ร่างกฎกระทรวงกำหนดวิธีปฏิบัติของเจ้าของเรือประมงที่ใช้สนับสนุนเรือที่ใช้ทำการประมงหรือเรือขนส่งถ่ายสัตว์น้ำ พ.ศ. ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 11 October 2022 23:53
- Hits: 1295
ร่างกฎกระทรวงกำหนดวิธีปฏิบัติของเจ้าของเรือประมงที่ใช้สนับสนุนเรือที่ใช้ทำการประมงหรือเรือขนส่งถ่ายสัตว์น้ำ พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดวิธีปฏิบัติของเจ้าของเรือประมงที่ใช้สนับสนุนเรือที่ใช้ทำการประมงหรือเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่งแล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงฯ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเป็นการปรับปรุงร่างกฎกระทรวงที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวิธีการปฏิบัติของเจ้าของเรือประมงที่ใช้สนับสนุนเรือที่ใช้ทำการประมงหรือเรือขนถ่ายสัตว์น้ำเกี่ยวกับการติดตั้งระบบติดตามเรือประมง การแจ้งเข้าออกท่าเทียบเรือ และวิธีปฏิบัติอื่นๆ ให้มีความชัดเจนและเหมาะสมยิ่งขึ้น กล่าวคือ เจ้าของเรือสนับสนุนต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมงและดูแลรักษาระบบให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา (กรณีที่เป็นเรือสนับสนุน หรือเรือจดทะเบียนใหม่หรือเปลี่ยนประเภทการใช้เรือเป็นเรือสนับสนุน เรือสนับสนุนต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ) โดยต้องมีการแจ้งการติดตั้งระบบติดตามเรือประมงเมื่อแล้วเสร็จและตำแหน่งจุดจอดเรือเพื่อตรวจสอบการติดตั้งระบบติดตามเรือประมง และต้องแจ้งการเข้าออกท่าเทียบเรือทุกครั้ง รวมทั้งต้องดำเนินการเพื่อให้ระบบติดตามเรือประมงส่งข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดเชิงหน้าที่ของระบบติดตามเรือประมงทุก 1 ชั่วโมง (กรณีงดใช้เรือเป็นการชั่วคราว สามารถยื่นคำร้องขอปรับลดจำนวนครั้งในการส่งข้อมูลระบบติดตามเรือประมงได้) ตลอดจนกรณีที่มีระบบติดตามเรือประมงขัดข้อง ให้เจ้าของเรือสนับสนุนแต่ละประเภทดำเนินการแก้ไขระบบติดตามเรือประมงให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยปฏิบัติตามวิธีการและระยะเวลาที่กำหนด หากไม่สามารถแก้ไขได้ให้นำเรือสนับสนุนกลับเข้าเขตท่าเทียบเรือทันที และกรณีเข้าไปทำกิจกรรมในเขตพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การระหว่างประเทศจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ และมาตรการอนุรักษ์และบริหารจัดการการประมงที่องค์การระหว่างประเทศนั้นกำหนด
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
กำหนดวิธีการปฏิบัติของเจ้าของเรือประมงที่ใช้สนับสนุนเรือที่ใช้ทำการประมงหรือเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดเงื่อนไขการเป็นเรือสนับสนุนประมงที่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ คือ เรือที่จดทะเบียนเป็นเรือกลเดินทะเลที่มีขนาดตั้งแต่ 30 กรอสขึ้นไป ที่มีประเภทการใช้เรือดังต่อไปนี้ เป็นเรือสนับสนุน (1) เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น (2) เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง (3) เรือบรรทุกน้ำจืด (4) เรือบรรทุกน้ำจืดเพื่อการประมง (5) เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส และ (6) เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีจุดวาบไฟสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส
2. กำหนดวิธีปฏิบัติของเจ้าของเรือสนับสนุนต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมงและดูแลรักษาระบบให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนี้
2.1 เรือสนับสนุนต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ
2.2 เรือสนับสนุนที่จดทะเบียนใหม่หรือเปลี่ยนประเภทการใช้เรือเป็นเรือสนับสนุน ต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่จดทะเบียนใหม่หรือเปลี่ยนประเภทการใช้เรือ
2.3 เรือสนับสนุนที่ประสงค์เข้าไปทำกิจกรรมในเขตพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การระหว่างประเทศ ต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมงให้แล้วเสร็จก่อนที่กรมประมงจะส่งรายชื่อเรือสนับสนุนไปยังองค์การระหว่างประเทศ เพื่อระบุลงในบัญชีรายชื่อขององค์การระหว่างประเทศ หรือก่อนออกไปทำกิจกรรมในเขตพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การระหว่างประเทศ
3. เจ้าของเรือสนับสนุนที่ได้ติดตั้งระบบติดตามเรือประมงดังกล่าวแล้วจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
3.1 แจ้งการติดตั้งระบบติดตามเรือประมง และตำแหน่งจุดจอดเรือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการภายใน 7 วันนับแต่วันที่ติดตั้งระบบติดตามเรือประมงแล้วเสร็จ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก เพื่อตรวจสอบการติดตั้งระบบติดตามเรือประมงล็อคตรึงและตีตราอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมง สายสัญญาณ และสายไฟที่เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมง
