รายงานความก้าวหน้าการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 27 December 2023 01:08
- Hits: 2748
รายงานความก้าวหน้าการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ (กวช.) เสนอความก้าวหน้าการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย โดยวัคซีน COVID-19 ที่วิจัยพัฒนาโดยองค์การเภสัชกรรม ชื่อทางการค้า HXP - GPOVAC ได้รับการอนุมัติการขึ้นทะเบียนแบบมีเงื่อนไข (Conditional Approval) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 เรียบร้อยแล้ว
สาระสำคัญ
กวช. รายงานว่า
1. จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVD-19 ที่เริ่มแพร่เข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2563 กวช. กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (สวช.) ได้จัดทำแผน Blueprint เพื่อการเข้าถึงวัคซีนป้องกัน COVID-19 ของประชาชนไทย โดยใช้เป็นกรอบนโยบายในการบูรณาการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2563-25651 และได้รับความเห็นชอบจาก กวช. เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 โดย สวช. ได้ดำเนินการภายใต้แผน Blueprint มาตั้งแต่ปี 2563 สรุปได้ ดังนี้
1.1 การจัดซื้อ จัดหาวัคซีน โดยจองล่วงหน้าจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 26 ล้านโดส ซึ่งลงนามในสัญญาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 และมีการเจรจาขอซื้อวัคซีนเพิ่มเติมอีกจำนวน 35 ล้านโดส โดยแก้ไขเพิ่มเติมจากสัญญาเดิม ทำให้ไม่ต้องเสียค่าจองวัคซีนเพิ่ม รวมมีการจัดหาวัคซีนจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า รวมทั้งสิ้น 61ล้านโดส ซึ่งวัคซีนดังกล่าวได้นำมาฉีดให้ประชาชนไทยในปี 2564-2565
1.2 การทำความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน โดย อย. ได้ทำการประเมินและพิจารณาข้อมูลด้านคุณภาพของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตจากบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด พบว่า มีความทัดเทียมกับคุณภาพวัคซีนที่ผลิตจากประเทศอิตาลีที่ขึ้นทะเบียนไว้ ดังนั้น อย. จึงอนุมัติเพิ่มบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นสถานที่ผลิตวัคซีน COVID-19 ของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 และเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ส่งมอบวัคซีนได้ครบถ้วน จำนวน 61 ล้านโดส ตามสัญญา (ตามข้อ 1.1)
1.3 การพัฒนาวัคซีนต้นแบบในประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำ โดยหน่วยงานที่มีศักยภาพในประเทศได้ดำเนินการวิจัยพัฒนาวัคซีน COVID-19 ภายใต้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีชนิดต่างๆ ซึ่งมีความสำเร็จและความก้าวหน้า สรุปได้ดังนี้
ชนิดวัคซีน |
ความสำเร็จและความก้าวหน้า |
|
(1) วัคซีนชนิด Inactivated recombinant viral vector vaccine |
วิจัยโดยองค์การเภสัชกรรม ซึ่งได้รับการอนุมัติการขึ้นทะเบียนแบบมีเงื่อนไข2 (Conditional Approval) เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 โดยใช้ชื่อทางการค้า HXP-GPOVAC และใช้ในกลุ่มเป้าหมายสำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป |
|
(2) วัคซีนชนิด mRNA |
วิจัยโดยศูนย์วิจัยวัคซีนแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจาก อย. ให้ดำเนินการศึกษาวิจัยในมนุษย์ระยะที่ 2 |
|
(3) วัคซีนชนิด Protein subunit (Plant-based) |
วิจัยโดยบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ซึ่งได้รับอนุญาตให้ผลิตยาตัวอย่างเพื่อขอขึ้นทะเบียนตำรับยาตามแบบ ผ.ย. 8 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อทดสอบวัคซีนในมนุษย์ |
|
(4) วัคซีนขนิด DNA |
วิจัยโดยบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด แม้ว่าจะไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จของการศึกษาวิจัยในมนุษย์ระยะที่ 1 แต่ยังสามารถใช้ศักยภาพของโรงงานผลิตวัคซีนเพื่อสนับสนุนการผลิตวัคซีนชนิด Nucleic acid3 |
______________________
1 คณะรัฐนตรีมีมติ (3 มีนาคม 2563) เห็นชอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2563-2565 โดยใช้เป็นกรอบในการขับเคลื่อนการพัฒนางานด้านวัคซีนเพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านวัคซีน ประชาชนทุกคนในประเทศเข้าถึงการป้องกันโรคด้วยวัคซีนที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง และเป็นธรรม
2 การอนุมัติการขึ้นทะเบียนแบบมีเงื่อนไข เช่น ผู้รับอนุญาตต้องติดตามความปลอดภัยผู้รับยาทุกราย ติดตามการศึกษาด้านข้อมูล ด้านคุณภาพ ด้านประสิทธิผล และความปลอดภัย และต้องยื่นขอรับหนังสือรับรองรุ่นการผสิตยาชีววัตถุทุกรุ่นการผลิตก่อนออกจำหน่ายหรือส่งมอบให้ผู้ใช้
3 วัคซีนชนิด Nucleic acid (กรดนิวคลีอิก) เป็นวัคซีนชนิดที่กระตุ้นเซลล์ร่างกายให้สร้างแอนติเจน (สารก่อภูมิต้านทาน) โดยใช้สารพันธุกรรมโดยตรงไม่ต้องอาศัยพาหะ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีนชนิด DNA และวัคซีนชนิด mRNA
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 26 ธันวาคม 2566
12846