WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ผลการเยือนญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ 27

GOV 5

ผลการเยือนญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ 27

        คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการเยือนญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2565 และมอบหมายส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามผลการเยือนญี่ปุ่นฯ ต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ

        สาระสำคัญของเรื่อง

        กต. รายงานว่า

        1. เมื่อวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2565 นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ 27 ภายใต้หัวข้อการทบทวนบทบาทของเอเชียในโลกที่แบ่งฝ่ายเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ของไทยภายใต้บริบทความท้าทายของภูมิภาคในปัจจุบัน และได้หารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (นายคิชิดะ ฟูมิโอะ) ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคดันเรน) และผู้ว่าการธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan Bank for International Cooperation: JBIC) สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

 

ประเด็น

 

สาระสำคัญ/ผลการหารือฯ

(1) การกล่าวปาฐกถาของนายกรัฐมนตรี ภายใต้หัวข้อการทบทวนบทบาทของเอเชียในโลกที่แบ่งฝ่าย

 

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 นายกรัฐมนตรีได้แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ความท้าทายและความชะงักงันในภูมิภาคและในโลกว่า ภูมิภาคเอเชียควรจะต้องยืดหยุ่นต่อการปรับตัวและสนับสนุนความยั่งยืน รวมทั้งสร้างสังคมที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในช่วงสองปีที่ผ่านมาทำให้ประเทศต่างๆ ได้เรียนรู้ว่า ความยืดหยุ่นปรับตัวต่อความชะงักงันใดๆ เป็นพื้นฐานสำคัญต่อการประคับประคองและการเจริญเติบโต ในการนี้นายกรัฐมนตรีได้เสนอประเด็นที่ไทยเชื่อว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียจะร่วมมือกันได้เพื่อก้าวข้ามความท้าทายที่เผชิญในปัจจุบัน ได้แก่ (1) การกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (2) การสนับสนุนระบบพหุภาคีต่อไป เนื่องจากไม่มีประเทศใดที่สามารถรับมือและจัดการกับความท้าทายต่างๆ ได้เพียงลำพัง และ (3) การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจจะต้องเกิดควบคู่กับความยั่งยืน ซึ่งแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model: BCG Model) ของไทยจะมีส่วนช่วยส่งเสริมแนวทางนี้ได้

(2) การพบหารือกับ

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น 

(นายคิชิดะฯ)

 

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 นายกรัฐมนตรีได้หารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (นายคิชิดะฯ) เพื่อย้ำความสำคัญของการขับเคลื่อนประเด็นต่างๆ ตามผลการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ให้มีความคืบหน้าและเกิดผลเป็นรูปธรรม สรุปได้ ดังนี้

(2.1) การยกระดับความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะตั้งเป้าหมายการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านเพื่อสะท้อนพัฒนาการของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและรอบด้านในช่วงที่ผ่านมา โดยจะประกาศเรื่องนี้ในโอกาสการหารือทวิภาคีครั้งต่อไปห้วงการเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคในเดือนพฤศจิกายน 2565

(2.2) ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ได้แก่

        (2.2.1) แผนยุทธศาสตร์ร่วมด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะให้ไทยและญี่ปุ่นประกาศใช้แผนยุทธศาสตร์ร่วมด้านเศรษฐกิจในการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในระยะ 5 ปี ในห้วงการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 6 (Thailand-Japan High Level Joint Commission: HLJC) ช่วงเดือนกันยายน 2565 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

        (2.2.2) การขยายการลงทุนจากญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย เช่น 1) ขยายการลงทุนของญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคตของไทย [เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) เคมีภัณฑ์ และเศรษฐกิจ BCG] 2) ขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยต่อความสนใจของเอกชนญี่ปุ่นที่จะลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) (เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา) และ 3) ขยายจำนวนสถาบันโคเซ็นในไทยและจัดตั้ง KOSEN Education Center 

