ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้างประจำปี พ.ศ. 2566 (Memorandum of Understanding on the Cooperation on Projects of the Mekong-Lancang Cooperation Special Fund 2023)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 02 January 2024 20:37
- Hits: 1984
ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้างประจำปี พ.ศ. 2566 (Memorandum of Understanding on the Cooperation on Projects of the Mekong-Lancang Cooperation Special Fund 2023)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอดังนี้
1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง1 (กองทุนฯ) ประจำปี พ.ศ. 2566 (Memorandum of Understanding on the Cooperation on Projects of the Mekong-Lancang Cooperation Special Fund 2023) (ร่างบันทึกความเข้าใจฯ) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของไทย ขอให้ อว. หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้นๆ โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
2. อนุมัติให้ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
(ทั้งสองฝ่ายจะกำหนดช่วงเวลาในการลงนามภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจฯ)
สาระสำคัญของเรื่อง
อว. รายงานว่า
1. การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนฯ สำหรับโครงการที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนฯ ของหน่วยงานในสังกัด อว. ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ระหว่าง อว. (ฝ่ายไทย) กับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (ฝ่ายจีน) ซึ่งครั้งล่าสุดได้จัดทำขึ้นเมื่อปี 2565 [คณะรัฐมนตรีมีมติ (27 กันยายน 2565) เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนฯ ประจำปี 2565 เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการงบประมาณของโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายจีน จำนวน 8 โครงการ]
2. เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 25662 ฝ่ายจีนได้แจ้งผลการพิจารณาโครงการของไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนฯ ประจำปี 2566 และทั้งสองฝ่ายได้จัดทำร่างบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อเป็นแนวทางการบริหารจัดการงบประมาณของโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายจีนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในด้านต่างๆ เช่น การเกษตร ปศุสัตว์ การจัดการทรัพยากรน้ำ สุขภาพ ระบบขนส่ง การท่องเที่ยว โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องร่วมกันเกี่ยวกับเนื้อหาและสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ แล้ว สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
หัวข้อ |
สาระสำคัญ |
|
1. หลักการเบื้องต้น |
- เพื่อสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งสันติภาพและความมั่งคั่งในบรรดาประเทศสมาชิกแม่โขง-ล้านช้าง - ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ในการปรึกษาหารือ การประสานงาน การร่วมมือกันและการได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน - เคารพกฎหมายและกฎระเบียบของทั้งสองฝ่าย - ร่วมติดตามประเมินโครงการและการใช้งบประมาณจากกองทุนฯ |
|
2. โครงการและหน่วยงานดำเนินโครงการ |
ฝ่ายจีนได้พิจารณาโครงการที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณในปี 2566 ของไทย โดยมีโครงการที่ได้รับอนุมัติ จำนวน 13 โครงการ เช่น (1) โครงการการเชื่อมโยงและยกระดับขีดความสามารถด้านสมุนไพรในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงด้วยเทคโนโลยีสีเขียว โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) (2) โครงการการพัฒนาและสาธิตระบบการรู้จำและตรวจจับข้อมูลสำหรับกระบวนการเลี้ยงโคเนื้อและการบริหารจัดการฟาร์มในภูมิภาคแม่โขงล้านช้าง โดยมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง |
|
3. การจัดสรรงบประมาณและบริหารงบประมาณ |
- ฝ่ายจีนจะจัดสรรงบประมาณเต็มจำนวนให้กับฝ่ายไทย ภายใน 20 วันทำการ หลังจากที่ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ (รวมเป็นเงินจำนวน 2,834,101 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 103.1 ล้านบาท)3 - ฝ่ายไทยจะแจ้งการได้รับการจ่ายเงิน ภายใน 10 วันทำการ หลังจากได้รับการจ่ายเงิน |
|
4. การบริหารจัดการโครงการ |
- ฝ่ายไทยจะใช้มาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมในการกำหนดความรับผิดชอบของหน่วยงานดำเนินโครงการ โดยให้หน่วยงานดำเนินโครงการตามแผน ระยะเวลาและงบประมาณของโครงการ ทั้งนี้ ให้ถือว่าวันที่ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ เป็นวันเริ่มต้นโครงการ - ฝ่ายไทยจะแจ้งฝ่ายจีนหากมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นนัยสำคัญในการดำเนินโครงการและทั้งสองฝ่ายจะหารือมาตรการสำหรับการติดตามผ่านการหารือร่วมกัน |
|
5. การกำกับดูแลการตรวจสอบและการประเมินผล |
- ฝ่ายไทยจะตรวจสอบการดำเนินโครงการในเรื่องต่างๆ เช่น ความก้าวหน้าประสิทธิภาพของการดำเนินโครงการ การใช้งบประมาณให้เป็นไปตามข้อกำหนดและจะแจ้งฝ่ายจีนถึงความก้าวหน้าในระยะเวลาที่เหมาะสม - ฝ่ายไทยจะเร่งรัดหน่วยงานดำเนินโครงการจัดทำรายงานผลการดำเนินโครงการและเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จ ภายใน 2 เดือน หลังโครงการเสร็จสมบูรณ์ และนำส่งงบประมาณส่วนที่เหลือจ่ายให้แก่ฝ่ายจีน ภายใน 3 เดือน หลังจบโครงการ |
|
6. การทบทวนและการแก้ไขเพิ่มเติม |
ตกลงร่วมกันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรและจะมีผลหลังจากวันที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันผ่านการปรึกษาหารือ |
|
7. การประยุกต์ใช้ |
บันทึกความเข้าใจฯ ไม่ก่อให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายต่อทั้งสองฝ่ายและไม่เป็นสนธิสัญญาภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ |
|
8. ระยะเวลา |
- บันทึกความเข้าใจฯ มีผลบังคับใช้ในวันที่ลงนามและมีระยะเวลา 5 ปี โดยจะได้รับการต่ออายุโดยอัตโนมัติเป็นเวลาอีก 5 ปี - การสิ้นสุดของบันทึกความเข้าใจฯ จะไม่กระทบต่อการดำเนินกิจกรรม/โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตัดสินใจก่อนการสิ้นสุดของบันทึกความเข้าใจฯ |
ทั้งนี้ กต. พิจารณาแล้วไม่มีข้อขัดข้องต่อสารัตถะและถ้อยคำของร่างบันทึกความเข้าใจฯ และเห็นว่าไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ซึ่งเป็นไปตามที่ กต. ได้แจ้ง อว.)
______________________
1 กองทุนฯ จัดตั้งขึ้นในการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (กรอบความร่วมมือฯ) ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน (จีน) เพื่อเป็นกองทุนสำหรับดำเนินกิจกรรม/โครงการความร่วมมือต่างๆ ของประเทศสมาชิก ประกอบด้วย ราชอาณาจักรกัมพูชา (กัมพูชา) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (เมียนมา) สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (เวียดนาม) ไทย และจีน
2 จากการประสานข้อมูลเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 อว. แจ้งว่า สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้แจ้งผลการพิจารณาดังกล่าวมายัง กต. เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566
3 ใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โดย 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 36.4 บาท
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 2 มกราคม 2567
1014