ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-มองโกเลีย ครั้งที่ 1 รวมทั้งดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 01 November 2022 20:52
- Hits: 1065
ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-มองโกเลีย ครั้งที่ 1 รวมทั้งดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-มองโกเลีย ครั้งที่ 1 รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 5 - 6 กันยายน 2565 พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมฯ เพื่อให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับมองโกเลียเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
พณ. รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมองโกเลียได้เป็นประธานร่วมในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 5 - 6 กันยายน 2565 ณ กรุงอูลานบาตาร์ ประเทศมองโกเลีย สรุปได้ ดังนี้
1. สรุปผลการประชุมฯ
1.1 ภาพรวมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศไทยและมองโกเลียมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจาก 35.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2560 เป็น 53.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.60 ซึ่งทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้าหมายการค้าระหว่างกันที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 โดยขณะนี้มองโกเลียดำเนินนโยบายการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมการส่งออกสินแร่และวัตถุดิบธรรมชาติ ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของมองโกเลีย และการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
1.2 การส่งเสริมการค้าและการลงทุน ไทยยินดีสนับสนุนและส่งเสริมให้มองโกเลียส่งออกสินค้ามายังไทยและได้เชิญชวนผู้ประกอบการมองโกเลียเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติที่ พณ. จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เช่น งาน THAIFEX-ANUGA Asia (สินค้าอาหาร) และงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair (สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ) อีกทั้งได้เสนอให้มีการจัดกิจกรรมจับคู่นักลงทุนระหว่างไทยกับมองโกเลียในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพร่วมกัน นอกจากนี้ ไทยได้ขอให้มองโกเลียอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในมองโกเลียด้วย
1.3 การจัดทำความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน ไทยขอให้มองโกเลียเร่งพิจารณาร่างความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมฯ กับมองโกเลียเพื่อส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้น
1.4 การทบทวนอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้ ไทยขอให้มองโกเลียเร่งพิจารณาช่วงเวลาในการทบทวนร่างอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนฯ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและสอดคล้องกับกฎระเบียบภายใต้ความตกลงที่ทั้งสองฝ่ายเป็นภาคีสมาชิก โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมทบทวนร่างอนุสัญญาดังกล่าวในช่วงต้นปี 2566
1.5 ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการดำเนินความร่วมมือด้านต่างๆ ดังนี้
ด้าน |
ความร่วมมือ |
(1) เกษตร |
มองโกเลียมีความประสงค์ ดังนี้ - ส่งออกสินค้าปศุสัตว์ เนื้อสัตว์ดิบ และผลิตภัณฑ์นมมายังไทย ซึ่งสินค้าดังกล่าวจัดอยู่ในสินค้าควบคุมตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 โดยมองโกเลียจะต้องส่งหนังสือให้กับกรมปศุสัตว์ของไทยพิจารณา - จัดทำบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยกับมองโกเลีย ซึ่งไทยยินดีสนับสนุนเนื่องจากเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญระหว่างกัน |
(2) การท่องเที่ยว |
ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนและผลักดันการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยมองโกเลียต้องการให้ไทยไปท่องเที่ยวในมองโกเลียเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน - กันยายน ส่วนมองโกเลียต้องการมาท่องเที่ยวในไทยช่วงเดือนตุลาคม - มีนาคม โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางทะเลและชายหาด |
(3) การขนส่งและโลจิสติกส์ |
สายการบินมองโกเลียน แอร์ไลน์ได้ยื่นเอกสารขอเปิดเส้นทางการบินตรงระหว่างกรุงอูลานบาตาร์ - ภูเก็ตเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งไทยอยู่ระหว่างพิจารณาและพร้อมให้การสนับสนุนเรื่องดังกล่าว รวมทั้งพร้อมที่จะส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างกันผ่านเส้นทางดังกล่าวด้วย |
