สรุปภาพรวมดัชนีเศรษฐกิจการค้าประจำเดือนมิถุนายน 2565
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 23 August 2022 23:27
- Hits: 3160
สรุปภาพรวมดัชนีเศรษฐกิจการค้าประจำเดือนมิถุนายน 2565
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปภาพรวมดัชนีเศรษฐกิจการค้าประจำเดือนมิถุนายน 2565 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
สาระสำคัญ และข้อเท็จจริง
1. สรุปภาพรวมดัชนีเศรษฐกิจการค้าเดือนมิถุนายน 2565 ดังนี้
ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (CPI) เดือนมิถุนายน 2565 เท่ากับ 107.58 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2565 (106.62) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.90 (MoM) ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ที่สูงขึ้นร้อยละ 1.40 (MoM) ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 7.66 (YoY) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการของภาครัฐที่พยายามช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่และผู้ประกอบการภาคเอกชนได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการตรึงราคาขายปลีกเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อค่าครองชีพของประชาชน โดยคำนึงถึงการได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างสมดุล ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค เป็นสำคัญ
สำหรับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นร้อยละ 7.66 (YoY) มีปัจจัยหลักจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้ากลุ่มพลังงาน ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม ส่งผลให้มีสัดส่วนผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ (Contribution to Percentage Change : CPC) ถึงร้อยละ 61.83 ประกอบกับฐานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิถุนายน 2564 อยู่ในระดับต่ำ โดยกลุ่มสินค้าสำคัญที่มีราคาปรับสูงขึ้น ได้แก่
• กลุ่มพลังงาน มีอัตราการเติบโตของราคาร้อยละ 39.97 (YoY) ประกอบด้วย น้ำมันเชื้อเพลิง มีอัตราการเติบโตของราคาร้อยละ 39.45 ค่าไฟฟ้าร้อยละ 45.41 และราคาก๊าซหุงต้มร้อยละ 12.63 ส่งผลให้กลุ่มพลังงานมีสัดส่วนผลกระทบถึงร้อยละ 61.83 ของอัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้
• กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มีอัตราการเติบโตของราคา ร้อยละ 6.42 (YOY อาทิ เนื้อสุกร ไก่สด ไข่ไก่ และเครื่องประกอบอาหาร ส่งผลให้กลุ่มอาหารมีสัดส่วนผลกระทบร้อยละ 34.27 ของอัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้ โดยการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้ากลุ่มอาหารมีสาเหตุจากพลังงานซึ่งเป็นต้นทุนในกระบวนการผลิตสินค้าอาหารทุกขั้นตอน ตลอดจนเป็นต้นทุนโลจิสติกส์และราคาวัตถุดิบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าที่ราคาปรับลดลง อาทิ ข้าวสาร เนื่องจากปริมาณผลผลิตมีจำนวนมาก และผู้ประกอบการให้ความร่วมมือลดราคาตามมาตรการ ลดค่าครองชีพของกระทรวงพาณิชย์และผลไม้สด โดยเฉพาะ เงาะ มังคุด และลองกอง ที่ราคาลดลงตามปริมาณผลผลิตที่มีค่อนข้างมาก
สินค้าอื่นๆ มีสัดส่วนผลกระทบร้อยละ 3.90 ต่ออัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้โดยมีรายการที่ราคาเพิ่มขึ้น อาทิ สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด (น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม) ของใช้ส่วนบุคคล (สบู่ถูตัว ยาสีฟัน) ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ (บุหรี่ เบียร์ สุรา) และค่าโดยสารสาธารณะ เป็นต้น ขณะที่บางรายการมีราคาลดลง อาทิ ค่าส่งพัสดุไปรษณีย์ และค่าเครื่องรับโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนมิถุนายน 2565 สูงขึ้นร้อยละ 13.8 (YOY) เป็นการสูงขึ้นในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ และสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง จากราคาวัตถุดิบ ต้นทุนการผลิต และการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับเงินเฟ้อแล้ว พบว่า อัตราเงินเฟ้อยังต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้ผลิตส่วนหนึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของผู้ประกอบการค้าปลีกตามมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลส่วนดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง สูงขึ้นร้อยละ 5.5 (YOY) สูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจากราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กในตลาดโลกลดลง ขณะที่ต้นทุนการผลิตยังคงปรับตัวสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตทั้งน้ำมัน ถ่านหิน และอลูมิเนียม
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม อยู่ที่ระดับ 44.3 เทียบกับเดือนก่อนหน้า ที่ระดับ 44.7 สาเหตุเกิดจากความกังวลของประชาชนต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะราคาน้ำมันซึ่งเกิดจากมาตรการคว่ำบาตรของประเทศพันธมิตรต่อประเทศรัสเซีย ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก และส่งผ่านมายังเศรษฐกิจไทย
2. แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไป
อัตราเงินเฟ้อไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ยังมีแนวโน้มขยายตัวในระดับที่ใกล้เคียงกับไตรมาส ที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 23 สิงหาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A8908