ขอขยายระยะเวลาการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ต่อคณะรัฐมนตรี (พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 08 November 2023 17:54
- Hits: 2770
ขอขยายระยะเวลาการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ต่อคณะรัฐมนตรี (พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ
ทั้งนี้ กษ. เสนอว่า
1. คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (19 มกราคม 2564) กำหนดให้หน่วยงานของรัฐตรวจสอบกฎหมายในความรับผิดชอบของตนว่า มีกรณีที่ต้องมีการออกกฎหรือกำหนดให้รัฐต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 หรือไม่ โดยให้มีการเร่งออกกฎหรือดำเนินการดังกล่าวให้แล้วเสร็จในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 สำหรับกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ก่อนวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติ (28 กุมภาพันธ์ 2566) ให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานเร่งตรวจสอบกฎหมายในความรับผิดชอบของตนซึ่งมีผลใช้บังคับก่อนวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ที่เข้าข่ายเป็นกรณีตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 และเร่งดำเนินการจัดทำกฎหรือดำเนินการนั้น ภายในขอบเขตหน้าที่และอำนาจให้แล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 กรณีที่ไม่อาจดำเนินการให้แล้วเสร็จครบถ้วนได้ทันภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ให้พิจารณาเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอขยายระยะเวลาออกไปอีก 1 ปี ตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยให้ระบุเหตุผลความจำเป็นของการขอขยายระยะเวลาดังกล่าวประกอบด้วย
2. พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กษ. (กรมประมง) ซึ่งมีผลบังคับใช้อยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายฯ มีผลบังคับใช้ จะครบกำหนดระยะเวลาการดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายฯ ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 โดยกฎหมายลำดับรองที่ต้องดำเนินการออกตามพระราชกำหนดการประมงฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 213 ฉบับ ซึ่งปัจจุบันได้ประกาศใช้บังคับแล้ว จำนวน 206 ฉบับ และอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 7 ฉบับ ซึ่งต้องดำเนินการด้วยความละเอียด รอบคอบ ครบถ้วนในทุกๆ ด้าน เช่น ข้อมูลทางด้านวิชาการ การรักษาความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ หรือการจัดระเบียบการประกอบอาชีพ รวมถึงเพื่อมิให้บทบัญญัติของกฎหมายสิ้นผลบังคับลงอันจะก่อให้เกิดผลกระทบหรือความเสียหายแก่การบริหารราชการแผ่นดิน โดยที่ผ่านมากรมประมงได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียและผู้ประกอบการรวมทั้งมีการเก็บรวบรวมข้อมูลทางวิชาการในบางส่วนแล้ว ซึ่งยังมีข้อโต้แย้งและข้อกังวลในการปฏิบัติและการบังคับใช้กฎหมายในบางเรื่องจึงยังไม่ได้ข้อยุติและควรดำเนินการอย่างรอบคอบ ด้วยเหตุนี้ กรมประมงจึงไม่สามารถดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ได้ ดังนั้น กษ. (กรมประมง) จึงมีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอขยายระยะเวลาในการออกกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามพระราชกำหนดดังกล่าว ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566
สาระสำคัญของเรื่อง
ขอขยายระยะเวลาในการออกกฎหมายลำดับรองตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 7 พฤศจิกายน 2566
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
11318