การดำเนินการตามข้อมติคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายและภัยต่ออัฟกานิสถานและการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่อัฟกานิสถาน ที่ 2611 (ค.ศ. 2021) และ ที่ 2615 (ค.ศ. 2021)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 30 August 2022 22:09
- Hits: 2963
การดำเนินการตามข้อมติคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายและภัยต่ออัฟกานิสถานและการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่อัฟกานิสถาน ที่ 2611 (ค.ศ. 2021) และ ที่ 2615 (ค.ศ. 2021)
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและรับรองตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
1. รับทราบและรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council - UNSC) ที่ 2611 (ค.ศ. 2021) ว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายและภัยต่ออัฟกานิสถาน (ข้อมติ UNSC ที่ 2611ฯ) และข้อมติ UNSC ที่ 2615 (ค.ศ. 2021) ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่อัฟกานิสถาน (ข้อมติ UNSC ที่ 2615ฯ) พร้อมทั้งให้ความเห็นชอบการดำเนินการตามข้อมติข้างต้น จนกว่า UNSC จะรับรองข้อมติเพื่อเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญหรือยกเลิกข้อมติดังกล่าว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเมื่อมีการรับรองข้อมติที่มีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญหรือยกเลิกข้อยกเว้นดังกล่าวต่อไป
2. มอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 14 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงกลาโหม (กห.) กระทรวงการคลัง (กค.) กระทรวงคมนาคม (คค.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) สำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถือปฏิบัติ และแจ้งผลการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ กต. ทราบเพื่อประโยชน์ในการรายงานต่อสหประชาชาติต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณารับทราบและรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council - UNSC) ที่ 2611 (ค.ศ. 2021) ว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายและภัยต่ออัฟกานิสถาน (ข้อมติ UNSC ที่ 2611ฯ) และข้อมติ UNSC ที่ 2615 (ค.ศ. 2021) ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่อัฟกานิสถาน (ข้อมติ UNSC ที่ 2615ฯ) ที่ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 และวันที่ 22 ธันวาคม 2564ตามลำดับ เพื่อตอบสนองต่อการก่อการร้ายที่เปลี่ยนแปลงไปและเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคง เช่น การก่อการร้ายในหลายพื้นที่ โดยข้อมติ UNSC ทั้งสองข้อ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติจะต้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องภายใต้ขอบเขตของกฎหมายภายในของประเทศไทยและพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น ให้รัฐสมาชิกคงการกำหนดใช้มาตรการกับบุคคลและองคภาวะที่ถูกกำหนดว่าเป็นตาลีบัน รวมถึงส่วนอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มตาลีบันซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงของอัฟกานิสถาน โดยมีมาตรการ เช่น อายัดเงินทุน ห้ามการเดินทางเข้า - ออก ห้ามจัดหา/ขาย/ถ่ายโอนอาวุธ กระสุน รวมถึงให้คณะสนับสนุนการวิเคราะห์และตรวจสอบการดำเนินการตามมาตรการลงโทษทำหน้าที่ต่อไปอีก 12 เดือน (เดิมจะสิ้นสุดอาณัติในเดือนธันวาคม 2565) และให้ผู้ประสานงานด้านการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินของสหประชาชาติจัดการบรรยายสรุปแก่ UNSC เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในอัฟกานิสถาน รวมถึงข้อมูล์ที่มีเกี่ยวกับการชำระเงินทุนเพื่อประโยชน์ของบุคคลหรือองค์กรที่ถูกกำหนด การยักย้ายถ่ายเทเงินทุน การบริหารความเสี่ยงและกระบวนการตรวจสอบและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพสิทธิมนุษยชน และปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอัฟกานิสถาน
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงาน ป.ป.ส. สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นชอบ/ไม่มีข้อขัดข้องตามที่ กต. เสนอ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการที่สอดคล้องกับมติ UNSC ดังกล่าว
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ (รองนายกรัฐมนตรี) 30 สิงหาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A81156