ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ในพื้นที่ป่าชายเลนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 09 August 2023 13:04
- Hits: 1667
ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ในพื้นที่ป่าชายเลนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2534 (เรื่อง รายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการังของประเทศไทย) วันที่ 22 สิงหาคม 2543 (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ 3/2543 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) เพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อนำที่ดินที่เป็นป่าชายเลนเนื้อที่รวม 352-0-61.51 ไร่ ไปดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
ทส. รายงานว่า
1. ที่ผ่านมา ทส. โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ดำเนินการจัดที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล โดยมีผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ดังนี้
ปีงบประมาณ พ.ศ. |
ผลการดำเนินการ |
2559 (มติคณะรัฐมนตรี 30 กันยายน 2558) |
จัดที่ดินอำเภอเมือง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 27,000 ไร่ แบ่งเป็น - จัดที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน 11,000 ไร่ - ปลูกป่าฟื้นฟูป่าชายเลน 16,000 ไร่ ได้รับหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแล้วเนื้อที่รวม 10,979-0-69 ไร่ 695 ครัวเรือน |
2560 (มติคณะรัฐมนตรี 23 พฤษภาคม 2560) |
จัดที่ดินอำเภอท่าศาลา อำเภอเมือง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 12,000 ไร่ แบ่งเป็น - จัดที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน 5,000 ไร่ - ปลูกป่าฟื้นฟูระบบนิเวศ 7,000 ไร่ ได้รับหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่รวม 3,397 ไร่ 363 ครัวเรือน จัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 9 จังหวัด1 28 ชุมชน เนื้อที่รวม 287-2-82.80 ไร่ ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว 27 ชุมชน เนื้อที่รวม 290-1-42.19 ไร่ 1,050 ครัวเรือน |
2561 (มติคณะรัฐมนตรี 23 พฤษภาคม 2560) |
จัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 18 จังหวัด2 252 ชุมชน เนื้อที่รวม 5,139-1-78 ไร่ ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว 93 ชุมชน เนื้อที่รวม 744-1-43.80 ไร่ 3,704 ครัวเรือน |
2562 (มติคณะรัฐมนตรี 16 พฤศจิกายน 2564) |
จัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 21 จังหวัด3 189 ชุมชน เนื้อที่รวม 3,116-1-28 ไร่ ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว 49 ชุมชน เนื้อที่รวม 582-2-84.30 ไร่ 3,186 ครัวเรือน |
2563 (มติคณะรัฐมนตรี 16 พฤศจิกายน 2564) |
จัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 14 จังหวัด4 67ชุมชน เนื้อที่รวม 988-2-76 ไร่ ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว 10 ชุมชน เนื้อที่รวม 45-2-77 ไร่ 275 ครัวเรือน |
2564 (มติคณะรัฐมนตรี 6 กันยายน 2565) |
จัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 13 จังหวัด5 64ชุมชน เนื้อที่รวม 573-3-78 ไร่ ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว 1 ชุมชน เนื้อที่รวม 3-1-02 ไร่ 6 ครัวเรือน |
2. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (ข้อเสนอในครั้งนี้) ทส. มีเป้าหมายจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในพื้นที่ป่าชายเลน ในท้องที่ 11 จังหวัด6 จำนวน 62 พื้นที่ เนื้อที่รวม 352-0-61.51 ไร่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
2.1 คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานอนุกรรมการ) มีมติเห็นชอบการกำหนดให้พื้นที่ป่าชายเลนเป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในการประชุมครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 จำนวน 18 พื้นที่ 6 จังหวัด เนื้อที่ 115-2-98.81 ไร่ และคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ) มีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินดังกล่าวแล้วในการประชุมครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565
2.2 คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน มีมติเห็นชอบพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนเพิ่มเติมในการประชุมครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 จำนวน 44 พื้นที่ 9 จังหวัด เนื้อที่ 236-1-62.70 ไร่ และคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ มีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินดังกล่าวแล้ว ในการประชุมครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566
3. การดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ในพื้นที่ป่าชายเลนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของ ทส. จะต้องขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีที่ห้ามใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนก่อน ซึ่ง ทช. ได้ลงพื้นที่สำรวจรังวัดและขึ้นรูปแปลงแล้ว โดยพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบของ ทส. ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 และพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ไม่ทับซ้อนกับพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่นและไม่กระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น และเมื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว เจ้าหน้าที่จะลงสำรวจพื้นที่ร่วมกับผู้นำหรือผู้แทนชุมชนผู้ที่อยู่อาศัยใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นผู้นำตรวจและนำชี้เป็นรายแปลง
4. ทช. จะดำเนินการต่อไปให้เป็นไปตามระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อม กรณีการดำเนินการโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน พ.ศ. 25567 ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานรัฐที่เข้าใช้ประโยชน์ป่าชายเลนต้องจัดสรรงบประมาณให้ ทช. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลนทดแทน ไม่น้อยกว่า 20 เท่า ของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้ประโยชน์
_____________________
1พื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช เพชรบุรี ระนอง ระยอง สตูล และสุราษฎร์ธานี
2พื้นที่ 18 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ชลบุรี ชุมพร ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระนอง สงขลา สตูล สมุทรสงคราม ระยอง และสุราษฎร์ธานี
3พื้นที่ 21 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชุมพร ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระนอง ระยอง สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสุราษฎร์ธานี
4พื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชุมพร ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ พังงา ภูเก็ต ระนอง ระยอง สงขลา และสตูล
5พื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ชลบุรี ชุมพร ตราด นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ พังงา ภูเก็ต ระนอง ระยอง สตูล และสุราษฎร์ธานี
6พื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตรัง ตราด พังงา ภูเก็ต ระนอง ระยอง และสมุทรปราการ
7ปัจจุบันระเบียบดังกล่าว ถูกยกเลิกโดยระเบียบ ทช. ว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมกรณีการดำเนินการโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน พ.ศ. 2566 แต่ยังคงมีข้อกำหนดคล้ายกับระเบียบเดิม คือ ให้หน่วยงานของรัฐที่เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนต้องจัดสรรงบประมาณให้ ทช. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลนทดแทน ไม่น้อยกว่า 20 เท่า ของพื้นที่ป่าชายเลนที่ได้รับอนุญาต แต่มีการกำหนดเพิ่มเติมในส่วนของประเภทกิจกรรมที่ ทช. สามารถนำงบประมาณที่ได้รับดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 8 สิงหาคม 2566
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A8217