ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการและสถานที่ดำเนินการก่อสร้างโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย กำแพงเพชร และโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย สระแก้ว
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 12 July 2023 00:56
- Hits: 1836
ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการและสถานที่ดำเนินการก่อสร้างโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย กำแพงเพชร และโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย สระแก้ว
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปลี่ยนแปลงรายการและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2567 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2568 รายการก่อสร้างอาคารเรียนและอาคารหอพักนักเรียนแบบพิเศษของโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย (จภ.) กำแพงเพชร และ จภ. สระแก้ว ตามที่ ศธ. เสนอ โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ได้ตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว และเห็นควรให้ ศธ. โดย สพฐ. เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อๆ ไป ให้ครบวงเงินค่างานตามสัญญาต่อไป ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสถานที่ดำเนินการก่อสร้างดังกล่าว สพฐ. จะต้องได้รับอนุญาตการใช้พื้นที่จากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ให้เรียบร้อยก่อนดำเนินการและปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
สาระสำคัญของเรื่อง
ศธ. รายงานว่า
1. ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบลงทุน (ค่าที่ดินหรือค่าสิ่งก่อสร้าง) จำนวน 4 รายการ รวมวงเงินงบประมาณ ทั้งสิ้น 223.4 ล้านบาท เพื่อก่อสร้าง จภ. กำแพงเพชร และ จภ. สระแก้ว ซึ่งต่อมา สพฐ. ได้รับจัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รวมทั้งสิ้น 223.3 ล้านบาท (มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 11 ตุลาคม 2565) และต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการพัฒนายกระดับคุณภาพโรงเรียนมัธยมศึกษาให้เป็น จภ. 6 แห่ง โดยพัฒนาและใช้พื้นที่โรงเรียนมัธยมศึกษาเดิม จำนวน 4 แห่ง และพัฒนาจัดตั้งบนพื้นที่ที่ได้รับจัดสรรใหม่ จำนวน 2 แห่ง (มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 2 พฤษภาคม 2566)
2. ศธ. โดย สพฐ. มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้าง จภ. กำแพงเพชร และ จภ. สระแก้ว โดยมีสาระสำคัญข้อเท็จจริง ดังนี้
2.1 เปลี่ยนแปลงสถานที่ดำเนินการก่อสร้าง จภ. กำแพงเพชร จากเดิมที่กำหนดเป็นโรงเรียนทุ่งโพธิ์ทะเลพิทยา ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เนื่องจากมีข้อจำกัดของพื้นที่ที่จะดำเนินการพัฒนาจัดตั้ง จภ.กำแพงเพชรดังกล่าว [โรงเรียนทุ่งโพธิ์ทะเลพิทยามีนักเรียนจำนวนมากแต่มีพื้นที่จำกัดและทางโรงเรียนฯ มีความประสงค์จะให้คงรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบปกติ (โรงเรียนไป-กลับ) ในขณะที่ จภ. มีการจัดการเรียนการสอนแบบโรงเรียนประจำ] สพฐ. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การพัฒนาจัดตั้ง จภ. กำแพงเพชร บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย จึงปรับแผนการดำเนินการพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ดังกล่าว โดยดำเนินการในรูปแบบโรงเรียนคู่พัฒนาและกำหนดให้โรงเรียนทุ่งโพธิ์ทะเลพิทยาเป็นสถานศึกษาคู่พัฒนา (ทั้งโรงเรียนทุ่งโพธิ์ทะเลพิทยาและ จภ. กำแพงเพชร มีการบูรณาการการเรียนการสอน การจัดกิจกรรม และสามารถใช้สาธารณูปโภคร่วมกันเพื่อพัฒนาโรงเรียนทั้ง 2 โรงเรียนควบคู่กันไป) และใช้พื้นที่ที่ได้รับการจัดสรรใหม่บริเวณพื้นที่ค่ายลูกเสือ จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าแม่ระกา) เป็นสถานที่จัดตั้ง จภ. กำแพงเพชร และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชรได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่ตามระเบียบการขอใช้พื้นที่ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 13/1 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกรมป่าไม้ได้อนุญาต ให้ สพฐ . ใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าแม่ระกา) เพื่อจัดตั้ง จภ. กำแพงเพชร ท้องที่ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เนื้อที่ 89-1-14 ไร่ แล้ว (เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565) มีกำหนดระยะเวลาจนกว่าจะหมดความจำเป็น และจังหวัดกำแพงเพชร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวในการจัดตั้ง จภ. กำแพงเพชรเรียบร้อยแล้ว (เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2565)
