ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรปะการังจากกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ พ.ศ. ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 23 August 2023 23:57
- Hits: 1681
ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรปะการังจากกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรปะการังจากกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงคมนาคมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ร่างประกาศที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการคุ้มครองทรัพยากรปะการังจากกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ เพื่อประโยชน์ในการสงวน คุ้มครอง อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรปะการัง โดยกำหนดให้ผู้ประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำต้องดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้ เช่น กำหนดให้การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำต้องมีผู้ควบคุมในการดูแลนักท่องเที่ยวไม่ให้กระทำการที่เป็นการต้องห้ามตามร่างประกาศนี้ กำหนดให้ผู้ควบคุมต้องแจ้งนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งวิธีปฏิบัติที่ดีในการดำน้ำโดยไม่กระทบกระเทือนต่อปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล เป็นต้น โดยมาตรการตามร่างประกาศดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับเป็นเวลา 5 ปี ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะไม่ใช้บังคับกับกิจกรรมที่มิใช่กิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ เช่น การดำน้ำเพื่อการศึกษาและวิจัยทางวิชาการ การดำน้ำเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งภายใต้การกำกับของหน่วยงานพื้นที่ที่รับผิดชอบ เป็นต้น โดยหากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติเห็นชอบด้วยแล้ว
ร่างประกาศมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดห้ามมิให้ดำเนินการในบริเวณแนวปะการัง ดังนี้
1.1 ห้ามแตะหรือสัมผัสปะการัง สัตว์น้ำ หรือสิ่งมีชีวิตใดๆ
1.2 ห้ามดำเนินกิจกรรม Sea Walker และห้ามดำนำโดยวิธีอื่นใดที่มีลักษณะเป็นการเดินหรือเคลื่อนที่บนพื้นทะเล
1.3 ห้ามเคลื่อนย้ายปะการัง สัตว์น้ำ หรือสิ่งมีชีวิตใดๆ มาให้นักท่องเที่ยวดู
1.4 ห้ามกระทำด้วยประการใดๆ อันก่อให้เกิดตะกอนตกทับหรือปกคลุมปะการัง หรือทำให้ปะการังได้รับความเสียหาย
1.5 ห้ามใช้ตีนกบโดยส่วนใดส่วนหนึ่งของตีนกบสัมผัสปะการัง และห้ามมิให้เตะตีนกบในลักษณะที่จะทำให้เกิดตะกอนฟุ้งจนตกทับหรือปกคลุมปะการัง หรือทำให้ปะการังได้รับความเสียหาย
1.6 ห้ามให้อาหารป่าหรือสัตว์น้ำ
1.7 ห้ามทิ้งขยะหรือปล่อยของเสียทุกชนิดในทะเล
1.8 ห้ามทิ้งสมอเรือในแนวปะการัง และบนพื้นทะเลในระยะรัศมี 3 เมตร จากแนวปะการัง
1.9 ห้ามผูกเชือกกับปะการังเพื่อทำแนวทุ่น
2. กำหนดให้การประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำต้องดำเนินการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้
2.1 การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำตื้น ให้มีผู้ควบคุมหนึ่งคนต่อนักท่องเที่ยวไม่เกินยี่สิบคน และกรณีนักท่องเที่ยวเกินยี่สิบคน ให้มีผู้ช่วยผู้ควบคุมเพิ่มในอัตราส่วนหนึ่งคนต่อนักท่องเที่ยวไม่เกินยี่สิบคน
2.2 การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำลึก นักท่องเที่ยวต้องผ่านการเรียนดำน้ำลึก โดยให้มี ผู้ควบคุมหนึ่งคนต่อนักดำน้ำลึกไม่เกินสี่คน
2.3 กิจกรรมทดลองการเรียนดำน้ำลึก ให้มีผู้ควบคุมหนึ่งคนต่อผู้เรียนไม่เกินสองคน
2.4 การเรียนดำน้ำลึกและการสอบดำน้ำลึก ให้มีผู้ควบคุมหนึ่งคนต่อผู้เรียนไม่เกินสี่คน และให้กระทำบนพื้นทรายนอกแนวปะการัง
2.5 ให้ผู้ควบคุมและผู้ช่วยควบคุมแจ้งกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนวิธีปฏิบัติที่ดีในการดำน้ำโดยไม่กระทบต่อปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลต่อนักท่องเที่ยวก่อนที่จะเริ่มต้นกิจกรรมการท่องเที่ยวดำน้ำ
2.6 ให้ผู้ควบคุมและผู้ช่วยควบคุมสอดส่องและป้องกัน มิให้มีการฝ่าฝืนมาตรการตามข้อ 1.
