ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2537 เรื่อง การตั้งโรงงานแปรรูปไม้ (โรงเลื่อย) เพื่อผลิตไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับ จากไม้ที่ปลูกขึ้นโดยเฉพาะ คือ ยูคาลิปตัส สะเดาเทียม สนทะเล สนประดิพัทธ์ กระถินณรงค์ กระถินเทพา กระถินยักษ์ มะพร้าว มะขาม มะไฟบ้าน มะ
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 06 September 2022 23:33
- Hits: 2841
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2537 เรื่อง การตั้งโรงงานแปรรูปไม้ (โรงเลื่อย) เพื่อผลิตไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับ จากไม้ที่ปลูกขึ้นโดยเฉพาะ คือ ยูคาลิปตัส สะเดาเทียม สนทะเล สนประดิพัทธ์ กระถินณรงค์ กระถินเทพา กระถินยักษ์ มะพร้าว มะขาม มะไฟบ้าน มะปรางบ้าน จามจุรี และไม้ตาล
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2537 เรื่อง การตั้งโรงงานแปรรูปไม้ (โรงเลื่อย) เพื่อผลิตไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับ1 จากไม้ที่ปลูกขึ้นโดยเฉพาะ คือ ยูคาลิปตัส สะเดาเทียม สนทะเล สนประดิพัทธ์ กระถินณรงค์ กระถินเทพา กระถินยักษ์ มะพร้าว มะขาม มะไฟบ้าน มะปรางบ้าน จามจุรี และไม้ตาล ดังนี้
มติคณะรัฐมนตรีเดิม |
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเป็น |
|
เห็นควรให้ความเห็นชอบในหลักการอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ (โรงเลื่อย) เพื่อผลิตไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับ จากไม้ที่ปลูกขึ้นโดยเฉพาะ คือ ยูคาลิปตัส สะเดาเทียม สนทะเล สนประดิพัทธ์ กระถินณรงค์ กระดินยักษ์ มะพร้าว มะขาม มะไฟบ้าน มะปรางบ้าน กระถินเทพา จามจุรี และไม้ตาล ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ โดยให้ทดลองดำเนินการในบางพื้นที่ก่อน เช่นเดียวกับการแปรรูปไม้ยางพาราตามหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2524 ทั้งนี้ ในการอนุญาตให้ กษ. และกระทรวงอุตสาหกรรม(อก.) ร่วมกันพิจารณาตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตและมาตรการตรวจสอบควบคุมเช่นเดียวกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2532 |
เห็นควรให้ความเห็นชอบในหลักการอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ (โรงเลื่อย) เพื่อผลิตไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับ จากไม้ที่ปลูกขึ้นโดยเฉพาะ คือ ยูคาลิปตัส สะเดาเทียม สนทะเล สนประดิพัทธ์ กระถินณรงค์ กระถินเทพา กระถินยักษ์ มะพร้าว มะขาม มะไฟบ้าน มะปรางบ้าน จามจุรี ไม้ตาล และไม้ผลทุกชนิดที่ปลูกขึ้นในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน โดยมีหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และมาตรการตรวจสอบควบคุมตามที่คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้กำหนด |
สาระสำคัญของเรื่อง
ทส. รายงานว่า
1. ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติวันที่ 25 มกราคม 2537 อก. ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ และกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และมาตรการป้องกันการควบคุม เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ (โรงเลื่อย) เพื่อผลิตไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับ โดยใช้ไม้ยางพาราและไม้ที่ปลูกขึ้นโดยเฉพาะ 13 ชนิด ได้แก่ ยูคาลิปตัส สะเดาเทียม สนทะเล สนประดิพัทธ์ กระถินณรงค์ กระถินเทพา กระถินยักษ์ มะพร้าว มะขาม มะไฟบ้าน มะปรางบ้าน จามจุรี และไม้ตาล
