การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 27 March 2024 00:42
- Hits: 7084
การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบต่อบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือทวิภาคีระหว่าง กต. แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา1 (บันทึกความเข้าใจฯ) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ขอให้ กต. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าว
สาระสำคัญของเรื่อง
กต. รายงานว่า
ประเทศไทยและสาธารณรัฐบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2543 และในครั้งนี้ฝ่ายบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาแสดงความพร้อมที่จะลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในโอกาสแรก ดังนั้น กต. จึงได้เสนอบันทึกความเข้าใจฯ โดยมีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งกลไกความร่วมมือและการหารือทวิภาคีที่เป็นรูปธรรมกลไกแรกระหว่าง กต. ของทั้งสองประเทศ ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศให้มีความแน่นแพ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้จัดตั้งสถานเอกอัครราชทูตในประเทศของอีกฝ่าย ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
หัวข้อ |
สาระสำคัญ |
วัตถุประสงค์ |
สร้างกลไกปรึกษาหารือเพื่อทบทวนและแลกเปลี่ยนมุมมองในมิติความสัมพันธ์ทวิภาคี ประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ รวมถึงประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน และเพื่อส่งเสริมบทบาทที่สร้างสรรค์ขององค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและปัญหาที่กระทบต่อประชาคมระหว่างประเทศ |
ประเด็นการปรึกษาหารือ |
การเพิ่มพูนและขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือระหว่างกัน รวมถึงส่งเสริมความเข้าใจร่วมกันระหว่างภาคีคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมถึงประเด็นระหว่างประเทศที่ภาคีคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะจัดการหารือทวิภาคีอย่างสม่ำเสมอทุกปีหรือในช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน โดยสลับกันเป็นเจ้าภาพ |
ผลบังคับใช้และการแก้ไข |
บันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับนับตั้งแต่วันที่มีการลงนาม โดยจะมีผลใช้บังคับเป็นระยะเวลา 5 ปี และจะได้รับการขยายระยะเวลาออกไปอีก 5 ปี โดยอัตโนมัติ เว้นแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกยกเลิกโดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 6 เดือน ไปยังภาคีอีกฝ่ายหนึ่งผ่านช่องทางทางการทูต |
ผลผูกพัน |
บันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดสิทธิหรือพันธกรณีที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อภาคีคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายและไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ |
ทั้งนี้ กต. แจ้งว่า ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ไม่มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 26 มีนาคม 2567
3927