนรา) |
(1) ตระหนักถึงความสำคัญของโครงการศึกษาต่างๆ ภายใต้แผนงาน GMS ที่ดำเนินการแล้วเสร็จและกำลังดำเนินการอยู่ เนื่องจากจะนำไปสู่การวางกรอบการดำเนินงานและแผนปฏิบัติการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม (2) เน้นย้ำถึงความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคเพื่อรับมือความท้าทายร่วมกันและใช้ประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างกัน (3) ส่งเสริมความเชื่อมโยงทางกายภาพและดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง |
|
สาธารณรัฐประชาชนจีน รองอธิบดีกรมความร่วมมือเศรษฐกิจ และการเงินระหว่างประเทศ กระทรวงการคลัง (นายหลู จิน) |
(1) ควรให้ความสำคัญต่อเวทีหารือระดับผู้ว่าราชการจังหวัดในระเบียงเศรษฐกิจ GMS เนื่องจากเป็นกลไกการมีส่วนร่วมของรัฐบาลระดับท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการดึงดูดการลงทุนในอนุภูมิภาค (2) เนันย้ำว่าการจัดตั้งเครือข่ายองค์ความรู้ควรส่งเสริมให้สถาบันวิจัยและองค์กรคลังสมองในระดับท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด |
|
สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง แผนการและการลงทุน (นางพอนวัน อุถะวง) |
เน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา นวัตกรรมการมีส่วนร่วมในระดับรัฐบาลท้องถิ่น และการค้าการลงทุน ที่จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงและพัฒนาไปสู่ความเป็นประชาคมร่วมกันของแผนงาน GMS |
|
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงแผนการและการลงทุน (นายตัน ค๊อก เฟือง) |
ประเทศสมาชิกควรร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและแบ่งปันข้อมูลผลการดำเนินงานระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ |
|
เมียนมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศ (นายคันซอ) |
เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือภายใต้แผนงาน GMS |
3. สศช. เห็นว่า การขับเคลื่อนการดำเนินการตามผลของการประชุมดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อผลักดันประเด็นที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกันของอนุภูมิภาคในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในด้านการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงควรมอบหมายภารกิจหน่วยงานเพื่อขับเคลื่อนตามผลการประชุมฯ สรุปได้ ดังนี้
ประเด็น |
ตัวอย่างหน่วยงาน |
|
การขับเคลื่อนแผนงาน GMS ในภาพรวม |
||
(1) ติดตามผลการดำเนินงานของโครงการความร่วมมือแผนงาน GMS เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ |
- สศช. - หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
|
(2) การเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแผนงาน GMS กับข้อริเริ่มและกรอบความร่วมมือต่างๆ ในระดับภูมิภาคและระดับโลก เช่น ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง กรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้างเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนใหมในการพัฒนาที่กว้างขึ้น |
- สศช. - กระทรวงการต่างประเทศ |
|
(3) การศึกษาเกี่ยวกับการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนและรัฐบาลท้องถิ่นต่อการขับเคลื่อนการพัฒนา GMS |
- สศช. - กระทรวงมหาดไทย (มท.) |
|
(4) การจัดทำกรอบการลงทุนของภูมิภาค GMS พ.ศ. 2567 – 2569 เพื่อรับรองว่า โครงการจะมีความพร้อมทั้งในแง่ของความเป็นไปได้ การนำไปปฏิบัติ และการจัดหาเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการ |
- สศช. - หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
|
การขับเคลื่อนประเด็นความร่วมมือรายสาขา |
||
(1) สาขาคมนาคมขนส่ง เช่น การจัดทำแผนความพร้อมในด้านมาตรฐานเทคโนโลยี ความปลอดภัย และคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อมของรถไฟ การเจรจากรอบข้อตกลงสำหรับการเชื่อมต่อการขนส่งทางรางข้ามพรมแดน |
- กระทรวงคมนาคม - หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
|
(2) สาขาการค้าและการลงทุน เช่น แสวงหาโอกาสพัฒนาความร่วมมือกับคณะทำงานด้านเกษตรและด้านสุขภาพ |
- กระทรวงพาณิชย์ - กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ |
|
(3) สาขาพลังงานและสิ่งแวดล้อม เช่น เร่งรัดการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด สนับสนุนโครงข่ายไฟฟ้าแบบ Smart Grid อำนวยความสะดวกในการซื้อขายพลังงานในระดับอนุภูมิภาค เร่งศึกษาการจัดการผลกระทบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม |
- กระทรวงพลังงาน - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม |
|
(4) สาขาการท่องเที่ยว เช่น เตรียมความพร้อมสำหรับการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว |
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา - หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
|
(5) สาขาสุขภาพ เช่น เตรียมความพร้อมสำหรับการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุขเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพในระดับภูมิภาค |
- กระทรวงสาธารณสุข - หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ (รองนายกรัฐมนตรี) 18 มิถุนายน 2567
6560