ขอความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 15 November 2022 23:23
- Hits: 865
ขอความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของฝ่ายไทย ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในนามของผู้แทนฝ่ายไทย และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในฝ่ายซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรของทั้งสองราชอาณาจักรผ่านการพัฒนาความร่วมมือระดับทวิภาคีในสาขาการท่องเที่ยว โดยทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ในประเด็นการเพิ่มจำนวนท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศมากขึ้น การสนับสนุนกิจกรรมและโครงการด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคการท่องเที่ยวและภาคการบริการ การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อผลประโยชน์ในระยะยาวของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและองค์กรต่างๆ ของทั้งสองประเทศ ในการพัฒนาและมีกิจกรรมภาคการท่องเที่ยวร่วมกันต่อไป โดยร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวไม่มีถ้อยคำหรือบริบทที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ
การลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในครั้งนี้ จะเป็นหนึ่งในเอกสารผลลัพธ์ที่สำคัญของการเสด็จฯ เยือนไทยอย่างเป็นทางการของมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียระหว่างวันที่ 18 - 19 พฤศจิกายน 2565 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเป็นผู้แทนรัฐบาลซาอุดีอาระเบียจะเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว
สาระสำคัญ
ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ประกอบด้วยข้อบท 9 ข้อ คือ
ข้อ 1 วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ โดยคำนึงถึงค่านิยมทางสังคมและประเพณีท้องถิ่นตามพันธกรณีระหว่างประเทศ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของทั้งสองประเทศ
ข้อ 2 ขอบเขตความร่วมมือ กล่าวคือ ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในประเด็น การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศมากขึ้น การสนับสนุนกิจกรรมและโครงการด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคการท่องเที่ยวและภาคการบริการ การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อผลประโยชน์ในระยะยาวของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและองค์การต่างๆ ของทั้งสองประเทศ ในการพัฒนาและมีกิจกรรมภาคการท่องเที่ยวร่วมกันต่อไป
ข้อ 3 ขอบเขตการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ ทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติการท่องเที่ยว จัดโปรแกรมการศึกษาและการวิจัย การประชุม สัมมนา การประชุมเชิงปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนารูปแบบใหม่และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยว
ข้อ 4 ขอบเขตการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญในสาขาการท่องเที่ยว การบริการ การลงทุนด้านการท่องเที่ยว และส่งเสริมการลงทุนร่วมกันในกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว
ข้อ 5 ขอบเขตการทำงาน ทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ โดยทั้งสองฝ่ายจะสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดประชุมในราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ตามวันที่ได้ตกลงร่วมกัน
ข้อ 6 การยุติข้อพิพาท ระหว่างปฏิบัติตามข้อตกลงจะเป็นไปอย่างฉันมิตร โดยการหารือผ่านช่องทางการทูต
ข้อ 7 ขอบเขตการดำเนินแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ทั้งสองฝ่ายจะเตรียมกิจกรรมภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ โดยระบุกิจกรรมที่ตกลงกันไว้ รวมทั้งด้านการเงิน และการจัดการอื่นๆ
ข้อ 8 ค่าใช้จ่าย แต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมที่ดำเนินการภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้
ข้อ 9 การมีผลบังคับใช้และระยะเวลาการสิ้นสุด บันทึกความเข้าใจฯ มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับการแจ้งผ่านช่องทางการทูต ระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปีและต่ออายุโดยอัตโนมัติเป็นระยะเวลาห้าปีติดต่อกัน จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนวันหมดอายุ 6 เดือน หากต้องการปรับแก้ไขบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ จะต้องเป็นลายลักษณ์อักษร โดยความยินยอมร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และตามขั้นตอนทางกฎหมายของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้ การสิ้นสุดการบังคับใช้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ข้อกำหนดทั้งหมดจะยังคงมีผลบังคับใช้เกี่ยวกับกิจกรรม หรือโครงการที่มีการพัฒนา หรือมีการดำเนินการอยู่
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 15 พฤศจิกายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A11705