ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 16 August 2022 21:24
- Hits: 2880
ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อเอกสารผลลัพธ์ตามข้อ 1.3 (1) - (2) และหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงเอกสารผลลัพธ์ดังกล่าวในประเด็นที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้นๆ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก รวมทั้งอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์ ตามข้อ 1.3 (1) หรือออกประกาศแถลงการณ์ประธานการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 ตามข้อ 1.3 (2) ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ
1. สาระสำคัญของเรื่อง
1.1 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ประจำปี พ.ศ. 2565 ภายใต้หัวข้อหลัก Open. Connect. Balance “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล”
1.2 กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 (12th APEC High Level Meeting on Health and the Economy) ภายใต้หัวข้อหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์กับภาคี เชื่อมโยงกันกับโลก สู่สมดุลระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ” (Open to Partnership. Connect with the World. Balance Health and the Economy) ระหว่างวันที่ 25 - 26 สิงหาคม 2565 ณ โรงแรม มิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ
1.3 การประชุมดังกล่าวจะมีเอกสารผลลัพธ์ ได้แก่
(1) แถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 (กรณีที่รัฐมนตรีสาธารณสุขเอเปค และผู้แทนทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจเอเปคไม่มีข้อขัดข้อง)
(2) แถลงการณ์ประธานการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 (กรณีที่เขตเศรษฐกิจเอเปคไม่สามารถเห็นชอบร่วมกันเพื่อรับรองเอกสารผลลัพธ์ตามข้อ 1.3 (1))
2. สาระสำคัญของร่างแถลงการณ์
2.1 ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 ถือเป็นเอกสารผลลัพธ์สำคัญของการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณถึงความร่วมมือด้านสาธารณสุขในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ในการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ และการเพิ่มการลงทุนในการสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพโลก รวมถึงยังเป็นผลลัพธ์ความสำเร็จของการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปีนี้ที่จะสนับสนุนบทบาทเด่นของไทยในเวทีนานาชาติด้วย
2.2 ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 มีสาระสำคัญ ได้แก่ (1) สร้างสมดุลระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ โดยเน้นการดำเนินงานตามมาตรการทางด้านสาธารณสุข และการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและตอบโต้ต่อภัยคุกคามสุขภาพรวมทั้งโรคระบาด การสร้างเสริมความเข้มแข็งของระบบสุขภาพและการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมทั้งสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวัคซีน เครื่องมือในการตรวจวินิจฉัยโรค และยารักษาโรค ในการป้องกันและรักษาโควิด 19 และโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อป้องกันผลกระทบต่อด้านเศรษฐกิจ (2) สนับสนุนการเพิ่มการลงทุนในด้านความมั่นคงด้านสุขภาพโลกโดยเฉพาะการเสริมสร้างขีดสมรรถนะด้านการป้องกัน ตรวจจับและตอบโต้โรคระบาด การเสริมสร้างระบบสุขภาพให้เข้มแข็งและการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้ระบบสาธารณสุขมีความพร้อมรับมือต่อภาวะคุกคามด้านสุขภาพและมีความยืดหยุ่นต่อวิกฤติการด้านสาธารณสุข และสนับสนุนการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่เพิ่มประสิทธิภาพของระบบสุขภาพ และ (3) สนับสนุนความร่วมมือที่จะเกิดรูปธรรมระหว่างเขตเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ
2.3 ร่างแถลงการณ์ประธานการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12
2.3.1 ในกรณีที่ที่ประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 มีฉันทามติรับรองเอกสาร 1.3 (1) จะมีเอกสารผลลัพธ์ ได้แก่ ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12
2.3.2 ในกรณีที่ที่ประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 ไม่มีฉันทามติรับรองเอกสาร 1.3 (1) จะมีเอกสารผลลัพธ์ ได้แก่ ร่างแถลงการณ์ประธานการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 โดยอาจมีประเด็นอ่อนไหวหรือประเด็นที่ยังไม่มีฉันทามติจากทุกเขตเศรษฐกิจเพื่อสะท้อนเหตุการณ์การเมืองระหว่างประเทศและแสดงจุดยืนของไทยต่อเอเปค
2.4 กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งเอกสารผลลัพธ์ตามข้อ 1.3 ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแล้ว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศแจ้งข้อคิดเห็นว่า ร่างถ้อยแถลงร่วมฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองระดับรัฐมนตรีด้านสาธารณสุขของเขตเศรษฐกิจเอเปค เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในการรับมือกับ COVID-19 และโรคระบาดใหม่ที่อาจจะมีในอนาคต ซึ่งการรับมือกับโรคระบาดใหญ่ทั่วโลกนั้นก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างยิ่งยวด จึงเป็นที่ตระหนักร่วมกันว่าจะต้องมีแนวทางในการเตรียมความพร้อมและรับมือกับโรคระบาดใหญ่ ตลอดจนการส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียม โดยร่างถ้อยแถลงร่วมดังกล่าวไม่มีถ้อยคำหรือบริบทที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ กอปรกับไม่มีการลงนามในร่างเอกสารดังกล่าว ดังนั้น ร่างถ้อยแถลงร่วมฯ จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 16 สิงหาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A8618