WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ขออนุมัติโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ระยะที่ 2

GOV 21

ขออนุมัติโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ระยะที่ 2

        คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้

        1. อนุมัติโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ระยะที่ 2

        2. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการโครงการ โดยมีงบประมาณค่าใช้จ่าย ในการชดเชยเรือประมง จำนวน 59 ลำ เป็นเงิน 287.18 ล้านบาท โดยขอใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

        สาระสำคัญของเรื่อง 

        1. ในปี 2558 ประเทศไทยได้รับการแจ้งเตือนจากสหภาพยุโรปว่า กิจกรรมการประมงของประเทศไทยไม่เป็นไปตามกฎระเบียบคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ว่าด้วยการจัดตั้งระบบประชาคมยุโรปในการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (การทำการประมง IUU) ดังนั้น รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่น การแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับกฎระเบียบสากล การจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมง IUU และแผนบริหารจัดการประมงทะเลของไทย การกำหนดให้เรือประมงติดตั้งระบบติดตามเรือประมง การกำหนดเครื่องมือต้องห้ามในการทำการประมง การควบคุมปริมาณการจดทะเบียนเรือประมง เป็นต้น ซึ่งหนึ่งในมาตรการสำคัญ คือ การลดปริมาณเรือประมงให้เหมาะสมกับปริมาณสัตว์น้ำ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2558 - 2564 จำนวนเรือประมงที่ได้รับใบอนุญาตการทำการประมงพาณิชย์ยังมีจำนวนที่มากเกินค่าเป้าหมาย 1

 

TU720x100

ธกส 720x100

 

        2. ด้วยเหตุดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) จึงได้จัดทำโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนขึ้น โดยนำเรือประมงที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ (1) เรือที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐตั้งแต่ปี 2558 ที่ไม่สามารถทำการประมงได้ และ (2) เรือที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์แล้ว แต่เจ้าของเรือมีความประสงค์จะเลิกอาชีพทำการประมง ซึ่ง กษ. จะจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับเจ้าของเรือดังกล่าวเพื่อนำเรือดังกล่าวไปทำลาย โดยที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติ (5 มีนาคม 2562) เห็นชอบให้ดำเนินโครงการฯ ในระยะที่ 1 โดยดำเนินการในส่วนของเรือที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐตั้งแต่ปี 2558 ก่อน (ในส่วนของเรือที่เจ้าของเรือประสงค์จะเลิกอาชีพทำการประมง จำนวน 2,513 ลำ จะดำเนินการต่อไปในภายหลัง) โดยในโครงการฯ ระยะที่ 1 ได้ดำเนินการกับเรือประมงจำนวน 305 ลำ (กษ. แจ้งว่า ภายหลังมีเรือที่โดนตัดสิทธิในการเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 1 ลำ จึงมีเรือที่เข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 1 ทั้งสิ้น จำนวน 304 ลำ) จากเรือที่แจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 570 ลำ ในส่วนโครงการระยะที่ 2 ที่ กษ. เสนอมาในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการกับเรือประมงส่วนที่เหลือ จำนวน 263 ลำ (เจ้าของเรือประมงยกเลิกความประสงค์เข้าร่วมโครงการ 2 ลำ จึงทำให้เรือประมงส่วนที่เหลือลดลงจาก 265 ลำ เป็น 263 ลำ) ซึ่งในจำนวนนี้มีเรือประมงที่ผ่านเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 59 ลำ คิดเป็นงบประมาณ 287.18 ล้านบาท ส่วนที่เหลือที่ไม่เข้าข่ายเข้าร่วมโครงการฯ ระยะนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 จำนวน 171 ลำ ไม่ผ่านเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการฯ และโดนตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการแล้ว และกลุ่มที่ 2 จำนวน 33 ลำ เป็นกลุ่มเรือที่ไม่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งและมาตรการของรัฐแต่สมควรที่จะได้รับการชดเชย เยียวยาในระยะต่อไป ซึ่งกลุ่มที่ 2 อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะทำงานและคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

