มติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง 6 มกราคม 2558
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 06 January 2015 22:46
- Hits: 4063
มติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง 6 มกราคม 2558
1. เรื่อง การแต่งตั้งกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ณ จังหวัดสงขลา
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทยว่า รัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นายตรีโยโก จัตมีโก (Mr. Triyogo Jatmiko) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ณ จังหวัดสงขลา โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม 13 จังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา ระนอง สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
2. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี และผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ดังนี้
1. นายอยุทธ์ หรินทรานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมปศุสัตว์
2. นายสุรเดช เตียวตระกูล รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
3. นายธนิตย์ เอนกวิทย์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
3. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (เอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศ) เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 3 ราย ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับแล้ว ดังนี้
1. นายเชิดชู รักตะบุตร อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ บันดาร์เสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม
2. นายรัศมี จิตต์ธรรม กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
3. นางสาวอังสนา สีหพิทักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ รัฐอิสราเอล
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
4. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ จำนวน 8 คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ครบวาระ ดังนี้ 1. นางสุวณี รักธรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสุขภาพอนามัย 2. รองศาสตราจารย์สุรสิทธิ์ วชิรขจร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา 3. รองศาสตราจารย์พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย 4. รองศาสตราจารย์เดชา สังขวรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดสวัสดิการสังคม 5. นายสมชัย จิตสุชน 6. นายวิชัย อัศรัสกร 7. นายมณเฑียร บุญตัน 8. นายพรเทพ พัฒธนานุรักษ์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2558 เป็นต้นไป
5. เรื่อง การเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ และพิจารณามอบหมายสำนักงบประมาณอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประธานกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ เสนอ ดังนี้
1. รับทราบคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาต ที่ 127/2551 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2557 และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2558 ลงวันที่ 5 มกราคม 2558
2. มอบหมายให้สำนักงบประมาณอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานและรับผิดชอบงานธุรกรรมของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 127/2557 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2557 และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2558 ลงวันที่ 5 มกราคม 2558 และพิจารณาการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเบี้ยประชุมกรรมการ และการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อให้เบิกจ่ายได้ตามระเบียบของทางราชการ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานประมาณ
ทั้งนี้ ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับสถานที่ปฏิบัติงานของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1 /2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตามองค์ประกอบคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติเพื่อให้การดำเนินงานของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางในการกำหนดองค์ประกอบของ คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 127/2557 ลงวันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ
ข้อ 1 คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ประกอบด้วย หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาประธานกรรมการ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย พลเอก อุดมเดช สีตบุตร พลเรือเอก ไกรสร จัรทร์สุวานิชย์ พลอากาศเอก ตรีทศ สนแจ้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายประมนต์ สุธีวงศ์ นายบรรยง พงษ์พานิช นางจุรี วิจิตรวาทการ นายต่อตระกูล ยมนาค นางสาววลัยรัตน์ ศรีอรุณ นายวิชัย อัศรัสกร รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล โดยมีประธานกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้แทนสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ (1) ผู้แทนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ (2) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ (3)
ข้อ 2 ให้คณะกรรมการตามข้อ 1 มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(1) จัดทำแนวทางและมาตรการในการบูรณาการเพื่อเสริมสร้างและประสานความร่วมมือ ในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบระหว่างหน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายในเรื่องดังกล่าวเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและไปในทิศทางเดียวกันและเสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