2.2 เปลี่ยนแปลงสถานที่ดำเนินการก่อสร้าง จภ. สระแก้ว จากเดิมที่กำหนดเป็นโรงเรียนท่าเกษมพิทยา ตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว เนื่องจากมีข้อจำกัดของพื้นที่ที่จะดำเนินการพัฒนาจัดตั้งเป็น จภ. สระแก้ว สพฐ. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดของการพัฒนาจัดตั้ง จภ. สระแก้ว ให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย จึงปรับแผนการดำเนินการพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ดังกล่าว โดยกำหนดให้โรงเรียนท่าเกษมพิทยาเป็นสถานศึกษาคู่พัฒนา และใช้พื้นที่ที่ได้รับการจัดสรรใหม่บริเวณพื้นที่มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว ตำบลวัฒนานคร อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นที่สาธารณประโยชน์ประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน เป็นสถานที่จัดตั้ง จภ. สระแก้ว ซึ่งได้รับการอนุญาตให้ใช้ที่ดินจากสภามหาวิทยาลัยบูรพาแล้ว โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ได้รับมอบอำนาจจาก สพฐ. ดำเนินการการขอใช้ประโยชน์ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินโดยถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ประกาศ ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2565 และการขอถอนสภาพที่ดินตามมาตรา 8 วรรคสอง (1) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการถอนสภาพการจัดขึ้นทะเบียนและการจัดหา ประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2550 ซึ่งกรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ สพฐ. เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าตามมาตรา 4(1) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 เพื่อจัดตั้งเป็น จภ. สระแก้ว บริเวณที่ดินสาธารณประโยชน์ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ สก. 260 (สก. 0146) หมู่ที่ 4 ตำบลวัฒนานคร อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว บางส่วน เนื้อที่ 18-3-97 ไร่ (เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566) มีกำหนดระยะเวลาจนถึง 23 กุมภาพันธ์ 2596 (30 ปี) และต่อมากรมป่าไม้ได้อนุญาตให้เข้าใช้บริเวณพื้นที่ป่าดังกล่าวเพิ่มเติมอีก เนื้อที่ 54-3-18 ไร่ (เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566) มีกำหนดระยะเวลาจนกว่าจะหมดความจำเป็น (รวมพื้นที่ทั้งหมดที่ได้รับอนุญาตจำนวน 73-3-15 ไร่) และต่อมา ศธ. ได้แจ้งข้อมูลว่า จังหวัดสระแก้ว โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ไม่ขัดข้องในการขอใช้และขอถอนสภาพที่ดิน จำนวน 73-1-98 ไร่ เพื่อจัดตั้งเป็น จภ. สระแก้ว เรียบร้อยแล้ว (เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566) [หมายเหตุ: สพฐ. จะใช้เนื้อที่ดำเนินการก่อสร้าง จภ. สระแก้ว จำนวน 73-1-98 ไร่ ตามที่ได้รับการอนุญาตจากจังหวัดสระแก้วเท่านั้น สำหรับเนื้อที่ที่กรมป่าไม้อนุญาตให้ใช้นั้น (มากกว่าที่จังหวัดสระแก้วอนุญาต จำนวน 1 งาน 17 ตารางวา) จะมีบางส่วนเป็นพื้นที่ติดทางน้ำจึงมีสภาพไม่เหมาะสมในการก่อสร้างอาคารและการเข้าใช้ประโยชน์]
3. จากการขออนุมัติเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้าง จภ. กำแพงเพชร และ จภ. สระแก้ว (ตามข้อ 2) สพฐ. จึงขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการอาคารเรียน 324 ล./55ข ในเขตแผ่นดินไหว และรายการอาคารหอพักนักเรียนแบบพิเศษ จากเดิม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 เป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2568 (ไม่เปลี่ยนแปลงวงเงินรวม)
4. ศธ. ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นรายการตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่กำหนดไว้แล้ว ตลอดจนไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จึงไม่มีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 รับทราบสถานที่ก่อสร้างตามที่ขอเปลี่ยนแปลงเรียบร้อยแล้ว
5. สงป. พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีที่ สพฐ. กำหนดสถานที่ไว้ในชื่อรายการ โดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องดำเนินการในพื้นที่ที่ระบุไว้เท่านั้น กรณีดังกล่าวสถานที่ถือเป็นสาระสำคัญในการดำเนินการ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ดำเนินการจะมีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติไว้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่จะต้องเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี ตามระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ข้อ 7 (3) ดังนั้น ศธ. โดย สพฐ. จึงต้องนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติตามข้อ 7 (3) ของระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2562
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 11 กรกฎาคม 2566
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A7368