3.2 แจ้งการเข้าออกท่าเทียบเรือทุกครั้งตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
3.3 ดำเนินการเพื่อให้ระบบติดตามเรือประมงส่งข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดเชิงหน้าที่ของระบบติดตามเรือประมงทุก 1 ชั่วโมง ไม่ว่าจะนำเรือสนับสนุนออกจากท่าเทียบเรือหรือขณะจอดเทียบท่า
3.4 กรณีมีเหตุต้องซ่อมแซม เปลี่ยนอุปกรณ์ หรือเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมงและอุปกรณ์ต่อพ่วง ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกได้ล็อคตรึงและตีตราไว้ ให้ยื่นคำร้องขอตัดอุปกรณ์ล็อคตรึงและตีตราอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมง สายสัญญาณ และสายไฟที่เชื่อมต่อเข้าอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมง
3.5 กรณีปิดระบบติดตามเรือประมง อันเนื่องมาจากเรือสนับสนุนชำรุดเสียหายหรืออุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมงชำรุดและอยู่ระหว่างซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมงหรือเรือสนับสนุนอับปาง ให้ยื่นคำร้องขอปิดสัญญาณอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมงชั่วคราว
3.6 กรณีประสงค์จะหยุดออกไปทำกิจกรรมชั่วคราว ซึ่งได้แจ้งงดใช้เรือต่อกรมเจ้าท่าเรียบร้อยแล้ว เจ้าของเรือสนับสนุนดังกล่าวสามารถปรับลดจำนวนครั้งในการส่งข้อมูลระบบติดตามเรือประมงได้ โดยสามารถจัดให้ระบบติดตามเรือประมงส่งข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดเชิงหน้าที่ของระบบติดตามเรือประมงทุก 6 ชั่วโมง ทั้งนี้ ให้ยื่นคำร้องขอปรับลดจำนวนครั้งในการส่งสัญญาณอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมงชั่วคราวตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด และต้องได้รับความเห็นชอบจากพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการก่อนดำเนินการดังกล่าว
3.7 กรณีที่มีระบบติดตามเรือประมงขัดข้อง ให้เจ้าของเรือสนับสนุนแต่ละประเภทดำเนินการแก้ไขระบบติดตามเรือประมงให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยปฏิบัติตามวิธีการและระยะเวลาที่กำหนด เช่น กรณีเรือสนับสนุนซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง หรือเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมัน ให้เจ้าของเรือสนับสนุน แก้ไขระบบติดตามเรือประมงให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติภายใน 30 วันนับจากเวลาที่ได้รับแจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการในครั้งแรก โดยในระหว่างที่สัญญาณระบบติดตามเรือประมงขาดหาย ให้เจ้าของเรือสนับสนุนบันทึกตำแหน่งเรือสนับสนุนทุก 1 ชั่วโมง และให้เจ้าของเรือสนับสนุนรายงานวัน เวลา และตำแหน่ง เป็นรายชั่วโมงให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการทราบทุก 24 ชั่วโมง แบบที่อธิบดีประกาศกำหนด ทั้งนี้ หากไม่สามารถแก้ไขระบบติดตามเรือประมงให้เป็นปกติภายในระยะเวลาดังกล่าวให้นำเรือสนับสนุนกลับเข้าเขตท่าเทียบเรือทันที
3.8 กรณีเข้าไปทำกิจกรรมในเขตพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การระหว่างประเทศจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ และมาตรการอนุรักษ์และบริหารจัดการการประมงที่องค์การระหว่างประเทศนั้นกำหนด
4. กำหนดบทเฉพาะกาล ในกรณีดังต่อไปนี้
4.1 เรือสนับสนุนได้ติดตั้งระบบติดตามเรือประมงตามมาตรฐานสมรรถนะของอุปกรณ์และข้อกำหนดเชิงหน้าที่ของระบบติดตามเรือประมงแนบท้ายประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการติดตั้งระบบติดตามเรือประมงและดูแลรักษาระบบติดตามเรือประมงของเรือประมงพาณิชย์ให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา พ.ศ. 2558 ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้สามารถยังคงใช้ระบบติดตามเรือประมงดังกล่าวต่อไปได้
4.2 เรือสนับสนุนที่มีการติดตั้งระบบติดตามเรือประมงที่ได้ออกจากท่าเทียบเรือไปก่อนที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ และยังไม่ได้ดำเนินการล็อคตรึงและตีตราอุปกรณ์ระบุตำแหน่งรายสัญญาณ และสายไฟที่เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมง (ปัจจุบันตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2550ฯ มิได้มีการกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ล็อคตรึงและตีตราอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมงฯ) ให้เจ้าของเรือสนับสนุนดังกล่าวดำเนินการแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกเพื่อดำเนินการล็อคตรึงและตีตราอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมง สายสัญญาณ และสายไฟที่เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมงภายใน 30 วันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 11 ตุลาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A10442