การขยายระยะเวลาในการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Thursday, 24 August 2023 00:21
- Hits: 1786
การขยายระยะเวลาในการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอดังนี้
1. ให้ขยายระยะเวลาในการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา 6 ประกอบมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ออกไป อีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566
2. ให้ขยายระยะเวลาในการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา 5 มาตรา 24 วรรคสาม และ มาตรา 41 (2) แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566
ทั้งนี้ มท. เสนอว่า
1. เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติ (28 กุมภาพันธ์ 2566) ให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงาน เร่งตรวจสอบกฎหมายในความรับผิดชอบของตนซึ่งมีผลใช้บังคับก่อนวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ที่เข้าข่ายเป็นกรณีตามมาตรา 221 แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 และเร่งดำเนินการจัดทำกฎหรือดำเนินการนั้น ภายในขอบเขตหน้าที่และอำนาจให้แล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 กรณีที่ไม่อาจดำเนินการให้แล้วเสร็จครบถ้วนได้ทันภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ให้พิจารณาเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอขยายระยะเวลาออกไปอีก 1 ปี ตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยให้ระบุเหตุผลความจำเป็นของการขอขยายระยะเวลาดังกล่าวประกอบด้วย
2. โดยที่กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของ มท. ได้แก่ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 และพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 เป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายฯ ใช้บังคับ (ก่อนวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562) โดยพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับข้างต้นจะครบกำหนดระยะเวลาการออกกฎหรือดำเนินการตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 แต่เนื่องจากปัจจุบัน มท. (กรมการปกครอง) มีกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจพิเคราะห์บทบัญญัติของกฎหมายและสาระสำคัญของกฎหมายฉบับต่างๆ ว่าบทบัญญัติใดมีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายฯ หรือไม่ และยังต้องใช้เวลาในการทบทวนตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาเสนอกฎ มท. จึงมีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอขยายระยะเวลาในการออกกฎหมายลำดับรองซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ดังนี้
1) กฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ซึ่งออกตามความในมาตรา 6 ประกอบมาตรา 44 มีเหตุผลความจำเป็นในการขอขยายระยะเวลาการออกกฎ ดังนี้
สาระสำคัญของกฎหมาย |
เหตุผลความจำเป็นของการขอขยายระยะเวลา |
|
การออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการเก็บรักษาในกรณีผู้สั่งหรือนำเข้าซึ่งวัตถุระเบิดมาเก็บรักษากับเจ้าพนักงาน |
1. ต้องพิจารณาถึงการกำหนดพฤติการณ์และเหตุแห่งความจำเป็นว่า ผู้สั่งหรือนำเข้าซึ่งวัตถุระเบิดสามารถกระทำการส่งมอบวัตถุระเบิดให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐจัดเก็บแทนได้ในกรณีใดบ้างโดยต้องผ่านการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อความละเอียดรอบคอบในการบังคับใช้กฎหมาย 2. ต้องพิจารณาในเรื่องการกำหนดมาตรฐานการจัดเก็บพื้นที่ความปลอดภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจที่จะกระทำการตามมาตราดังกล่าว โดยจะต้องมีการศึกษาอย่างรอบคอบเนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน |
2) กฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ซึ่งออกตามความในมาตรา 5 มาตรา 24 วรรคสาม และมาตรา 41 (2) มีเหตุผลความจำเป็นในการขอขยายระยะเวลาการออกกฎ ดังนี้
สาระสำคัญของกฎหมาย |
เหตุผลความจำเป็นของการขอขยายระยะเวลา |
|
การออกกฎกระทรวงกำหนดกิจการอื่นของนิยามคำว่า “เกษตรกรรม” ซึ่งจะทำให้เกษตรกรผู้ประกอบกิจการอื่นตามที่กฎกระทรวงนี้กำหนดได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย (มาตรา 5) |
ต้องดำเนินการรวบรวมความคิดเห็นและรวบรวมข้อมูลจากผู้มีสิทธิหรือหน้าที่ หรือได้รับผลกระทบที่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างรอบคอบและหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
|
การออกกฎกระทรวงกำหนดรูปแบบของหนังสือหลักฐานการเช่านา เพื่อประโยชน์แก่ผู้เช่านาหรือผู้ให้เช่านา (มาตรา 24 วรรคสาม) |
||
การออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการลงทุนทำนาของผู้เช่านา ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้เช่านาที่จะชำระค่าเช่านาให้แก่ผู้ให้เช่านาในอัตราที่น้อยลง (มาตรา 41 (2)) |
