WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 เรื่อง การดำเนินโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า

GOV1 copy copy

 

ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 เรื่อง การดำเนินโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า

        คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 เรื่อง การดำเนินโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ ดังนี้

 

 

จากเดิม

 

เป็น

ในกรณีที่การดำเนินโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐ มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า และจะต้องมีการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ด้วย ให้สำนักงบประมาณ (สงป.) พิจารณาจัดสรร/อนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทนให้กับหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการหรือหน่วยงานของรัฐที่เป็นผู้ดำเนินการปลูกป่าตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) กำหนด โดยถือเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งของโครงการนั้นๆ ด้วย

 

ในกรณีการดำเนินโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐมีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าและจะต้องมีการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ด้วย ให้ สงป. พิจารณาจัดสรร/อนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทนให้กับหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการหรือหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ดำเนินการปลูกป่าตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่ กก.วล. กำหนดโดยถือเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งของโครงการนั้นๆ ด้วย โดยยกเว้นหน่วยงานของรัฐ หรือโครงการบางประเภทที่ไม่ต้องจัดสรรงบประมาณค่าปลูกป่าทดแทน ดังนี้

(1) โครงการเพื่อสร้างศาสนสถานและสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนา

(2) โครงการที่มีวัตถุประสงค์เป็นไปเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

(3) โครงการเพื่อการจัดที่ดินที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี

(4) โครงการที่เข้าใช้พื้นที่ป่าก่อนได้รับอนุญาตตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 (เรื่อง การเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ และขอผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2523 ในกรณีที่ปรากฏว่ายังมีส่วนราชการใดเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 (เรื่อง ขอขยายเวลาในการยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563)”

 

        สาระสำคัญของเรื่อง

        ทส. รายงานว่า

        1. กรมป่าไม้ได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่อง การกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การปลูกป่าทดแทนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นควรให้มีการกำหนดเงื่อนไข และหลักเกณฑ์การปลูกป่าทดแทนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 โดยมีการกำหนด ดังนี้

             1.1 ค่าปลูกป่าทดแทน ซึ่งหน่วยงานของรัฐจะต้องจัดสรรงบประมาณโดยถือเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งของโครงการ โดยพิจารณาตามการจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและที่ดินป่าไม้ในพื้นที่ (1) ป่าสงวนแห่งชาติ (2) ป่าตามมาตรา 4 (1) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 (3) ป่าที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้รักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ (ป่าไม้ถาวร) และ (4) พื้นที่กำหนดเขตคุณภาพลุ่มน้ำตามมติคณะรัฐมนตรี

             1.2 หน่วยงานของรัฐ หรือโครงการบางประเภทที่ไม่ต้องจัดสรรงบประมาณค่าปลูกป่าทดแทนตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว

 

AXA 720 x100

 

        2. กก.วล. ในการประชุม ครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 ได้มีมติเห็นชอบกับการกำหนดเงื่อนไข หลักเกณฑ์ การปลูกป่าทดแทน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 ตามที่ ทส. เสนอ และมอบหมายให้ ทส. โดยกรมป่าไม้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งการกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

             2.1 กำหนดเงื่อนไขการปลูกป่าทดแทน ซึ่งหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้จะต้องจัดสรรงบประมาณ โดยถือเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งของโครงการ โดยพิจารณาตามการจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและที่ดินป่าไม้ในพื้นที่ (1) ป่าสงวนแห่งชาติ (2) ป่าตามมาตรา 4 (1) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 (3) ป่าที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้รักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ (ป่าไม้ถาวร) และ (4) พื้นที่กำหนดเขตคุณภาพลุ่มน้ำตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนี้

 

ประเภทพื้นที่

 

จำนวนการปลูกป่าทดแทน

กลุ่มที่ 1 คือ

(1) ในเขตพื้นที่เขตป่าเพื่อเกษตรกรรม (โซน A) เขตพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ (โซน E)

(2) ป่าตามมาตรา 4 (1) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 

(3) ป่าที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้รักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ (ป่าไม้ถาวร)

 

1 เท่าของพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต

กลุ่มที่ 2 คือ ในเขตพื้นที่ป่าที่จำแนกไว้เป็นป่าเพื่อการอนุรักษ์เพิ่มเติม (โซน C)

 

2 เท่าของพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต (เนื่องจากโซน C มีมาตรการห้ามมิให้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่น)

กลุ่มที่ 3 คือ ในเขตพื้นที่ป่าที่จำแนกไว้เป็นป่าเพื่อการอนุรักษ์เพิ่มเติม (โซน C) และอยู่ในเขตกำหนดชั้นคุณภาพพื้นที่ลุ่มน้ำ ชั้นที่ 1 เอ หรือ 1 บี

 

3 เท่าของพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต

 

              โดยมีอัตราค่าปลูกป่าและบำรุงป่าที่กรมป่าไม้กำหนดตาม สงป. ปัจจุบันมีอัตราค่าปลูกป่าและบำรุงป่า จนครบอายุ 10 ปี เป็นเงินอัตราไร่ละ 10,960 บาท แบ่งเป็น

 

ระยะเวลา

อัตราต่อไร่ต่อปี (บาท)

รวม (บาท)

- งานปลูกป่า (อายุ 1 ปี)

3,900 (1 ปี)

3,900

- งานบำรุงป่า 5 ปี (อายุ 2 - 6 ปี)

1,020 (5 ปี)

5,100

- งานบำรุงป่า 4 ปี (อายุ 7 - 10 ปี)

490 (4 ปี)

1,960

รวม

10,960 

 

วิริยะ 720x100

 

              2.2 กำหนดหน่วยงานของรัฐ หรือโครงการบางประเภทที่ไม่ต้องจัดสรรงบประมาณค่าปลูกป่าทดแทนตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 [ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ตามข้อเสนอ ทส.] ดังนี้

                    2.2.1 โครงการเพื่อสร้างศาสนสถานและสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนา

                    2.2.2 โครงการที่มีวัตถุประสงค์เป็นไปเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

                    2.2.3 โครงการเพื่อการจัดที่ดินที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี

                    2.2.4 โครงการที่เข้าใช้พื้นที่ป่าก่อนได้รับอนุญาตตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 (เรื่อง การเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ และขอผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2523 ในกรณีที่ปรากฏว่า ยังมีส่วนราชการใดเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต) และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 (เรื่อง ขอขยายเวลาในการยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563) เนื่องจากส่วนราชการที่เข้าดำเนินการในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาตได้ดำเนินการก่อสร้างและใช้งบประมาณไปแล้วจึงไม่สามารถจัดสรรงบประมาณ/ของบประมาณเพื่อเป็นค่าปลูกป่าทดแทนได้

        3. โดยที่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 กำหนดให้ สงป. พิจารณาจัดสรร/อนุมัติงบประมาณให้กับหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการ หรือหน่วยงานของรัฐที่เป็นผู้ดำเนินการปลูกป่า ทำให้มีหน่วยงานของรัฐหรือโครงการบางประเภท ที่ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณในการปลูกป่าทดแทนให้ ทส. ได้ หรือเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว อาจทำให้การดำเนินโครงการซ้ำซ้อนกัน ดังนั้น เพื่อไม้ให้เกิดปัญหากับหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว จึงขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 9 สิงหาคม 2565

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A8357

 Click Donate Support Web  

EXIM One 720x90 C J

aia 720 x100

PTG 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!