(4) ความร่วมมือทางวิชาการ |
ไทยยินดีให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนทางวิชาการแก่มองโกเลีย เช่น การจัดฝึกอบรมบุคลากรด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ด้านสาธารณสุข และด้านการเกษตร |
1.6 ความร่วมมือด้านอื่นๆ มองโกเลียเสนอให้ไทยจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงอูลานบาตาร์ เพื่อเป็นช่องทางส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งไทยแจ้งว่าอาจพิจารณาแต่งตั้งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการค้าระหว่างประเทศของ พณ. ประจำกรุงอูลานบาตาร์
2. การดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไทยได้จัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างนักธุรกิจมองโกเลียกับภาครัฐและเอกชนไทย รวมถึงนักธุรกิจไทยที่ลงทุนในมองโกเลียเพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน อีกทั้งได้สำรวจและหารือกับผู้บริหารห้างค้าปลีก 2 แห่ง ซึ่งให้ความสนใจในการนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าสินค้าไทยมีศักยภาพและสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าไทยในมองโกเลียยังมีจำนวนน้อย
3. การติดตามการดำเนินการตามผลการประชุมฯ สรุปได้ ดังนี้
ประเด็น |
ผลการประชุม/ประเด็นที่ต้องติดตาม |
หน่วยงานรับผิดชอบ |
||
(1) ด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน |
||||
(1.1) การส่งเสริมการค้าและการลงทุน |
เช่น - เป้าหมายมูลค่าการค้าที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป้าหมายมูลค่าการลงทุนที่ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 - การส่งเสริมการค้าของทั้งสองฝ่ายและอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้า - กิจกรรมจับคู่นักลงทุนระหว่างไทยกับมองโกเลีย ในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพร่วมกัน |
- พณ. - สำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) |
||
(1.2) ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน |
การจัดทำความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างไทยกับมองโกเลีย |
กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) |
||
(1.3) อนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงภาษีรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ |
การกำหนดช่วงเวลาและการติดตามการทบทวนร่างอนุสัญญาฯ ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ระหว่างไทยกับมองโกเลีย |
กระทรวงการคลัง |
||
(2) ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ |
||||
(2.1) ด้านการเกษตร |
- การอำนวยความสะดวกในการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ (เนื้อสัตว์ดิบ หนังสัตว์ดิบ และผลิตภัณฑ์นม) และพืชตระกูลเบอร์รี่ของมองโกเลีย - การจัดทำ MoU ว่าด้วยความร่วมมือด้านเกษตรระหว่างไทยกับมองโกเลีย |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) |
||
(2.2) ด้านการท่องเที่ยว |
สนับสนุนและผลักดันการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับมองโกเลีย เช่น จัดกิจกรรมให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวมองโกเลียเรียนรู้การท่องเที่ยวของไทย |
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา |
||
(2.3) ด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ |
การอนุญาตเส้นทางการบินตรงระหว่างกรุงอูลานบาตาร์-ภูเก็ตเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างไทย กับมองโกเลีย |
กระทรวงคมนาคม (คค.) |
||
(2.4) ความร่วมมือทางวิชาการ |
การพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดฝึกอบรมบุคลากรในด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สาธารณสุข และการเกษตร |
กต. |
4. พณ. เห็นว่า มองโกเลียเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ถ่านหิน ทองแดง ทองคำ เงิน และแร่เหล็ก แต่ไม่มีทางออกทะเลและมีพื้นที่เกษตรกรรมเพียงร้อยละ 1 ของพื้นที่ทั้งหมด ทำให้มองโกเลียต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคและมีนโยบายเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งนี้ การประชุมฯ จะช่วยกำหนดแนวทางในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับมองโกเลีย รวมทั้งการดำเนินความร่วมมือทางเศรษฐกิจในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพเพื่อให้มูลค่าการค้าสองฝ่ายขยายตัวได้ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการลงทุนขยายตัวได้ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 1 พฤศจิกายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A11112