WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการคุ้มครองผู้บริโภควิถีใหม่ของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยซน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา

GOV8

ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการคุ้มครองผู้บริโภควิถีใหม่ของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยซน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา

        คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการคุ้มครองผู้บริโภควิถีใหม่ของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอและแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป

        เรื่องเดิม

        1. สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้เสนอรายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง แนวทางการคุ้มครองผู้บริโภควิถีใหม่ ของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา มาเพื่อดำเนินการ โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้ศึกษาสภาพการบังคับใช้ของกฎหมายที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจในการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศไทย แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาของผู้บริโภคในสภาพบริบทวิถีใหม่และการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการพัฒนาการคุ้มครองผู้บริโภควิถีใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และได้มีข้อเสนอแนะ ดังนี้ 1) ควรมีหน่วยงานกลางด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการควบคุมกำกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์ 2) ควรมีการพัฒนาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพบริบทวิถีใหม่ในสังคมปัจจุบัน 3) หน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจในการควบคุมการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ ควรพัฒนาระบบการสร้างฐานข้อมูลของผู้ประกอบการทุกระดับเพื่อติดตาม ตรวจสอบ หรือส่งเสริมให้รูปแบบการซื้อขายสินค้าหรือบริการเป็นไปตามกฎหมาย 4) ควรมีมาตรการที่ชัดเจนในการดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้ประกอบธุรกิจที่โฆษณาหลอกลวงหรือเอาเปรียบผู้บริโภคผ่านทางเว็บไซค์หรือสื่อต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และ 5) ควรมีศูนย์ข้อมูลเพื่อผู้บริโภคในการเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และพัฒนาเป็นศูนย์กลางในการรับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคในระดับชาติ

        2. รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ สคบ. เป็นหน่วยงานหลักรับรายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของรายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

 

BANPU 720x100QIC 720x100

 

        ข้อเท็จจริง

        สคบ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แล้วเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ โดยสรุปได้ดังนี้

 

ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ

 

ผลการพิจารณา

1. ควรมีหน่วยงานกลางด้านการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการควบคุมกำกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์

 

- ประเทศไทยมีหน่วยงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก ซึ่งการมีหน่วยงานกลางเพื่อควบคุมกำกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์จะทำให้การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคมีเอกภาพ มีแนวทางในการทำงานที่ชัดเจน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. ควรมีการพัฒนาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพบริบทวิถีใหม่ในสังคมปัจจุบัน

 

- การพัฒนา แก้ไข ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพบริบทวิถีใหม่ในสังคมปัจจุบันมีความสำคัญ อย่างยิ่ง การมีกฎหมายเพื่อบังคับใช้เท่าที่จำเป็น ไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ และการเติบโตทางเศรษฐกิจจะช่วยให้การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3. หน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจในการควบคุมการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภท ต่างๆ ควรพัฒนาระบบการสร้างฐานข้อมูลของผู้ประกอบการทุกระดับเพื่อติดตาม ตรวจสอบหรือส่งเสริมให้รูปแบบการซื้อขายสินค้าหรือบริการเป็นไปตามกฎหมาย

 

- การพัฒนาระบบฐานข้อมูลของผู้ประกอบธุรกิจ ทุกระดับเพื่อติดตาม ตรวจสอบ หรือส่งเสริมให้รูปแบบ

การซื้อขายสินค้าหรือบริการเป็นไปตามกฎหมายจึงเป็นกลไกสำคัญในการเฝ้าระวังและตรวจสอบของภาครัฐได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคอีกด้วย

4. ควรมีมาตรการที่ชัดเจนในการดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้ประกอบธุรกิจที่โฆษณาหลอกลวงหรือเอาเปรียบผู้บริโภคผ่านทางเว็บไซต์หรือสื่อต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 

- การตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจที่ดำเนินการโฆษณาขายสินค้าหรือบริการผ่านสื่อออนไลน์ในช่องทางต่างๆ ยังขาดเครื่องมือที่ทันสมัยและขาดการบูรณาการในการตรวจสอบร่วมกัน ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องมีการพัฒนาเครื่องมือหรือระบบเทคโนโลยีดิจิทัลให้สามารถตรวจสอบโฆษณาที่ไม่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว พร้อมทั้งสามารถส่งต่อข้อมูลดังกล่าวให้กับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

5. ควรมีศูนย์ข้อมูลเพื่อผู้บริโภคในการเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และพัฒนาเป็นศูนย์กลางในการรับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคในระดับชาติ

 

- การบูรณาการข้อมูลด้านการคุ้มครองผู้บริโภคโดยการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทั้งในการส่งต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างหน่วยงานรวมถึงการแจ้งข้อมูลข่าวสารและการให้บริการต่างๆ แก่ผู้บริโภคอีกด้วย

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 11 ตุลาคม 2565

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A10434

Click Donate Support Web  

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

PTG 720x100TU720x100sme 720x100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100px

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!