ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท พ.ศ. ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 19 July 2023 02:56
- Hits: 1864
ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาต คุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต และ การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการนำผ่านวัตถุออกฤทธิ์ทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ (เว้นแต่การนำผ่านทางอากาศยานที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศซึ่งไม่มีการขนถ่ายวัตถุออกฤทธิ์ออกจากอากาศยาน ซึ่งประมวลกฎหมายยาเสพติดได้กำหนดให้ไม่ต้องขออนุญาต) เพื่อให้ การขออนุญาต และการอนุญาตนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นการกำหนดการดำเนินการของผู้รับอนุญาตที่ต้องปฏิบัติเพื่อประโยชน์ในการควบคุมกำกับดูแลที่เข้มงวดและป้องกันการรั่วไหลของวัตถุออกฤทธิ์ไปใช้ในทางที่ผิด โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยซึ่งมีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกยาและเภสัชภัณฑ์และเป็นผู้ได้รับอนุมัติเป็นผู้ขอผ่านแดน ผู้ขนส่งผ่านแดนหรือผู้ขอถ่ายลำ ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร รวมทั้งกำหนดขั้นตอนในการนำผ่านวัตถุออกฤทธิ์ให้ต้องมีการนำวัตถุออกฤทธิ์มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่และต้องมีการป้องกันตามสมควร เพื่อมิให้วัตถุออกฤทธิ์ที่นำผ่านสูญหายหรือมีการนำไปใช้โดยมิชอบ อีกทั้งอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตนำผ่านวัตถุออกฤทธิ์ตามร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้เป็นการเรียกเก็บในอัตราเดิม คือ ฉบับละ 500 บาท ซึ่งไม่เกินอัตราที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดกำหนดไว้ โดยร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้จะนำมาใช้บังคับแทนกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท พ.ศ. 2563 และกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2560 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและ ประสาท พ.ศ. 2559 และพระราชบัญญัติดังกล่าวถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นชอบในหลักการของร่างกฎกระทรวง
กระทรวงสาธารณสุขได้นำร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย รวมทั้งเปิดเผยผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์นั้นแก่ประชาชน ตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 และกฎกระทรวงกำหนดร่างกฎที่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบ พ.ศ. 2565 แล้ว
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
ร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตนำผ่านวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท สรุปได้ดังนี้
สาระสำคัญ |
หมายเหตุ |
|
1. คุณสมบัติของผู้ขออนุญาต |
||
1.1 เป็นนิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทยที่มีวัตถุประสงค์เป็นผู้ประกอบกิจการนำเข้าและส่งออกยา ยารักษาโรค เภสัชภัณฑ์ หรือเภสัชเคมีภัณฑ์ และ 1.2 เป็นผู้ได้รับอนุมัติเป็นผู้ขอผ่านแดน ผู้ขนส่งผ่านแดน หรือผู้ขอถ่ายลำตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร |
เดิมกำหนดเพียงว่าผู้ขออนุญาตต้องมีภูมิลำเนาในประเทศไทย |
|
2. การดำเนินการขออนุญาต |
||
2.1 กำหนดให้ผู้ขออนุญาตยื่นคำขอรับใบอนุญาตโดยระบุเหตุผลและความจำเป็น พร้อมด้วยข้อมูล เอกสาร และหลักฐาน เช่น สำเนาใบอนุญาตส่งออกหรือหนังสือแสดงการอนุญาตให้ส่งออกของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศที่ส่งออก สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจากกระทรวงพาณิชย์พร้อมวัตถุประสงค์ เอกสารหลักฐานการได้รับอนุมัติจดทะเบียนเป็นผู้ขอผ่านแดน ผู้ขนส่งผ่านแดน หรือผู้ขอถ่ายลำตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร เป็นต้น 2.2 กำหนดให้การยื่นคำขออนุญาตดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก |
