ข้อเสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อป้องกันการทุจริต
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 27 June 2023 23:18
- Hits: 924
ข้อเสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อป้องกันการทุจริต
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ ดังนี้
1. รับทราบข้อเสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อป้องกันการทุจริตตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) เสนอ
2. ให้กระทรวงการคลัง (กค.) เร่งรัดดำเนินการศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อป้องกันการทุจริต ร่วมกับ กห. กษ. ดศ. ทส. มท. สธ. สปน. สงป. ตช. สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรายงานผลการพิจารณาดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
สาระสำคัญของเรื่อง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. รายงานว่า
1. ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และทำให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อป้องกันและเยียวยาปัญหาดังกล่าว ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีข่าวการทุจริตหรือความผิดปกติ ในการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น การสร้างหลักฐานเท็จเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือวาตภัย การทุจริตขบวนการเรียกหัวคิว และการจัดซื้อจัดจ้างในราคาที่สูงเกินจริง ทำให้การดำเนินโครงการเกี่ยวกับการป้องกันและเยียวยาภัยพิบัติไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้ศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว สรุปได้ดังนี้
1.1 ระบบฐานข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่เชื่อมโยงกัน [เช่น ระบบฐานข้อมูลเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินของกระทรวงการคลัง (กค.) (กรมบัญชีกลาง) ระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของกระทรวงมหาดไทย (มท.) (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) ระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ ของ กค. และระบบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ของ กค. (กรมบัญชีกลาง)] ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลการจัดสรรและติดตามการใช้จ่ายงบประมาณเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติในภาพรวมได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังไม่ได้กำหนดรหัสงบประมาณสำหรับงบประมาณที่จะจัดสรรเพื่อแก้ไขปัญหาภัยพิบัติต่างๆ เป็นการเฉพาะ ในระบบงบประมาณแผ่นดิน
1.2 การแก้ไขปัญหาภัยพิบัติมีการใช้งบประมาณที่ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน ซึ่งควรมีแผนในการบริหารจัดการภัยพิบัติในภาพรวมเพื่อแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในระยะยาว โดยมีการบูรณาการร่วมกันของแต่ละภาคส่วน
1.3 หน่วยงานไม่ส่งเอกสารเกี่ยวกับการเบิกเงินคงคลังให้แก่กรมบัญชีกลาง ทำให้กรมบัญชีกลางไม่มีข้อมูลส่งให้สำนักงบประมาณ (สงป.) เพื่อดำเนินการตั้งงบประมาณสำหรับชดใช้เงินคงคลังในปีงบประมาณถัดไปได้
2. คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นควรเสนอข้อเสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อป้องกันการทุจริต ดังนี้
มาตรการ/ การดำเนินการ |
หน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย |
|
1. ประเด็นด้านการประกาศภัยพิบัติและการชดใช้เงินคงคลัง |
||
1.1 พัฒนาศักยภาพสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดให้สามารถเป็นศูนย์กลางในการรับและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ |
กค. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และ มท. |
|
1.2 ติดตามตรวจสอบและดำเนินการให้จังหวัดส่งเอกสารเพื่อชดใช้เงินคงคลังคืนภายในระยะเวลาที่กำหนด |
กค. (กรมบัญชีกลาง) |
|
1.3 ให้มีการเปิดเผยข้อมูลจังหวัดหรือหน่วยงานที่ได้เบิกจ่ายเงินคงคลัง เพื่อแก้ไขปัญหาภัยพิบัติให้สาธารณชนรับทราบ โดยอาจเปิดเผยทุกไตรมาส เพื่อสร้างกระบวนการตรวจสอบและถ่วงดุลอย่างมีส่วนร่วมแก่ทุกภาคส่วน |
กระทรวงกลาโหม (กห.) กค. กษ. ทส. มท. กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) |
|
2. ประเด็นด้านการพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายงบประมาณเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ |
||
2.1 เชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยให้มีการพัฒนาระบบคลังข้อมูลที่รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าว และศึกษาความเป็นไปได้เพื่อให้เกิดการรวมศูนย์ระบบฐานข้อมูลในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว |
กค. (กรมบัญชีกลาง) มท. (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) และ ดศ. (สถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ของภาครัฐ) |
|
2.2 พิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบงบประมาณแผ่นดินให้สามารถจำแนกประเภทการใช้จ่าย โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณที่เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อให้สามารถตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณในแต่ละประเภทได้ รวมถึงการพิจารณากำหนดรหัสงบประมาณสำหรับงบประมาณที่จัดสรรเพื่อการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติต่างๆ เป็นการเฉพาะต่อไป |
สงป. |
|
3. ประเด็นด้านการบริหารจัดการ |
||
3.1 เพื่อลดความสูญเสียงบประมาณที่ใช้ในการป้องกันและบรรเทาปัญหาภัยพิบัติอันเกิดจากภัยแล้งและอุทกภัย เห็นควรให้จัดทำผังน้ำจังหวัดและแผนพัฒนาแหล่งน้ำจังหวัดตามแนวทางพระราชดำริแก้มลิง โดยการศึกษาระดับของพื้นที่ทั้งจังหวัดและทิศทางการไหลของน้ำ การเก็บกักน้ำไว้ใช้ในรูปของประตูน้ำตามลำคลองต่างๆ การกำหนดจุดที่ตั้งและขนาดของแหล่งน้ำที่ควรพัฒนาหรือควรขุดลอกในแต่ละพื้นที่ประกอบกับข้อมูลความเร่งด่วนของปัญหาในพื้นที่ต่างๆ |
กษ. ทส. มท. และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) |
|
3.2 จัดทำแผนในการบริหารจัดการภัยพิบัติในภาพรวม โดยมีการบูรณาการร่วมกันของแต่ละภาคส่วนโดยเฉพาะการสอบถามความจำเป็นของชาวบ้านในพื้นที่และพิจารณาจากความเร่งด่วนและความรุนแรงของปัญหา และขนาดพื้นที่ที่เสียหายจากปัญหานั้นๆ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ตรงจุด ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนต่อไป |
กษ. ทส. และ มท. |
|
3.3 ให้ส่วนราชการที่ได้รับงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาตินำกระบวนการตรวจสอบภายในมาใช้ในการตรวจสอบโครงการ/การดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริต |
กห. กค. กษ. ทส. มท. สธ. สปน. ตช. และ สทนช. |
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 27 มิถุนายน 2566
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A6888