2.7 ในกรณีที่มีการใช้ตีนกบ ผู้ควบคุมจะต้องแจ้งวิธีการควบคุมตีนกบมิให้กระทบต่อปะการังแก่นักท่องเที่ยว และต้องทดสอบความสามารถในการควบคุมก่อนที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้าใกล้แนวปะการังด้วย
2.8 ห้ามมิให้นักท่องเที่ยวดำน้ำตื้นโดยไม่สวมเสื้อชูชีพในบริเวณแนวปะการัง เว้นแต่เป็นการดำน้ำตื้นโดยบุคคลที่ได้สอบผ่านหลักสูตรดำน้ำลึก หรือหลักสูตรดำน้ำอิสระ
3. กำหนดข้อปฏิบัติเกี่ยวกับกิจกรรมดำน้ำลึกในแนวปะการัง ดังนี้
3.1 ในระหว่างการเรียนหรือสอบดำน้ำลึก ห้ามนักเรียน หรือครูสอนดำน้ำถ่ายภาพใต้น้ำ เว้นแต่จะได้จัดให้มีบุคคลเพื่อทำหน้าที่ถ่ายภาพเป็นการเฉพาะโดยบุคคลที่ทำหน้าที่ถ่ายภาพต้องสอบผ่านหลักสูตรดำน้ำในระดับที่ Advanced Open Water ของสถาบัน PADI1 หรือสถาบัน SSI2 หรือระดับ Advanced Scuba Diver ของสถาบัน NAUI3 หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือต้องมีประสบการณ์การดำน้ำตั้งแต่ 40 ไดฟ์ขึ้นไป
3.2 ในการท่องเที่ยวดำน้ำลึก ห้ามนำกล้องลงไปถ่ายภาพใต้น้ำ เว้นแต่เป็นการถ่ายภาพใต้น้ำโดยบุคคลที่ผ่านหลักสูตรดำน้ำในระดับที่ Advanced Open Water ของสถาบัน PADI หรือสถาบัน SSI หรือระดับ Advanced Scuba Diver ของสถาบัน NAUI หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือต้องมีประสบการณ์การดำน้ำตั้งแต่ 40 ไดฟ์ขึ้นไป
4. กำหนดห้ามดำน้ำตื้นในแนวปะการังในช่วงเวลาน้ำลง เว้นแต่ระดับน้ำจะสูงกว่า 2 เมตรจากยอดแนวปะการัง
5. กำหนดให้การดำเนินการตามประกาศนี้ไม่ใช้บังคับกับกิจกรรมที่มิใช่กิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ เช่น การดำน้ำเพื่อการศึกษาและวิจัยทางวิชาการ การดำน้ำเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งภายใต้การกำกับของหน่วยงานพื้นที่ที่รับผิดชอบ เป็นต้น
6. กำหนดให้ในกรณีที่มีกฎหมายใดกำหนดมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเรื่องใดไว้โดยเฉพาะและเป็นมาตรการที่ไม่ต่ำกว่ามาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือมีมาตรการที่ดีกว่าในการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่กำหนดไว้ดังกล่าว ก็ให้เป็นไปตามมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่กำหนดไว้ในกฎหมายนั้น
7. กำหนดให้ประกาศนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และมีระยะเวลาบังคับใช้ห้าปีนับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ
_______________
1 PADI ย่อมาจาก Professional Association of Diving Instructors หรือสมาคมครูสอนดำน้ำมืออาชีพ
2 SSI ย่อมาจาก Scuba Schools International
3 NAUI ย่อมาจาก National Association of Underwater Instructors หรือสมาคมครูสอนดำน้ำแห่งชาติสหรัฐ
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 23 สิงหาคม 2566
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A8751