ขออนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงยุติธรรม
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 30 January 2024 22:57
- Hits: 6304
ขออนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงยุติธรรม
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงยุติธรรมนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 2 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 3,390,406,000 บาท เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 678,081,200 บาท ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 - พ.ศ. 2570 จำนวน 2,712,324,800 บาท ตามนัยมาตรา 26 ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 ดังนี้
1. โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,767,249,500 บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 353,449,900 บาท ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 - พ.ศ. 2570 จำนวน 1,413,799,600 บาท
2. โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดยโสธร พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ตำบลสำราญ อำภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,623,156,500 บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 324,631,300 บาท ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 - พ.ศ. 2570 จำนวน 1,298,525,200 บาท
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ขอให้กระทรวงยุติธรรมจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการก่อสร้างเรือนจำ จำนวน 2 โครงการ ดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมตามความจำเป็นเร่งด่วน ศักยภาพในการดำเนินการ สถานะการเงินการคลังของประเทศ และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาความเหมาะสมและจำเป็น ตามวงเงินงบประมาณประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ การขออนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ วงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ที่ ยธ. เสนอในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างเรือนจำ จำนวน 2 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 3,390.41 ล้านบาท เพื่อทดแทนเรือนจำเดิมที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมและถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน พื้นที่ภายในมีความแออัดและคับแคบอันส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ที่ตั้งของเรือนจำเดิมซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองได้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยของประชาชนและชุมชน รวมทั้งก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแก่ชุมชนโดยรอบ เช่น ปัญหากลิ่นรบกวนจากการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น โดยการก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่จะทำให้เรือนจำมีโครงสร้างและส่วนประกอบอาคารที่ได้มาตรฐาน สามารถควบคุมและป้องกันการหลบหนีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีพื้นที่ที่เอื้อต่อการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังสำหรับการฟื้นฟูและพัฒนาพฤตินิสัยอย่างเป็นสัดส่วนตามหลักสากล รวมทั้งมีระบบกำจัดขยะมูลฝอยและน้ำเสียซึ่งป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน ตลอดจนสามารถอำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 30 มกราคม 2567
1789