การจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 6 จังหวัด
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 06 December 2022 22:48
- Hits: 2297
การจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 6 จังหวัด
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา (คณะกรรมการนโยบายฯ) เสนอการกำหนดให้กรุงเทพมหานคร จังหวัดจันทบุรี จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสงขลา จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดอุบลราชธานี เป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา*
สาระสำคัญของเรื่อง
คณะกรรมการนโยบายฯ รายงานว่า
1. พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการนโยบายฯ มีอำนาจกำหนดให้จังหวัดใดเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา โดยพิจารณาความเหมาะสมของการเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาโดยคำนึงถึงความพร้อม ตลอดจนการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง และโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนประกอบด้วย โดยอย่างน้อยจะต้องคำนึงถึงผลการดำเนินการที่ผ่านมาของพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาอื่นที่มีการจัดตั้งอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งก่อนที่พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 จะประกาศใช้ ในปี พ.ศ. 2561 ได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ใน 6 พื้นที่ 8 จังหวัด ประกอบด้วย พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล จังหวัดระยอง จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดเชียงใหม่ และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส) มีสถานศึกษานำร่องสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน รวม 539 โรงเรียน เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการศึกษารูปแบบใหม่โดยใช้จังหวัดเป็นฐาน ซึ่งภายหลังที่พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ได้มีผลบังคับใช้ สถานศึกษานำร่องสามารถบริหารจัดการศึกษาได้อย่างอิสระและคล่องตัวมากขึ้น โดยที่ผ่านมามีผลการดำเนินงาน เช่น (1) พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล มีเป้าหมายในการจัดการศึกษา คือ “พหุวัฒนธรรมนำเทคโนโลยี มีทักษะสื่อสาร รักษ์บ้านถิ่นเกิดเพื่อให้เกิดการบริหารจัดการศึกษารูปแบบใหม่เป็นเลิศนวัตกรรม” โดยมีนวัตกรรมการศึกษาที่โดดเด่น คือ โครงงานฐานวิจัย 14 ขั้นตอน ช่วยให้เด็กมีความสามารถด้านการคิด การสื่อสาร และนำความรู้ไปถ่ายทอดให้ชุมชนได้และนวัตกรรมครูสามเส้า ซึ่งเป็นนวัตกรรมหนึ่งที่เกิดขึ้นและดำเนินการควบคู่ไปกับกระบวนการโครงงานฐานวิจัย เนื่องจากจังหวัดเห็นว่า หัวใจสำคัญของการเรียนรู้ของเด็กต้องประกอบไปด้วยครูจากสามส่วนประกอบด้วย ครูในโรงเรียน ครูชุมชน และครูพ่อแม่ (2) พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง มีการจัดตั้งสถาบันการเรียนรู้ของคนทุกวัยจังหวัดระยอง (Rayong Inclusive Learning Acadamy : RILA) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีพของชาวระยอง มีการจัดการศึกษาด้วยกรอบหลักสูตรจังหวัดระยองหรือ Rayong MARCO ให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้สู่ระยองเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน (3) พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดปัตตานี มีกรอบหลักสูตรปัตตานี เฮอริเทจหรือ Pattani Heritage Curriculum Framework : PHCF เป็นนวัตกรรมที่นำมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดปัตตานีมาจัดการศึกษา เพื่อนำไปสู่ยุทธศาสตร์จังหวัด พลเมืองอัจริยะสู่เมืองอัจริยะ และมีกรอบหลักสูตรท้องถิ่นการเสริมสร้างสันติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี หรือ “หลักสูตรสันติศึกษา” (4) พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาสมีการพัฒนาหลักสูตรอิสลามศึกษาของสถานศึกษานำร่องเพื่อจัดการศึกษาบนความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่กลมกลืน และลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงการศึกษา และมีคู่มือการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา เป็นต้น
2. ต่อมาคณะกรรมการนโยบายฯ ได้มีประกาศคณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการพิจารณาความพร้อมของจังหวัด จำนวนและคุณสมบัติของคณะผู้เสนอ หลักเกณฑ์และวิธีการเสนอจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2564 ประกาศ ณ วันที่ 10 กันยายน 2564 และในการประชุมคณะกรรมการนโยบายฯ [รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน] ครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 คณะกรรมการนโยบายฯ ได้มีมติเห็นชอบให้กรุงเทพมหานคร จังหวัดจันทบุรี จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสงขลา จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดอุบลราชธานี เป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ด้วยเหตุผล ดังนี้
พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา |
เหตุผล/แนวทางการดำเนินการ |
กรุงเทพมหานคร |
มีการกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจน เช่น 1) การคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ โดยโรงเรียนดำเนินการปรับกรอบหลักสูตร มีพี่เลี้ยงทางวิชาการสนับสนุน มีการอบรมพัฒนาครู การเพิ่มทักษะการใช้นวัตกรรมการศึกษารูปแบบต่างๆ หรือเทคนิคการสอนใหม่ๆ และปรับกลไกการติดตามเพื่อความคล่องตัว เช่น กำหนดแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา 2) การให้อิสระกับสถานศึกษาในการบริหารจัดการโดยวางแนวทางการบริหารด้านบุคลากรและงบประมาณที่สนับสนุนงานด้านวิชาการ ศึกษากฎระเบียบที่เอื้อให้เกิดความอิสระและเพิ่มความคล่องตัวเพื่อให้เกิดการปลดล็อกเพิ่มเติมและ 3) มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่และจัดตั้ง “ภาคีเครือข่ายด้านการศึกษาเพื่อระดมพลังพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของเด็กกรุงเทพมหานคร” โดยมีผู้แทนทำหน้าที่ในการประสานความร่วมมือเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนต่อไป |
จังหวัดจันทบุรี |
มีแนวทางการยกระดับคุณภาพการศึกษาในรูปแบบ Chan Education Shift Model (C = Change, H = Happiness, A = Agreement for Action, N = Network Instruction) Change คือ ยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืน โดยมุ่งการลด ละ เลิก โครงการที่ไม่ส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน รวมทั้งการปลดล็อกกฎ ระเบียบต่างๆ และมุ่งเน้นที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา Happiness คือ ผู้เรียนได้พัฒนาองค์รวมความรู้ ทักษะ สมรรถนะตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ผู้เรียนเป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข สอดคล้องกับวิถีชีวิต “สุขทุกวันที่จันทบุรี” Agreement for Action คือ จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่ในระยะเวลา 3 ปี โดยกำหนดให้มีนวัตกรรมในการจัดการศึกษาพัฒนาผู้เรียนให้มีความสอดคล้องกับบริบทของตนเอง เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง Network Instruction คือ สถานศึกษาจัดการศึกษาด้วยตนเอง โดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ภาครัฐ ภาคเอกชน อปท. และภาคประชาสังคม |
จังหวัดภูเก็ต |
มีแผนที่จะสร้างระบบการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาของพื้นที่และความต้องการของประชาชน โดยมุ่งเน้นการสร้างคนและการศึกษา เช่น มุ่งเน้นให้เด็กภูเก็ตทุกคนต้องพูดได้มากกว่า 2 ภาษา รวมทั้งให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในโรงเรียนที่ไม่มีความพร้อมในการบริหารทรัพยากรต่างๆ เพื่อนำจังหวัดภูเก็ตไปสู่ความก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและในอนาคตจะต้องแข่งกับประเทศอื่นในเรื่องเศรษฐกิจการท่องเที่ยว |
จังหวัดสงขลา |
มีแนวทางการเนินการที่ชัดเจน เช่น (1) การคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการศึกษาโดยใช้ข้อมูลสารสนเทศเป็นฐานในการขับเคลื่อนการพัฒนาสถานศึกษา (2) มุ่งส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อปท. สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด และ (3) มีสถานศึกษาในจังหวัดเข้าร่วมโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเองของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาซึ่งเป็นสถานศึกษาที่มีผลลัพธ์การเรียนรู้ของเด็กอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก |
จังหวัดสุราษฎร์ธานี |
มีเป้าหมายสำคัญที่จะยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและมุ่งเน้นให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยเป็นคนดีมีการศึกษาอย่างเท่าเทียมและมีสมรรถนะที่จำเป็นรองรับการเปลี่ยนแปลงในโลกอนาคต รวมทั้งให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเด็กตกหล่นและเด็กที่มีปัญหาให้ได้เข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างเสมอภาค |
จังหวัดอุบลราชธานี |
ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการเข้าถึงบริการด้านการศึกษาอย่างเท่าเทียม รวมทั้งมีการส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาจัดหลักสูตรที่ทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนตามสมรรถนะและบริบท |
3. ประมาณการค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาของกรุงเทพมหานคร และ 5 จังหวัด ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 – 2569 รวมทั้งสิ้น จำนวน 124,500,000 บาท โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
_________________________
พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา คือ พื้นที่ปฏิรูปการบริหารและการจัดการการศึกษาเพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมการศึกษา ซึ่งเป็นพื้นที่ระดับจังหวัดที่สถานศึกษานำร่องสามารถจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่โดยสามารถบริหารจัดการได้อย่างอิสระ ยืดหยุ่น และคล่องตัว ไม่ต้องอิงกับกฎระเบียบที่ไม่จำเป็นหรือไม่เอื้อจากส่วนกลาง เช่น การเลือกใช้หลักสูตร/สื่อการเรียนการสอน การเลือกดำเนินโครงการ/กิจกรรมที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอน เป็นต้น รวมทั้งมีกลไกการจัดการศึกษาระหว่างภาครัฐ อปท. ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 29 พฤศจิกายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A12222