โครงการที่จะเป็นของขวัญให้ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Thursday, 25 December 2014 19:58
- Hits: 2379
โครงการที่จะเป็นของขวัญให้ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง โครงการที่จะเป็นของขวัญให้ประชาชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี “ของขวัญปีใหม่จากใจ ทส.”
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานการจัดทำโครงการที่จะเป็นของขวัญให้ประชาชนของ ทส. ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี “ของขวัญปีใหม่จากใจ ทส.”
สาระสำคัญของเรื่อง
ทส. ได้จัดทำโครงการ “ของขวัญปีใหม่จากใจ ทส.” เพื่อเป็นของขวัญให้แก่ประชาชนของ ทส. ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ (1) ของขวัญปีใหม่ตามนโยบายรัฐบาลที่ประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ในระยะยาว และ (2) ของชำร่วยปีใหม่แถมให้ประชาชน ซึ่งสรุปได้ดังนี้
1. ของขวัญปีใหม่ตามนโยบายรัฐบาลที่ประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ในระยะยาว
1.1 นโยบายแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง
1.1.1 จัดทำโครงการ “คืนคลองให้น้ำไหล คืนความใสให้แม่น้ำทั่วประเทศ” เพื่อบำรุงรักษาขุดลอกคู คลอง แหล่งน้ำธรรมชาติ และประชาสัมพันธ์และสร้างการมีส่วนร่วม ในพื้นที่ 77 จังหวัด จำนวน 77 ลำน้ำ/คลอง ระยะทางรวม (อย่างน้อย) 999 กิโลเมตร เพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำ หรือคลองชักน้ำเข้าสู่แหล่งกักเก็บน้ำธรรมชาติ หรือแหล่งน้ำที่มีผลกระทบกับชุมชน
1.1.2 สร้างระบบประปาบาดาลให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จำนวน 10 โรงเรียน ให้บริการเป่าล้างและซ่อมแซมระบบบาดาลเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง 500 พื้นที่ และมอบน้ำดื่มสะอาด จำนวน 240,000 ขวด แก่สถานสงเคราะห์เด็ก คนชรา และผู้ยากไร้
1.2 นโยบายบริหารจัดการขยะของประเทศไทย
1.2.1 ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในการกำจัดขยะมูลฝอยเก่าที่ตกค้างสะสม จำนวน 3,786,434 ตัน และปรับปรุบฟื้นฟูสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่วิกฤติ จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครปฐม สระบุรี ลพบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี
1.2.2 แจกเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน 187 เตา ให้กับพื้นที่นำร่องเพื่อให้ประชาชนกำจัดขยะชีวมวลอย่างมีประสิทธิภาพและลดปัญหาหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง โดยเฉพาะพื้นที่วิกฤติ 9 จังหวัด ภาคเหนือตอนบน ซึ่งเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควันนี้สามารถใช้ประโยชน์เป็นเตาเผาถ่านมลพิษต่ำได้อีกทางหนึ่งด้วย
1.3 นโยบายการบริหารจัดการพื้นที่ป่าไม้อย่างยั่งยืน
1.3.1 เปิดปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างเป็นระบบ โดยกำหนดลำดับความเร่วด่วนของพื้นที่ป่าเป้าหมายและวิธีการที่เหมาะสม ซึ่งจะเริ่มจากการเร่งรื้อถอนสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ป่าที่คดีสิ้นสุดแล้ว จำนวน 3,619 ไร่ และนำพื้นที่นี้กลับมาฟื้นฟูสภาพป่าต่อไป โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้จนถึงเดือนมีนาคม 2558
1.3.2 ส่งเสริมและจัดตั้ง “ป่าชุมชน” เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ติดกับพื้นที่ป่าสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากของป่าแลกกับการช่วยดูแลรักษาป่า ให้ประชาชนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน จำนวน 260 แห่ง ใน 64 จังหวัด พื้นที่ 260,000 ไร่ มีประชาชนได้รับประโยชน์ 124,800 คน
1.4 นโยบายจัดที่ดินให้ราษฎรผู้ไร้ที่ดินทำกิน
1.4.1 ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการจัดหาที่ดิน จำนวน 58,700 ไร่ เพื่อจัดให้ราษฎรผู้ยากไร้และไม่มีที่ดินทำกินเข้าใช้ประโยชน์ในลักษณะเป็นสิทธิชุมชน โดยรัฐบาลจะสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการส่งเสริมอาชีพ
1.4.2 นำร่องระบบสหกรณ์เพื่อจัดการใช้ประโยชน์ที่ดินจำนวน 6,800 ไร่ และฟื้นฟูป่าชายเลนเสื่อมสภาพให้เป็นป่าชายเลนสมบูรณ์ จำนวน 5,800 ไร่
1.5 จัดทำเส้นทางจักรยานในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จำนวน 147 แห่ง โดยเริ่มที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นพื้นที่นำร่อง ระยะทางรวม 44.5 กิโลเมตร
2. ของชำร่วยปีใหม่ แถมให้ประชาชน
2.1 เปิดให้เข้าเยี่ยมชม ใช้บริการ และร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในช่วงระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ถึง 13 มกราคม 2558 (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกำหนดการให้บริการของแต่ละพื้นที่) ในสถานที่ท่องเที่ยวของ ทส. ได้แก่ อุทยานแห่งชาติ จำนวน 147 แห่ง สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquarium) จังหวัด ภูเก็ต ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง สวนสัตว์ สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ทางธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ฯลฯ
2.2 ปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ระยะทาง 2 กิโลเมตร
2.3 จัดทำ Application คาร์บอนฟุตพรินท์ของกิจกรรมส่วนบุคคลเพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักแก่ประชาชนให้มีส่วนร่วมในการลดโลกร้อน
2.4 จัดทำโครงการรณรงค์รักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะและสร้างวินัยในการจัดการขยะ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 ธันวาคม 2557