(2) ติดตาม ประสานงาน และสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือในการดำเนินงานของคณะกรรมการตามกฏหมายหรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ตลอดจนพิจารณาข้อเสนอของภาคเอกชนในการต่อต้าน ป้องกัน และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ
(3) จัดทำผลการดำเนินการและเสนอแนะความเห็นหรือกลไกในการดำเนินการที่จำเป็นในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือเพื่อมีมติสั่งการให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการ
(4) จัดทำข้อเสนอแนะในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบไปยังคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประกอบการพิจารณาตามที่เห็นสมควร
(5) ในกรณีที่เห็นสมควรอาจแจ้งต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อขอให้มีการประชุมร่วมกันของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี เพื่อปรึกษาหารือหรือพิจารณาแนวทางการดำเนินการเพื่อให้การแก้ไขปัญหาในเรื่องของการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
(6) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณาหรือช่วยเหลือในการปฏิบัติงานตามความจำเป็น
(7) เชิญเจ้าหน้าที่ บุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงให้ข้อเท็จจริง ความเห็นหรือคำแนะนำทางวิชาการ หรือเรียกเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามความจำเป็น
(8) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบหมาย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พุทธศักราช 2558 เป็นต้นไป
6. เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับคำพิพากษาคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อวิเคราะห์คำพิพากษาและแนวทางการดำเนินการ และคณะกรรมการแปลเอกสารในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
คณะกรรมการเพื่อวิเคราะห์คำพิพากษาและแนวทางการดำเนินการ
องค์ประกอบ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานกรรมการ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศที่ได้รับมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ Professor Alain Pellet ที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ Professor James Crawford ที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ Professor Donald McRae ที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ Ms. Alina Miron ผู้ช่วยที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ Mr.Thomas Grant ผู้ช่วยที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศProfessor Alastair Macdonald ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคแผนที่ Professor Martin Pratt ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคแผนที่ เป็นที่ปรึกษากรรมการ กรรมการประกอบด้วย นายธนะ ดวงรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เจ้ากรมพระธรรมนูญ เจ้ากรมแผนที่ทหาร อธิบดีกรมสารนิเทศ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย ผู้แทนกองทัพบก ผู้แทนกองทัพเรือ ผู้แทนกองทัพอากาศ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ศาสตราจารย์ จตุรนต์ ถิระวัฒน์ นายสราวุธ เบญจกุล นายกนก อินทรัมพรรย์ นายพนัส ทัศนียานนท์ นักกฎหมายภาครัฐที่เชี่ยวชาญกฎหมายภาย ในที่ประธานกรรมการแต่งตั้งตามคำแนะนำของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมี นายวีรชัย พลาศรัย เป็นกรรมการและเลขานุการ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
อำนาจหน้าที่ 1) ศึกษา วิเคราะห์ คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศกรณีกัมพูชาขอให้ศาลฯ ตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 เพื่อจัดทำคำอธิบายคำพิพากษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อเสนอต่อรัฐบาลไทย 2) ศึกษา วิเคราะห์ ผลของคำพิพากษาฯ ในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางกฎหมาย 3) เสนอแนะการดำเนินการต่อไปของรัฐบาล 4) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
คณะกรรมการแปลเอกสารในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505
องค์ประกอบ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมสารนิเทศ เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ผู้แทนราชบัณฑิตยสถาน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาษาและการแปลจากมหาวิทยาลัย ที่ประธานคณะกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาษาและการแปลจากมหาวิทยาลัย ที่ประธานคณะกรรมการแต่งตั้ง ผู้แทนกรมพระธรรมนูญ ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้อำนวยการกองเขตแดน กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ผู้อำนวยการกองสนธิสัญญา กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ผู้อำนวยการกองกฎหมาย กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ผู้อำนวยการกองพัฒนางานกฎหมายระหว่างประเทศ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เจ้าหน้าที่กรมสารนิเทศ เจ้าหน้าที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เจ้าเหน้าที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยมี เลขานุการกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ เจ้าหน้าที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
อำนาจหน้าที่ 1) ดำเนินการจัดทำคำแปลและตรวจสอบความถูกต้องของคำแปลเอกสารที่เกี่ยวข้องในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 2) ดำเนินการประชาสัมพันธ์คำแปลเอกสารที่เกี่ยวข้องในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 ให้สาธารณชนรับทราบ 3) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อปฏิบัติงานตามความเหมาะสม 4) พิจารณาการจัดทำรูปเล่มและตีพิมพ์ 5) พิจารณาดำเนินการต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุผลตามอำนาจหน้าที่ดังกล่าวข้างต้น 6) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 มกราคม 2558