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาแล้วว่า ในเรื่องนี้ มท. เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาในการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา 6 ประกอบกับมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 และการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา 5 มาตรา 24 วรรคสาม และมาตรา 41 (2) แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 รวมจำนวน 4 ฉบับ ออกไปอีก 1 ปี นับแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เนื่องจากต้องใช้เวลาในการทบทวน ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ รวมทั้งการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนและภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ในมาตรา 22 ประกอบกับมาตรา 39 (1) แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ดังนั้นคณะรัฐมนตรีจึงสามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบการขยายระยะเวลาตามที่ มท. เสนอได้ตามที่เห็นสมควร
สาระสำคัญ
การขอขยายระยะเวลาในการออกกฎที่กระทรวงมหาดไทยเสนอเป็นการขอขยายระยะเวลาในการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา 6 ประกอบกับมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 จำนวน 1 ฉบับ และขอขยายระยะเวลาในการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา 5 มาตรา 24 วรรคสาม และมาตรา 41 (2) แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 จำนวน 3 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 4 ฉบับ โดยการขอขยายระยะเวลาการออกกฎดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ซึ่งบัญญัติให้กฎหมายที่กำหนดให้ต้องมีการออกกฎ หรือกำหนดให้รัฐต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อที่ประชาชนจะสามารถปฏิบัติตามกฎหมาย หรือได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายนั้นได้ หากมิได้มีการออกกฎดังกล่าวหรือยังมิได้ดำเนินการนั้นภายในระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันที่กฎหมายนั้นมีผลใช้บังคับ และบทบัญญัติในเรื่องนั้นก่อภาระหรือเป็นผลร้ายต่อประชาชนให้บทบัญญัติดังกล่าวเป็นอันสิ้นผลบังคับแต่ในกรณีที่บทบัญญัติในเรื่องนั้นให้สิทธิประโยชน์แก่ประชาชน ให้บทบัญญัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับได้โดยไม่ต้องมีกฎหรือดำเนินการดังกล่าว โดยระยะเวลา 2 ปีดังกล่าวคณะรัฐมนตรีจะมีมติขยายออกไปอีกก็ได้แต่ไม่เกิน 1 ปี และต้องมีมติก่อนที่จะครบกำหนดเวลา 2 ปีดังกล่าว ทั้งนี้ มาตรา 39 (1) กำหนดให้ระยะเวลา 2 ปี ตามมาตรา 22 สำหรับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ ให้นับแต่เมื่อพ้นกำหนด 2 ปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ (นับแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564) ซึ่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 และพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 เป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายฯ ใช้บังคับ (ก่อนวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562) ดังนั้นการออกกฎหมายลำดับรองจำนวน 4 ฉบับดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยจึงต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 แต่เนื่องจากการดำเนินการออกกฎดังกล่าวต้องใช้เวลาในการทบทวน ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ รวมทั้งการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จทันภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ได้ กระทรวงมหาดไทยจึงมีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอขยายระยะเวลาในการออกกฎดังกล่าวซึ่งออกตามความในมาตรา 6 ประกอบมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 และการออกกฎซึ่งออกตามความในมาตรา 5 มาตรา 24 วรรคสาม และมาตรา 41 (2) แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 รวมทั้งสิ้นจำนวน 4 ฉบับ ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566
_____________________
1 มาตรา 22 วรรคสอง บัญญัติให้กฎหมายที่มิใช่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ต้องมีการออกกฎ หรือกำหนดให้รัฐต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อที่ประชาชนจะสามารถปฏิบัติตามกฎหมาย หรือได้รับสิทธิประโยชน์จากกฎหมายนั้นได้ หากมิมีได้การออกกฎดังกล่าวหรือยังมิได้ดำเนินการนั้นภายในระยะเวลาสองปีนับแต่วันที่กฎหมายนั้นมีผลใช้บังคับ และบทบัญญัติในเรื่องนั้นก่อภาระหรือเป็นผลร้ายต่อประชาชนให้บทบัญญัติดังกล่าวเป็นอันสิ้นผลบังคับ แต่ในกรณีที่บทบัญญัติในเรื่องนั้น ให้สิทธิประโยชน์แก่ประชาชนให้บทบัญญัติดังกล่าวมีผลบังคับได้โดยไม่ต้องมีกฎหรือดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้ ระยะเวลาสองปีดังกล่าวคณะรัฐมนตรีจะมีมติขยายออกไปอีกก็ได้แต่ไม่เกินหนึ่งปี และต้องมีมติก่อนที่จะครบกำหนดเวลาสองปีดังกล่าว
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 23 สิงหาคม 2566
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A8757