การผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทาง เพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 27 March 2024 02:06
- Hits: 7428
การผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทาง เพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ เรื่อง การผ่อนผัน ให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 ในช่วงระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
1.1 ให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) ออกกฎกระทรวงเพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองในกระบวนการที่เกิดขึ้นจากการเดินทางออกจากราชอาณาจักรเพื่อไปร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 และเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรภายในช่วงระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 และออกประกาศกระทรวงมหาดไทยเพื่อรองรับการดำเนินการยกเว้นไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit) ทั้งนี้ มท. ได้ยกร่างกฎกระทรวงและร่างประกาศ รวม 2 ฉบับดังกล่าวมาด้วยแล้ว
1.2 ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองที่ประจำ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่รับผิดชอบช่องทางในการเข้า - ออกราชอาณาจักร ดำเนินการประทับตราอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักรและประทับตราอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 รวมทั้งให้รายงานผลการเดินทางให้ รง. ทราบ ในระหว่างดำเนินการ และสิ้นสุดการดำเนินการแล้ว
1.3 ให้กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมเอเชียตะวันออก ประสานแจ้งแนวทางการดำเนินการตามมาตรการนี้ให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ ประเทศต้นทางของแรงงานต่างด้าวได้ทราบ และพิจารณาเตรียมการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
2. ให้ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือในการดำเนินการ และเร่งทำการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ทุกพื้นที่ รวมถึงอำนวยความสะดวกตามอำนาจหน้าที่ให้กับแรงงานต่างด้าวสัญชาติ กัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทางในการร่วมงานประเพณีสงกรานต์ประจำปี พ.ศ. 2567 และกำกับดูแลมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เพื่อลดการกล่าวหาการเรียกรับหรือแสวงหาผลประโยชน์โดยผิดกฎหมาย
ข้อเท็จจริงและสาระสำคัญของร่างกฎหมาย
รง. เสนอว่า
1. เทศกาลสงกรานต์เป็นงานประเพณีของประเทศในคาบสมุทรอินโดจีน ประกอบด้วยประเทศไทย กัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งในช่วงเทศกาลดังกล่าวของทุกปี แรงงานต่างด้าวทั้ง 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่ทำงานในประเทศไทยจะเดินทางกลับประเทศเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์และเยี่ยมเยียนครอบครัว เช่นเดียวกันกับที่ประชาชนชาวไทยเดินทางกลับภูมิลำเนาของตน โดยในการเดินทางออกและเข้าราชอาณาจักรตามปกติ แรงงานต่างด้าวจะต้องดำเนินการยื่นคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit) และชำระค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตดังกล่าว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2559 ถึงปี พ.ศ. 2562 รัฐบาลได้มีนโยบายผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) เดินทางกลับประเทศเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์โดยไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit)1
2. เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้หยิบยกเรื่องการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก หารือกับนายกรัฐมนตรีในระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนี้ รง. ยังได้รับการร้องขอจากประเทศต้นทางแรงงานต่างด้าว (ลาวและเมียนมา) และภาคเอกชน ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมในกระบวนการที่เกิดขึ้นจากการเดินทางออก - เข้าราชอาณาจักรภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อช่วยลดขั้นตอนและภาระทางการเงินให้แก่แรงงานต่างด้าวในลักษณะเดียวกับที่คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติเมื่อปี พ.ศ. 2562
3. ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับแรงงานต่างด้าวที่จะเดินทางกลับประเทศต้นทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับแรงงานต่างด้าวซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย อันจะเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจการทำงานในประเทศไทย และเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่แรงงานต่างด้าวจะเดินทางออก - เข้าราชอาณาจักรอย่างไม่ถูกต้อง รวมทั้งลดภาระการติดตามตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรม และความสัมพันธ์อันดีด้านแรงงานระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน รง. จึงได้กำหนดมาตรการในการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
3.1 กำหนดให้การผ่อนผันดังกล่าวใช้กับแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่ได้รับอนุญาตทำงาน ซึ่งถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ได้รับการตรวจลงตราและอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว หรือตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป (Non L-A Visa) โดยที่ระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังมีอายุเหลือไม่น้อยกว่าวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 รวมถึงผู้ติดตามของแรงงานต่างด้าวดังกล่าว