        3. กษ. แจ้งว่า การดำเนินการเพื่อทำลายเรือประมง จำนวน 570 ลำ ตามโครงการฯ ร่วมกับการทำลายเรือประมงที่มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์แต่เจ้าของเรือมีความประสงค์จะเลิกอาชีพทำการประมง จำนวน 2,513 ลำ จะทำให้สัดส่วนเรือประมงพาณิชย์ในน่านน้ำไทยอยู่ในระดับที่เหมาะสม (ต่ำกว่า 8,517 ลำ) ซึ่งจะส่งผลให้ชาวประมงที่ยังประกอบอาชีพอยู่สามารถทำการประมงได้มากขึ้น ในขณะที่ปริมาณสัตว์น้ำที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน (Maximum Sustainable Yield: MSY) ยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม

        โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ระยะที่ 2 มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

 

หัวข้อ

 

รายละเอียด

1. วัตถุประสงค์

 

1) เพื่อบริหารจัดการกองเรือประมงพาณิชย์ โดยรักษาความสมดุลของจำนวนเรือประมงพาณิชย์กับปริมาณสัตว์น้ำที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน 

2) เพื่อชดเชยเยียวยาและบรรเทาผลกระทบให้กับเจ้าของเรือประมงจากมาตรการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของภาครัฐ

3) เพื่อให้ชาวประมงที่ไม่สามารถประกอบอาชีพทำการประมงได้มีโอกาสประกอบอาชีพอื่น

4) เพื่อนำเรือที่ได้รับค่าชดเชยเยียวยาออกนอกระบบอย่างถาวร

2. เป้าหมาย

 

เรือประมงกลุ่มที่เหลือจากการชดเชยเยียวยาในระยะที่ 1 (ระยะเร่งด่วน) ที่ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบและพิจารณากลั่นกรองจากคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย คณะทำงานตรวจสอบประวัติ ความถูกต้อง และคุณสมบัติ เรือประมงและเจ้าของเรือและคณะทำงานประเมินราคาเรือประมง ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำความผิดตามกฎหมาย และผ่านการประเมินราคาค่าชดเชย จำนวน 59 ลำ

3. วิธีดำเนินงาน

 

คณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมง โดยกรมประมงดำเนินการจ่ายเงินค่าชดเชย โดยนำฝากเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของรัฐให้แก่เจ้าของเรือประมงตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด ดังนี้

1) งวดที่ 1 จ่ายเงินจำนวนร้อยละ 30 ของจำนวนเงินค่าชดเชย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแยกชิ้นส่วนเรือหรือทำลายเรือประมง

2) งวดที่ 2 จ่ายเงินจำนวนร้อยละ 70 ของจำนวนเงินค่าชดเชย หลังจากเจ้าของเรือประมงได้ดำเนินการแยกชิ้นส่วนเสร็จหรือทำลายเรือประมงเสร็จเรียบร้อยแล้ว

4. ระยะเวลาดำเนินงาน

 

ระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี (งบประมาณปี 2565)

5. งบประมาณ

 

งบประมาณค่าใช้จ่ายในการชดเชยเรือประมง จำนวน 59 ลำ งบประมาณ 287.18 ล้านบาท โดยขอใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (การจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวไม่ได้ใช้อัตราการชดเชยแบบคงที่ โดยเรือแต่ละลำได้รับการชดเชยตามราคาประเมิน ซึ่งผ่านการเห็นชอบของคณะทำงานประเมินราคาเรือประมงภายใต้คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายแล้ว)

6. หน่วยงานรับผิดชอบ

 

1) กรมประมง กษ.

2) กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม (คค.)

 

______________________________

1 ปัจจุบัน เรือประมงไทยยังคงมีจำนวนที่มากเกินกว่าประมาณที่เหมาะสม โดยในรอบปีการประมง 2565 - 2566 มีเรือที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ จำนวน 9,608 ลำ จากจำนวนเรือที่เหมาะสมในน่านน้ำไทย จำนวน 8,517 ลำ

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ (รองนายกรัฐมนตรี) 20 กันยายน 2565

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A9755

Click Donate Support Web  

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

PTG 720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ใจฟู720x100px

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!