การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 06 September 2022 22:42
- Hits: 2016
การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในอัตราไม่เกิน 12,309 อัตรา โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด ดังนี้
1. ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ระดับดีเด่น ดังนี้
ประเภท |
ผู้ปฏิบัติงาน ด้านยาเสพติด (อัตรา) |
ร้อยละ ที่ขอปรับเพิ่ม |
จำนวนผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ที่ได้รับบำเหน็จความชอบ (อัตรา) |
ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง |
343,968 |
ไม่เกิน 2.5 |
ไม่เกิน 8,599 |
ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด |
247,327 |
ไม่เกิน 1.5 |
ไม่เกิน 3,710 |
รวม (อัตรา) |
591,295 |
- |
ไม่เกิน 12,309 |
2. สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดเป็นลำดับแรกก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นจากการเลื่อนเงินเดือนกรณีปกติในแต่ละครึ่งปี อัตราร้อยละ 1 ของฐานในการคำนวณ ทั้งนี้ เมื่อรวมกับการเลื่อนเงินเดือนกรณีปกติ จะต้องไม่เกินร้อยละ 6 ของฐานในการคำนวณ) ในอัตราไม่เกิน 12,309 อัตรา โดยแบ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง ไม่เกิน 8,599 อัตรา (ร้อยละ 2.5 จากจำนวนผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรงทั้งหมด) และผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่เกิน 3,710 อัตรา (ร้อยละ 1.5 จากจำนวนผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งหมด) ซึ่งได้มีการดำเนินการเพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากปัญหายาเสพติดในสังคม สร้างความมั่นคงปลอดภัย และลดความเดือดร้อนของประชาชนจากผลกระทบดังกล่าว เช่น (1) มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ : ร่วมกับประเทศสมาชิกภายใต้แผนปฏิบัติการร่วมแม่น้ำโขงปลอดภัยเพื่อควบคุมยาเสพติด 6 ประเทศ โดยสามารถจับกุมคดียาเสพติดได้ทั้งสิ้น 957 คดี จำนวนผู้ต้องหา 1,617 คน (2) มาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย : โดยปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดเพื่อไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าสู่ตอนในของไทยหรือใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม โดยสามารถสกัดกั้นยาเสพติด เช่น ยาบ้า ได้ทั้งสิ้น 43.85 ล้านเม็ด ไอซ์ 2,013.69 กิโลกรัม เป็นต้น รวมทั้งดำเนินการยึด/อายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดได้ทั้งสิ้น 9,215.33 ล้านบาท ซึ่งการอนุมัติบำเหน็จความชอบในครั้งนี้มีประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 80.87 ล้านบาท (6,570 บาท/คน/ปี) โดยจะใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดเป็นลำดับแรกก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป ทั้งนี้ ยธ. ได้ประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติราชการหรือสมรรถนะของผู้รับการประเมินบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2552 แล้ว
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ (รองนายกรัฐมนตรี) 6 กันยายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A9260