3.2 ในช่วงระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองประทับตราอนุญาตให้แรงงานต่างด้าว ในการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรและประทับตราการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ในหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง โดยแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่ต้องดำเนินการยื่นคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit)
3.3 หากแรงงานต่างด้าวได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรตามมาตรการนี้ และเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรภายหลังวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ให้การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของแรงงานต่างด้าวผู้นั้นเป็นอันสิ้นสุดลง ทั้งนี้ แรงงานต่างด้าวที่ไม่ประสงค์จะดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว เช่น ประสงค์จะเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรหลังจากวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 หรือแรงงานต่างด้าวที่ยังไม่ทราบกำหนดการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยที่แน่ชัด แรงงานต่างด้าวดังกล่าวสามารถยื่นคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit) ได้ตามปกติ2
4. การดำเนินการตามมาตรการการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 ตามข้อ 3 ในส่วนที่เกี่ยวกับการยกเว้นไม่ต้องยื่นคำอนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit) และการยกเว้นค่าธรรมเนียมในกระบวนการที่เกิดขึ้น จากการเดินทางออกจากราชอาณาจักรนั้น จำเป็นต้องดำเนินการโดยออกเป็นกฎกระทรวง และประกาศกระทรวงมหาดไทยซึ่งอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ซึ่งเป็นการดำเนินการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ มท. โดย มท. ได้ดำเนินการยกร่างกฎกระทรวง และร่างประกาศดังกล่าวแล้ว ดังนี้
4.1 ร่างกฎกระทรวงยกเลิกการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมคำขออนุญาต เพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก ตามมาตรา 39 วรรคสอง สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งเข้ามาเพื่อทำงานในราชอาณาจักรตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน หรือได้รับอนุญาตทำงานในเรือประมงและมีหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง หรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร เป็นกรณีพิเศษ ชนิดใช้ได้ครั้งเดียว เป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2567 มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่จะเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ในช่วงระยะเวลาตามมาตรการในเรื่องนี้ ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขออนุญาต เพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีกตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง (ค่าธรรมเนียมคำขออนุญาต คนละ 1,000 บาท)
4.2 ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งเข้ามาเพื่อทำงานในราชอาณาจักรตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน หรือได้รับอนุญาตทำงานในเรือประมงและมีหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง หรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร เป็นกรณีพิเศษ สามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกลับประเทศต้นทางเพื่อไปร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 มีสาระสำคัญ ดังนี้
(1) กำหนดให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมาที่จะเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ในช่วงระยะเวลาตามมาตรการในเรื่องนี้ ได้รับยกเว้นไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีกตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
(2) กำหนดให้แรงงานต่างด้าวที่เดินทางออกนอกราชอาณาจักรตามมาตรการในเรื่องนี้ หากเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรภายหลังวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ให้การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของแรงงานต่างด้าวนั้นสิ้นสุดลง
5. ในคราวประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบกับการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทาง เพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2567 ตามข้อ 3 แล้ว
6. รง. ได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการที่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้ว โดย รง. คาดการณ์ว่าจะมีคนต่างด้าวดำเนินการตามมาตรการในเรื่องนี้ประมาณ 200,000 คน ซึ่งจะส่งผลให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท (ค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก คนละ 1,000 บาท)
_________________________
1คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติล่าสุดเกี่ยวกับการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทาง เพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 โดยหลังจากนั้นกระทรวงแรงงานไม่ได้เสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีอีก เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
2 โดยปกติคนต่างด้าวจะต้องยื่นคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-entry Permit) ก่อนที่จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ดังนั้น หากคนต่างด้าวไม่ประสงค์จะดำเนินการตามมาตรการในเรื่องนี้ คนต่างด้าวก็จะต้องยื่นคำขอดังกล่าวก่อนเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 26 มีนาคม 2567
3939