        (2.2.3) การท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่รัฐบาลญี่ปุ่นเลือกไทยเป็น 1 ใน 4 ประเทศเป้าหมายสำหรับการทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กเดินทางเข้าญี่ปุ่น และเชิญชวนชาวญี่ปุ่นเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น

(2.3) ความร่วมมือในกรอบพหุภาคีและในประเด็นสถานการณ์ในภูมิภาค นายกรัฐมนตรีแจ้งว่า ไทยได้รับมติเห็นชอบจากอาเซียนในการเป็นที่ตั้งสำนักเลขาธิการของศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่และสำนักงานด้านการตอบสนอง และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ยืนยันการสนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปีนี้ และการเดินทางมาไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมฯ ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้แสดงความพร้อมของไทยที่จะหารือกับสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศต่างๆ เกี่ยวกับกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ในเมียนมาและสถานการณ์ในยูเครนที่ยืดเยื้อ และย้ำความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ

(3) การพบหารือกับประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคดันเรน)

 

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 นายกรัฐมนตรีได้หารือกับประธานเคดันเรน (นายโทคุระ มาซาคาสึ) และประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทย (นายซูซูกิ โยชิฮิสะ) ภายใต้เคดันเรน เกี่ยวกับกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ดังนี้

(3.1) ประธานเคดันเรนเห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับไทยมีลักษณะเกื้อกูลกัน และไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่สำคัญของญี่ปุ่นในอาเซียนโดยความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อเดือนมกราคม 2565 ได้ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันและเห็นว่าควรกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจผ่านความร่วมมือด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรม และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยญี่ปุ่นยินดีที่จะสนับสนุนไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้ญี่ปุ่นขยายการลงทุนในไทย และเห็นว่าทั้งสองประเทศควรร่วมมือกันลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มเพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต พร้อมแจ้งว่า เป้าหมายของไทยคือการพัฒนาด้านเศรษฐกิจผ่านยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง จึงสนับสนุนให้ญี่ปุ่นขยายห่วงโซ่อุปทานเพื่อเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้านของไทยตามนโยบาย Thailand+1

(3.2) ประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทยแจ้งแผนการนำสมาชิกกว่า 70 บริษัทภายใต้คณะกรรมการฯ เยือนไทยในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2565 หรือต้นปี 2566 เพื่อพบหารือกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และเยี่ยมชมภาคอุตสาหกรรม โดยประสงค์เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีด้วย

(4) การพบหารือกับผู้ว่าการ JIBC และที่ปรึกษาพิเศษ

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

 

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 นายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้ว่าการ JBIC (นายมาเอดะ ทาดาชิ) และที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (นายมุราอิ ฮิเดกิ) โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอรับความร่วมมือ JBIC ในการสนับสนุนการดำเนินการด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยง 3 สนามบิน กับ EEC เพื่อให้เป็นตัวอย่างความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จระหว่าง 3 ฝ่าย (ไทย-จีน-ญี่ปุ่น) รวมทั้งการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนของญี่ปุ่นในอาเซียน ซึ่งผู้ว่าการ JBIC แจ้งว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่ได้มาเยือนไทย ได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งมีบริษัทวิสาหกิจเริ่มต้นของญี่ปุ่นและบริษัทปิโตรนาสของมาเลเซียและเอกชนของอิตาลีเข้าร่วมด้วย โดยเห็นว่าโครงการดังกล่าวมีศักยภาพสำหรับไทยและเอกชนด้านพลังงานของไทย

(5) การศึกษาดูงาน

Haneda Innovation

(HI) City

 

นายกรัฐมนตรีได้ศึกษาดูงานด้านเมืองอัจฉริยะ HI City กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมศูนย์วิจัยและการทดลองเทคโนโลยีล้ำสมัยด้านการเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ เทคโนโลยีหุ่นยนต์อัจฉริยะ เทคโนโลยีทางการแพทย์ สถานีไฮโดรเจน และแหล่งรวมของร้านค้า โรงแรม สำนักงาน และศูนย์จัดการประชุม โดยขอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำตัวอย่างความสำเร็จจาก HI City ไปใช้พัฒนาเมืองอัจฉริยะในไทยต่อไป

