ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 26/2565
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 13 September 2022 22:23
- Hits: 1950
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 26/2565
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ อนุมัติ และเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) ในคราวประชุมครั้งที่ 26/2565 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ ดังนี้
1. รับทราบรายงานผลการคืนเงินกู้เหลือจ่ายของโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (โครงการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา) ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จำนวน 24.4880 ล้านบาท ที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนข้อ 22 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 พ.ศ. 2564 (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564)
2. อนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยปรับลดกรอบวงเงินของโครงการฯ จาก 9,000 ล้านบาท เป็น 7,000 ล้านบาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
3. อนุมัติให้จังหวัดชัยนาท จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดอุตรดิตถ์ เปลี่ยนแปลงรายละเอียดสาระสำคัญและยกเลิกโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 จาก 19.5660 ล้านบาท เป็น 11.8490 ล้านบาท (ปรับลด 7.7170 ล้านบาท) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
4. อนุมัติให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา 5 (2)1 มาใช้เพื่อการตามมาตรา 5 (1)2 เพิ่มเติม (ครั้งที่ 7) จำนวน 18,609.7712 ล้านบาท และให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา 5 (3)3 มาใช้เพื่อการตามมาตรา 5 (1) เพิ่มเติม (ครั้งที่ 4) จำนวน 19,359.1857 ล้านบาท เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19)
5. เห็นชอบในหลักการของกลุ่มโครงการที่เกี่ยวกับค่าตอบแทนแก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข (โครงการค่าตอบแทนฯ) จำนวน 6 โครงการ ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กรอบวงเงินรวม 13,124.1024 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข
6. อนุมัติกลุ่มโครงการค่าตอบแทนฯ จำนวน 6 โครงการ กรอบวงเงินไม่เกิน 12,123.1098 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 สำหรับกรอบวงเงินที่เหลือ จำนวน 1,000.9926 ล้านบาท ให้ สธ. พิจารณาขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากแหล่งอื่นที่มีความเหมาะสมและดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
7. เห็นชอบในหลักการของโครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (โครงการค่าบริการฯ) ปี 2565 รอบที่ 5 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สธ. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับหน่วยบริการ สถานพยาบาลที่ให้บริการสาธารณสุขโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย กรอบวงเงิน 27,562.5605 ล้านบาท
8. อนุมัติโครงการค่าบริการฯ ปี 2565 รอบที่ 5 ของ สปสช. สธ. กรอบวงเงิน 25,845.8471 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการ กลุ่มที่ 12 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนที่เหลือจำนวน 1,716.7134 ล้านบาท ให้ สปสช. ดำเนินการโดยให้ใช้จ่ายจากแหล่งเงินอื่น อาทิ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นลำดับแรก
9. มอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการตามข้อ 2 และข้อ 3 เร่งแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and Country Reform : eMENSCR) (ระบบ eMENSCR) ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการโดยเร็ว
10. มอบหมายให้ สธ. [สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (กรมวิทยาศาสตร์ฯ) กรมสุขภาพจิต และกรมอนามัย] เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามข้อ 6 และรับความเห็นของ คกง. ไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และมอบหมายให้ สปสช. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามข้อ 8 และรับความเห็นของ คกง. ไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ 15 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564
11. มอบหมายให้ สธ. โดยหน่วยงานรับผิดชอบ กำกับและประชาสัมพันธ์ให้หน่วยบริการยุติการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการรักษาพยาบาล และค่าตอบแทนเสี่ยงภัยของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามระเบียบและหลักเกณฑ์ของทางราชการที่เกี่ยวข้อง และกำหนดให้การใช้จ่ายเป็นไปตามระเบียบปกติ รวมทั้งปรับให้สอดคล้องกับมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่จะปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง (Post-pandemic) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
12. รับทราบผลการพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของข้อเสนอโครงการนำร่องตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) (โครงการนำร่องฯ BCG กทบ.) ของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) และมอบหมายให้ กทบ. รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะอนุกรรมการเพื่อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของโครงการภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และแผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 (คณะอนุกรรมการฯ แผนงาน/โครงการกลุ่มที่ 2 และ 3) ไปประกอบการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนแหล่งงบประมาณอื่นตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
________________________________
1 เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19
2 เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19
3 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ (รองนายกรัฐมนตรี) 13 กันยายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A9520