ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกัน)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 16 January 2024 21:46
- Hits: 7750
ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกัน)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นการล่วงหน้าแล้ว
ทั้งนี้ กค. เสนอว่า
1. โดยที่รัฐบาลมีนโยบายลดภาระค่าครองชีพของประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศผ่านการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานทั้งค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้มและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นต้นทุนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของประชาชน และที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและภาษีสรรพสามิตเป็นเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร1 โดย กค. (กรมสรรพสามิต) ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 35) พ.ศ. 2566 ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกัน ประเภทอัตราตามปริมาณ (ลิตร) (ปรับลดประมาณ 2.50 บาทต่อลิตร) เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ เมื่อกฎกระทรวงดังกล่าวสิ้นสุดลงส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น เพื่อตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร2
2. กค. โดยกรมสรรพสามิตพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรตามข้อ 1 จึงเห็นควรดำเนินมาตรการทางภาษีโดยการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกัน ร่วมกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ 1) น้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถัน และ 2) น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ โดยปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตดังกล่าวประมาณ 1 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 19 เมษายน 2567 อย่างไรก็ดี กค. จะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบอย่างใกล้ชิดและจะพิจารณาความเหมาะสมของการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่อไป เพื่อให้ฐานะการคลังของประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น
3. กค. ได้จัดทำประมาณการการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวตามมาตรา 27 และมาตรา 32 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้ว โดยรายงานว่าการดำเนินการตามมาตรการภาษีดังกล่าวจะทำให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันลดลงประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อเดือน (คาดการณ์จากสถิติปริมาณการเสียภาษีในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566) โดยการดำเนินการตามมาตรการภาษีในครั้งนี้จะดำเนินการเป็นระยะเวลา 3 เดือน จึงคาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 6,000 ล้านบาท แต่จะเป็นการช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจในระดับที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกัน ประเภทอัตราตามปริมาณ (ลิตร) (ปรับลดประมาณ 1 บาทต่อลิตร) เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 19 เมษายน 2567
ประเภทน้ำมันดีเซล |
อัตราภาษี (บาท) (เดิม) |
อัตราภาษี (บาท) (ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 19 เมษายน 2567) |
1. น้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถัน 1) เกินร้อยละ 0.005 โดยน้ำหนัก 2) ไม่เกินร้อยละ 0.005 โดยน้ำหนัก |
6.440 6.440 |
5.440 5.440 |
2. น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ 1) ไม่เกินร้อยละ 4 2) เกินร้อยละ 4 แต่ไม่เกินร้อยละ 7 3) เกินร้อยละ 7 แต่ไม่เกินร้อยละ 9 4) เกินร้อยละ 9 แต่ไม่เกินร้อยละ 14 5) เกินร้อยละ 14 แต่ไม่เกินร้อยละ 19 6) เกินร้อยละ 19 แต่ไม่เกินร้อยละ 24 |
6.440 5.990 5.930 5.800 5.480 5.153 |
5.440 5.060 5.010 4.900 4.630 4.353 |
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2567 เป็นต้นไป อัตราภาษีน้ำมันดีเซลดังกล่าวข้างต้นจะกลับไปจัดเก็บในอัตราเดิม คือ 6.440 บาทต่อลิตร
____________________________
1 การใช้ภาษีสรรพสามิตเป็นเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีฐานะการเงินติดลบน้อยลง และข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีฐานะสุทธิอยู่ที่ -78,557 ล้านบาท (น้ำมัน -32,444 ล้านบาท และ LPG -46,113 ล้านบาท)
2 คณะรัฐมนตรีมีมติ (26 ธ.ค. 66) รับทราบเรื่องการดำเนินโครงการของกระทรวงพลังงานเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน ในส่วนแผนงาน/โครงการสำหรับช่วยเหลือและการบริการประชาชน โดยการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกิน 30 บาท
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย (รองนายกรัฐมนตรี) 16 มกราคม 2567
1394