หลักการคงเดิม |
|
3. การออกใบแทนใบอนุญาต |
||
ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหาย ถูกทำลาย หรือลบเลือนในสาระสำคัญให้ผู้รับอนุญาตยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการ สูญหาย ถูกทำลาย หรือลบเลือนในสาระสำคัญ |
หลักการคงเดิม |
|
4. การนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ |
||
4.1 ผู้รับอนุญาตต้องนำใบอนุญาตส่งออกของประเทศที่ส่งออกพร้อมกับวัตถุออกฤทธิ์นั้น มาให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ด่านตรวจสอบวัตถุออกฤทธิ์ โดยชนิดและปริมาณของวัตถุออกฤทธิ์ต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตนำผ่าน 4.2 ผู้รับอนุญาตต้องจัดให้มีการป้องกันตามสมควร เพื่อมิให้วัตถุออกฤทธิ์ที่นำผ่านสูญหายหรือมีการนำไปใช้โดยมิชอบ 4.3 ในกรณีการนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 ผู้รับอนุญาตต้องแจ้งให้ผู้ควบคุมยานพาหนะที่ใช้บรรทุกทราบก่อนเข้ามาในราชอาณาจักร โดยผู้ควบคุมยานพาหนะต้องจัดให้มีการป้องกันตามสมควร เพื่อมิให้วัตถุออกฤทธิ์ที่นำผ่านสูญหายหรือมีการนำไปใช้โดยมิชอบ และในกรณีที่มีการขนถ่ายวัตถุออกฤทธิ์ไปยังยานพาหนะอื่น ให้ผู้ควบคุมยานพาหนะแจ้งให้พนักงานศุลกากรทราบ และให้พนักงานศุลกากรมีหน้าที่ควบคุมวัตถุออกฤทธิ์ในระหว่าง ขนถ่าย 4.4 ผู้รับอนุญาตต้องส่งวัตถุออกฤทธิ์ไปยังจุดหมายที่ระบุไว้ในใบอนุญาตส่งออกที่พร้อมกับวัตถุออกฤทธิ์ เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากประเทศผู้ออกใบอนุญาตนั้นและได้รับความเห็นชอบจากเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา 4.5 ในกรณีที่ไม่อาจส่งวัตถุออกฤทธิ์ไปยังจุดหมายที่กำหนดได้ ให้ผู้รับอนุญาตส่งวัตถุออกฤทธิ์กลับคืนไปยังประเทศที่ส่งออกภายใน 30 วันนับแต่วันที่วัตถุออกฤทธิ์เข้ามาในราชอาณาจักร 4.6 ผู้รับอนุญาตต้องดำเนินการนำผ่านวัตถุออกฤทธิ์โดยส่งวัตถุออกฤทธิ์ออกนอกราชอาณาจักรภายใน 30 วันนับแต่วันที่วัตถุออกฤทธิ์เข้ามาในราชอาณาจักร หาก ไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด ให้วัตถุออกฤทธิ์นั้นตกเป็นของ สธ. และให้ สธ. หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายทำลายหรือนำไปใช้ประโยชน์ตามระเบียบที่ สธ. กำหนด 4.7 ผู้รับอนุญาตต้องจัดทำบัญชีและเสนอรายงานเกี่ยวกับการดำเนินกิจการตามที่ได้รับอนุญาตต่อเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาภายในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งเดือนหลังจากที่ได้มีการนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ |
ปรับปรุงจากกฎกระทรวงเดิมในข้อ 4.1 โดยกำหนดเพิ่มเติมให้ผู้รับอนุญาตต้องนำใบอนุญาตส่งออกมาให้พนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมกับวัตถุออกฤทธิ์ด้วย |
|
5. ค่าธรรมเนียม |
||
ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตนำผ่านวัตถุออกฤทธิ์ ฉบับละ 500 บาท |
หลักการคงเดิม |
|
6. บทเฉพาะกาล |
||
6.1 กำหนดให้ใบอนุญาตนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ที่ออกตามกฎกระทรวงเดิม ยังคงใช้ได้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต 6.2 กำหนดให้ถือว่าคำขออนุญาตที่ได้ยื่นไว้ตามกฎกระทรวงเดิม เป็นคำขออนุญาตตามร่างกฎกระทรวงนี้ และในกรณีที่คำขอดังกล่าว มีข้อแตกต่างไปจากคำขอตามร่างกฎกระทรวงนี้ ให้ผู้อนุญาตสั่งให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมได้ตามความจำเป็น |
|
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 18 กรกฎาคม 2566
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A7638