ขอความเห็นชอบการเพิ่ม ‘กิจกรรมส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-Border e-Commerce) ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active’
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 23 August 2022 23:46
- Hits: 3202
ขอความเห็นชอบการเพิ่ม ‘กิจกรรมส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-Border e-Commerce) ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active’
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเพิ่ม “กิจกรรมส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-Border e-Commerce) ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active” ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2556 ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
พณ. รายงานว่า
1. กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินโครงการ SMEs Pro-active อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยไปแล้ว จำนวน 6,610 ราย มีการเข้าร่วมกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 1,721 งาน ส่งผลให้เกิดมูลค่าทางการค้า 17,323 ล้านบาท โดยได้รับอนุมัติวงเงินในการดำเนินโครงการจากคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานกรรมการ) แบ่งออกเป็น 3 ระยะ1 ดังนี้
(1) ระยะที่ 1 (ปีงบประมาณ 2556 - 2558) จำนวน 400 ล้านบาท ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ จำนวน 2,600 ราย เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 427 งาน และเกิดมูลค่าทางการค้า 8,600 ล้านบาท
(2) ระยะที่ 2 (ปีงบประมาณ 2559 - 2561) จำนวน 401.6 ล้านบาท ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ จำนวน 1,747 ราย เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 520 งาน และเกิดมูลค่าทางการค้า 8,520 ล้านบาท
(3) ระยะที่ 3 (ปีงบประมาณ 2562 - 2567) จำนวน 500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่าง การดำเนินโครงการ โดยให้สนับสนุนผู้ประกอบการไปแล้ว จำนวน 2,263 ราย เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 774 งาน และ เกิดมูลค่าทางการค้า 203 ล้านบาท คงเหลือวงเงินในการให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ จำนวน 248.03 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565) (ขณะนี้ พณ. อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ SMEs Pro-active ระยะที่ 3)
2. ในการประชุมคณะกรรมการโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Pro-active) (อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นประธานกรรมการ) ครั้งที่ 1/2564 (49) เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกรอบแนวทางและหลักเกณฑ์การสนับสนุนผู้ประกอบการในการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-Border e-Commerce) ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active และในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 ที่ประชุม มีมติอนุมัติการเพิ่มกิจกรรมดังกล่าวภายใต้โครงการ SMEs Pro-active โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ
3. กิจกรรมส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-Border e-Commerce) ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active มีกรอบแนวทางและหลักเกณฑ์การสนับสนุนผู้ประกอบการในการเข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้
รายการ |
รายละเอียด |
|
1. ลักษณะการจัด กิจกรรม |
การใช้แพลตฟอร์มตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-Border e-Commerce) (แพลตฟอร์มฯ) ในการขยายตลาดการค้าสู่สากล เฉพาะประเภท B-2-B (Business-to-Business) ที่ดำเนินธุรกิจขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าที่เป็นองค์กรเท่านั้น |
|
2. คุณสมบัติผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรม |
ผู้ประกอบการต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานตามหลักเกณฑ์โครงการฯ และมีคุณสมบัติเพิ่มเติม ดังนี้ - เป็นสมาชิก Thaitrade.com2 - ในกรณีที่ไม่เคยส่งออก ให้ผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (ได้รับยกเว้นคุณสมบัติที่ต้องเคยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า/กิจกรรมที่กรมจัด) |
|
3. วงเงินสนับสนุน |
เบิกจ่ายตามจริงไม่เกิน 100,000บาท ต่อบริษัทต่อครั้ง |
|
4. จำนวนสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรม |
6 สิทธิตลอดทั้งระยะ (ไม่รวมจำนวนสิทธิ์ในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ/กิจกรรมสร้างโอกาสทางการค้าและเครือข่ายทางธุรกิจในต่างประเทศ/งานแสดงสินค้า/บริการเสมือนจริงในต่างประเทศ) |
|
5. ค่าใช้จ่ายที่สนับสนุน |
- ค่าใช้จ่ายแรกเข้า และ/หรือค่าสมาชิก (Membership Fee) และ/หรือ ค่าแพคเกจ (Package) ของแพลตฟอร์มฯ - ค่าประชาสัมพันธ์ ค่าการตลาด และค่าใช้จ่ายในการทำ Online Content ของแพลตฟอร์มฯ |
|
6. ประเภทสินค้า |
สินค้าไทยทุกประเภทที่มีศักยภาพและสามารถวางขายบนแต่ละแพลตฟอร์มได้โดยฝ่ายเลขานุการฯ จะทำการสุ่มตรวจให้สอดคล้องกับข้อมูลที่แจ้งในการสมัคร |
|
7. การเบิกจ่าย |
จัดส่งเอกสารเบิกจ่ายถึงสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หรือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ภายใน 45 วัน พร้อมแนบรายงานผลสถิติยอดขายที่เกิดขึ้นจริงของแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์อย่างน้อย 1 เดือน |
|
8. แนวทางในการประเมิน ผลการเข้าร่วมกิจกรรม |
แจ้งรายงานผลสถิติยอดขายที่เกิดขึ้นจริงของแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทุก 3 เดือน ให้กรมฯ ทราบผ่านทางระบบ หากไม่ดำเนินการจะมีผลต่อการขอรับสนับสนุนในครั้งต่อไป |
|
9. รายชื่อแพลตฟอร์มพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ที่ให้การสนับสนุน |
แพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำที่มีมาตรฐาน ความน่าเชื่อถือ ความนิยมในตลาดที่เป็นลักษณะ B-2-B เช่น Alibaba, KlangOne, GlobalConnect โดยรวบรวมเป็นบัญชีรายชื่อกิจกรรมส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Qualified Cross-Border e-Commerce List : QCL) |
4. การเพิ่มกิจกรรมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-Border e - Commerce) ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active จะเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้ยังคงสามารถทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องไปเข้าร่วมงานในต่างประเทศ ภายใต้ข้อจำกัดด้านการเดินทางและรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยการเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนนี้ยังสอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ฉบับที่ 8 ประเด็น ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ (พ.ศ. 2561 - 2580) ในการสร้างโอกาสการเข้าถึงตลาด และส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้แข่งขันได้ในระดับสากล อีกทั้งเป็นการขยายบทบาทโครงการ SMEs Pro-active โดยต่อยอดจากการสนับสนุนกิจกรรมงานแสดงสินค้ารูปแบบเดิม
____________________
1โดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (3 พฤษภาคม 2559) อนุมัติหลักการในการใช้เงินต้นเพื่อดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์กองทุนฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 เป็นต้นไป โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นผู้พิจารณาอนุมัติแผนงานและจัดสรรเงินตามระเบียบและหลักเกณฑ์กองทุนฯ ตามที่ พณ. เสนอ ดังนั้น โครงการ SMEs Pro - active ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 จึงไม่ได้มีการนำเสนอคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ปัจจุบันกองทุนฯ มีวงเงินคงเหลือประมาณ 678.58 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)
2Thaitrade.com เป็นหนึ่งใน Cross-Border e-Commerce ของประเทศไทย ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พณ. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและผลักดันให้ผู้ส่งออกของไทยสามารถนำสินค้าและบริการมาเสนอให้กับลูกค้าในต่างประเทศได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งบริการนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 23 สิงหาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A8911