2. ปัจจุบันเกษตรกรในทุกภูมิภาคของประเทศ มีการทำสวนผลไม้ ซึ่งปลูกขึ้นในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน แต่เมื่อต้นผลไม้มีการเจริญเติบโตจะต้องมีการตัดแต่งกิ่งต้นผลไม้เพื่อบำรุงรักษาต้นผลไม้นั้นหรือตัดต้นผลไม้ที่มีอายุมากที่ไม่ให้ผลผลิตออกจากสวนเป็นประจำทุกปี ซึ่งต้นไม้ผลและเศษไม้ผลเหล่านี้บางส่วนสามารถนำมาผลิตเป็นไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับได้ เป็นการใช้ประโยชน์จากไม้ประเภทต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3. ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2561 ณ จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 5 - 6 กุมภาพันธ์ 2561 จังหวัดตราดได้รับแจ้งข้อเสนอจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราดว่า เห็นควรให้มีการเพิ่มชนิดไม้จากสวนผลไม้ที่หมดอายุแล้ว ให้สามารถนำเข้ามาแปรรูปในโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราและไม้ ที่ปลูกขึ้นโดยเฉพาะ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2537 กรมป่าไม้จึงมีหนังสือแจ้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมไม้ เพื่อระบุชนิดไม้และข้อเสนอแนะในการเพิ่มชนิดไม้ ซึ่งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เสนอชนิดไม้จากสวนผลไม้ต่างๆ มาเป็นจำนวนมากและไม่ได้คัดค้านการเพิ่มชนิดไม้จากสวนผลไม้ในกรณีนี้
4. ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 [รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธาน] ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ไม้ยางพารา ยูคาลิปตัส สะเดาเทียม สนทะเล สนประดิพัทธ์ กระถินณรงค์ กระถินเทพา กระถินยักษ์ มะพร้าว มะขาม มะไฟบ้าน มะปรางบ้าน จามจุรี ไม้ตาล และไม้ผลทุกชนิดที่ปลูกในที่ดินกรรมสิทธิ์นำเข้าเป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานแปรรูปไม้ได้ และมอบหมายให้ ทส. โดยกรมป่าไม้นำความเห็นของคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป
5. ปัจจุบันมีผู้ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร (โรงเลื่อย) เพื่อทำการแปรรูปไม้และผลิตชิ้นไม้สับจากไม้ยางพาราและไม้ที่ปลูกขึ้นโดยเฉพาะ 13 ชนิด จำนวนทั้งสิ้น 1,028 โรงงาน หากอนุญาตให้เพิ่มชนิดไม้ผลที่ปลูกขึ้นในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน ให้เข้ามาแปรรูปในโรงงานประเภทดังกล่าวได้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ได้รับอนุญาตรายเดิมให้สามารถเพิ่มวัตถุดิบการผลิตอันจะเป็นการส่งเสริมและขยายตลาดภาคอุตสาหกรรมไม้ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น และเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ทำสวนผลไม้และผู้ปลูกผลไม้รายย่อยที่ต้องการตัดแต่งกิ่งไม้ผลเพื่อบำรุงรักษาต้นผลไม้หรือต้นไม้ผลที่หมดอายุการเก็บเกี่ยวผลผลิต ให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการแปรรูปไม้หรือทำเป็นชิ้นไม้สับส่งขายให้แก่โรงงานฯ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้อย่างคุ้มค่า
6. นอกจากนี้ เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้และนำไม้มิชอบด้วยกฎหมายเข้ามาเป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานฯ การอนุญาตให้เพิ่มชนิดไม้ผลที่ปลูกขึ้นในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดินให้เข้ามาแปรรูปในโรงงานประเภทดังกล่าวได้ เห็นควรมีหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และมาตรการตรวจสอบควบคุมตามที่คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ (อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประธาน) กำหนด
_______________________
1โรงงานแปรรูปไม้ (โรงเลื่อย) คือ โรงงานที่มีวัตถุประสงค์ทำไม้แปรรูปในลักษณะเป็นไม้ซุง ไม้ท่อน ไม้แผ่น ฟืน หรือถ่าน โดยไม่ได้เข้าสู่กระบวนการทำเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือผลิตภัณฑ์จากไม้ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ (รองนายกรัฐมนตรี) 6 กันยายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A9269