ร่างระเบียบ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Thursday, 24 August 2023 00:05
- Hits: 1776
ร่างระเบียบ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) เสนอและให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ กมช. เสนอว่า
1. พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 มาตรา 5 บัญญัติให้มี กมช. ประกอบด้วย
(1) นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ
(2) กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
(3) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกินเจ็ดคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านกฎหมาย ด้านการเงิน หรือด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ให้เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เลขาธิการแต่งตั้งพนักงานของสำนักงานเป็นผู้ช่วยเลขานุการได้ไม่เกินสองคน
หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กมช. รวมทั้งการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อดำรงตำแหน่งแทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระตามมาตรา 7 วรรคสอง ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด โดยการเสนอแนะของ กมช.
2. ดังนั้น เพื่อให้มีหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กมช. และสำนักงาน กมช. สามารถนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้ในการดำเนินการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ใน กมช. ได้ ก่อนที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมจะครบกำหนดวาระ 4 ปี ในวันที่ 10 ธันวาคม 25661 จึงได้ออกร่างระเบียบ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. .... ขึ้น โดยในคราวประชุม กมช. ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างระเบียบดังกล่าว และให้นำร่างระเบียบดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
สาระสำคัญของร่างระเบียบฯ
กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กมช. สรุปได้ดังนี้
1. การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา
กำหนดให้กรณีที่มีเหตุให้ต้องสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาคณะหนึ่งประกอบด้วย ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาอีกจำนวนไม่น้อยกว่า 5 คนแต่ไม่เกิน 7 คนจากบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ไซเบอร์ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านกฎหมาย ด้านการเงิน หรือด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
2. อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา
กำหนดให้คณะกรรมการสรรหามีอำนาจหน้าที่ในการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ดังต่อไปนี้
(1) ให้คณะกรรมการสรรหากำหนดด้านที่ประสงค์จะให้มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งนี้ ให้ประกอบด้วยด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ด้านเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านกฎหมาย ด้านการเงิน หรือด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมทั้งจำนวนกรรมการแต่ละด้านที่จะเสนอให้มีการแต่งตั้งด้านละหนึ่งคน ทั้งนี้จำนวนไม่เกิน 7 คน
(2) ให้กรรมการสรรหาเสนอชื่อบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความสามารถเป็นที่ประจักษ์ในด้านที่กำหนดใน (1) และมีคุณสมบัติ รวมทั้งไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 พร้อมทั้งประวัติย่อและความยินยอมของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ
(3) ห้ามมิให้เสนอรายชื่อกรรมการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(4) ก่อนการพิจารณาคัดเลือก ให้เลขานุการรวบรวมรายชื่อตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้าม พร้อมทั้งประวัติและผลงานของผู้ได้รับการเสนอชื่อ และเสนอให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณา
(5) ให้คณะกรรมการสรรหาดำเนินการคัดเลือกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เหลือจำนวนสองเท่าของจำนวนกรรมการที่จะมีในแต่ละด้านตาม (1) และสรุปผลการคัดเลือก พร้อมทั้งประวัติและผลงานของ ผู้ที่ได้รับการสรรหา
(6) ให้คณะกรรมการสรรหานำรายชื่อเสนอคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติพิจารณาคัดเลือกรายชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหาตาม (5) ให้เหลือเท่าจำนวนกรรมการในแต่ละด้าน ตามที่กำหนดใน (1) แล้วเสนอรายชื่อต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(7) ให้คณะกรรมการสรรหามีอำนาจดำเนินการอื่นใดเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาได้เท่าที่จำเป็นและไม่ขัดหรือแย้งกับหลักเกณฑ์และวิธีการตามระเบียบนี้
ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีไม่เห็นชอบด้วยกับรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่เสนอทั้งหมดหรือบางส่วนให้คณะกรรมการสรรหาดำเนินการสรรหาและเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิคนใหม่ ให้ครบจำนวนตามที่กฎหมายกำหนดโดยเร็ว
3. กำหนดให้การประชุมของคณะกรรมการสรรหาต้องมีกรรมการสรรหามาประชุมไม่น้อยกว่า กึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการสรรหาทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
4. การสิ้นสุดของคณะกรรมการสรรหา
เมื่อคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามจำนวนที่กำหนดในมาตรา 5 (3) แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 และได้นำรายชื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจำนวนประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้คณะกรรมการสรรหาสิ้นสุดลง
5. กรณีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ
เมื่อคณะกรรมการสรรหาสิ้นสุดลง และกรณีมีเหตุให้ต้องสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้เริ่มดำเนินการตามข้อ 4 ก่อนครบวาระของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวัน หรือภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ
6. ผู้รักษาการ
ให้ประธานกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ รักษาการตามระเบียบนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามระเบียบนี้หรือระเบียบนี้ไม่ได้กำหนดเรื่องใดไว้ ให้ประธานกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติมีอำนาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด ทั้งนี้ การตีความและวินิจฉัยชี้ขาดของประธานกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติให้ถือเป็นที่สุด
_________________
1 ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2562 โดยให้มีผลตั้งแต่ 11 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 23 สิงหาคม 2566
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A8754