 

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

 

        2. กต. พิจารณาแล้วเห็นว่า ผลการเยือนญี่ปุ่นฯ มีประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับส่วนราชการต่างๆ เช่น

 

ประเด็น

 

การดำเนินการที่สำคัญ

 

หน่วยงานที่รับผิดชอบ

(1) การยกระดับสถานะ

ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน

 

หารือกับฝ่ายญี่ปุ่นเกี่ยวกับแนวทางการประกาศการยกระดับความสัมพันธ์ เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านในห้วงการเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคในเดือนพฤศจิกายน 2565

 

กต.

(2) การจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์ร่วมด้านเศรษฐกิจในการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ระยะ 5 ปี

 

หารือกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องของไทยและฝ่ายญี่ปุ่นเพื่อรวบรวมข้อคิดเห็นในการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์ฯ ฉบับสมบูรณ์ และหารือเกี่ยวกับช่วงเวลาและแนวทางการในประกาศแผนยุทธศาสตร์ฯ ในห้วงการประชุม HLJC ในเดือนกันยายน 2565

 

กต. กระทรวงการคลัง (กค.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงคมนาคม (คค.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) กระทรวงพลังงาน (พน.) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) และสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)

(3) การส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่นในไทย

 

ดำเนินการเพื่อดึงดูดการลงทุนจากญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคตของไทย เช่น สาขา EV และเคมีภัณฑ์ สาขาเศรษฐกิจ BCG การแพทย์ ดิจิทัล และเกษตรอัจฉริยะ รวมถึงพื้นที่ EEC

 

กค. กต. อว. กษ. ดศ. พน. สธ. อก. สกท. สกพอ. และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

(4) การพัฒนา EEC

 

พิจารณาข้อเสนอแนะของญี่ปุ่นเกี่ยวกับความสนใจของเอกชนญี่ปุ่นที่จะลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานใน EEC เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ และความเหมาะสมในด้านต่างๆ

 

กค. กต. คค. และ สกพอ.

(5) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

 

หารือรายละเอียดเพื่อจัดทำข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการขยายจำนวนการจัดตั้งสถาบันโคเซ็นในไทยเพิ่มเติมและการจัดตั้ง KOSEN Education Center และเสนอฝ่ายญี่ปุ่นพิจารณา

 

กค. กต. อว. ศธ. และ อก.

(6) ความร่วมมือกับญี่ปุ่นเพื่อสร้างสังคมที่ปลอดคาร์บอน ภายใต้ข้อริเริ่ม Asia Zero-Emissions Community

 

หารือกับฝ่ายญี่ปุ่นเพื่อดำเนินการร่วมมือภายใต้แนวคิด Asia Zero-Emissions Community ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เพื่อบรรลุเป้าหมายสังคมปลอดคาร์บอน

 

กต. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พน. และ อก.

(7) การเยือนไทยของคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทย ภายใต้เคดันเรน

 

หารือกับเคดันเรนเพื่อเตรียมการสำหรับการเยือนไทยของประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทยและสมาชิกกว่า 70 บริษัทภายใต้คณะกรรมการฯ เพื่อพบหารือกับ กกร. และเยี่ยมชมภาคอุตสาหกรรมในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2565 หรือต้นปี 2566

 

กต. อว. ดศ. พน. อก. สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) สกท. สกพอ. และ กกร.

(8) การศึกษาดูงาน HI City

 

ดำเนินการศึกษา HI City และนำตัวอย่างความสำเร็จที่เหมาะสมมาปรับใช้ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศไทยต่อไป

 

กต. อว. คค. ดศ. และ พน.

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 12 กรกฎาคม 2565

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A7452

 Click Donate Support Web  

AXA 720 x100

aia 720 x100

PTG 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!