ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ 10/2565 และ ครั้งที่ 11/2565 และผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2565 ครั้งที่ 13/2565 และครั้งที่
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 21 June 2022 22:23
- Hits: 4849
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ 10/2565 และ ครั้งที่ 11/2565 และผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2565 ครั้งที่ 13/2565 และครั้งที่ 14/2565
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ในคราวประชุมครั้งที่ 10/2565 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 และครั้งที่ 11/2565 เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 และผลการพิจารณาของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 ครั้งที่ 13/2565 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 และครั้งที่ 14/2565 เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ดังนี้
1. ผลการพิจารณาของ คกง. ในคราวประชุมครั้งที่ 10/2565 และครั้งที่ 11/2565
1.1 อนุมัติให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ด้านสัตว์ป่า โดยขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ จากเดิมเดือนมีนาคม 2565 เป็นเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) สภาพอากาศ ความพร้อมของพื้นที่ และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเข้าดำเนินการในพื้นที่ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
1.2 อนุมัติให้จังหวัดกาฬสินธุ์เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนของโรงเรียนผู้สูงอายุ OTOP และการส่งเสริมการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ของสภาเด็กและเยาวชนกาฬสินธุ์ (Start Up Aged and Teens Kalasin) (โครงการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนฯ) โดยขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ จากเดิมเดือนมีนาคม 2565 เป็นเดือนมิถุนายน 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความเห็นชอบแล้ว
1.3 อนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 โดยขยายระยะเวลาสิ้นสุดการเบิกจ่าย จากเดิมสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว และมอบหมายให้ ททท. เร่งดำเนินการตรวจสอบหลักฐานให้ถูกต้อง ครบถ้วน และรัดกุมตามเงื่อนไขของโครงการเพื่อให้สามารถเบิกจ่ายโครงการได้ภายใต้กรอบระยะเวลาที่เสนอในครั้งนี้
1.4 อนุมัติให้ ททท. เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการทัวร์เที่ยวไทย โดยขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ จากเดิมเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นเดือนตุลาคม 2565 และขยายระยะเวลาสิ้นสุดการเบิกจ่าย จากเดิมเดือนมิถุนายน 2565 เป็นเดือนธันวาคม 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว และมอบหมายให้ ททท. ปฏิบัติตามข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
1.5 มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามข้อ 1.1 - 1.4 เร่งแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and Country Reform : eMENSCR) (ระบบ eMENSCR) ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการโดยเร็ว และเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ เมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จให้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนข้อ 19 และข้อ 20 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2563 (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีกู้เงินฯ พ.ศ. 2563)
1.6 รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พระราชกำหนดกู้เงินฯ พ.ศ. 2563) ราย 3 เดือน ครั้งที่ 8 (1 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2565) พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดกู้เงินฯ พ.ศ. 2563 ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ คกง. ตามขั้นตอนของข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
2. ผลการพิจารณาของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2565 ครั้งที่ 13/2565 และครั้งที่ 14/2565
2.1 อนุมัติให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา 5 (2)1 มาใช้เพื่อการตามมาตรา 5 (1)2 เพิ่มเติม (ครั้งที่ 5) จำนวน 8,700 ล้านบาท เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19
2.2 อนุมัติโครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (โครงการค่าบริการฯ) ปี 2565 รอบที่ 3 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในส่วนของค่าบริการสาธารณสุขสำหรับโรคโควิด 19 และบริการอื่นที่เกี่ยวข้องค้างจ่ายในระยะที่ผ่านมาที่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว เพื่อจ่ายค่าบริการที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2564 จนถึงเดือนมีนาคม 2565 กรอบวงเงิน 8,708.78 ล้านบาท ตามที่ สปสช. ได้ประมวลผลและปรับทบทวนยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้เป็นปัจจุบัน พร้อมจำแนกค่าบริการในลักษณะดังกล่าวข้างต้นในแต่ละรายการที่ขอรับการสนับสนุนแล้ว รวมทั้งเห็นควรมอบหมายให้ สปสช. เร่งพิจารณากำกับและตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของหน่วยบริการระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2565 ให้สอดคล้องกับการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อโรคโควิด 19 ที่เกิดขึ้นจริงให้แล้วเสร็จ (Post audit) ก่อนเสนอ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
2.3 เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พิจารณากำหนดกรอบวงเงินค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพของเดือนมิถุนายน 2565 จำนวนไม่เกิน 4,000 ล้านบาท พร้อมทั้งมอบหมายให้ สปสช. พิจารณาทบทวนอัตราค่าบริการในแต่ละรายการตามความจำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับหน่วยบริการและประชาชนโดยทั่วถึง
2.4 มอบหมายให้ สธ. สร้างความชัดเจนของการกำหนดให้โรคโควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่นโดยเร็ว เพื่อให้ สปสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเตรียมความพร้อมในการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐในภาพรวม รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่ากรณีที่มีการกำหนดให้โรคโควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่น ประชาชนยังคงได้รับการดูแลรักษาพยาบาลตามสิทธิที่ประชาชนมีอยู่ผ่านระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแต่ละระบบ
2.5 อนุมัติโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 จำนวน 919 โครงการ กรอบวงเงินรวม 2,300.122 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการกลุ่มที่ 33 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับข้อสังเกตและความเห็นของคณะอนุกรรมการเพื่อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของโครงการภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และแผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 (คณะอนุกรรมการเพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองฯ) และเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายใต้กรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ และปฏิบัติตามข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด พร้อมทั้งรวบรวมและจัดเก็บเอกสารดำเนินโครงการในขั้นตอนต่างๆ เพื่อรองรับการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้
2.6 มอบหมายให้ สปสช. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ ตามข้อ 2.2 และจังหวัด จำนวน 29 จังหวัด เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามข้อ 2.5 และดำเนินการจัดทำแผนความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ 15 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 พ.ศ. 2564 (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) โดยเคร่งครัดต่อไป
2.7 อนุมัติให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ChulaCov19 mRNA เพื่อทำการทดสอบทางคลินิกระยะที่สาม และการผลิตเพื่อขึ้นทะเบียนวัคซีนเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน (โครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ChulaCov19) ในส่วนของวัตถุประสงค์และผลผลิตของโครงการ พร้อมทั้งขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ จากเดิมเดือนกันยายน 2565 เป็นเดือนธันวาคม 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
2.8 มอบหมายให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด 19 (ChulaCov19 mRNA) ที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสที่ก่อโรคโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ให้สำเร็จตามเป้าหมาย เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 และช่วยยกระดับห่วงโซ่การผลิตวัคซีนภายในประเทศ และลดความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคอุบัติใหม่ของประเทศ
2.9 อนุมัติให้ ททท. เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ดังนี้ (1) ขยายจำนวนสิทธิเพิ่มอีก 1.5 ล้านสิทธิ (รวมเป็น 3.5 ล้านสิทธิ) โดยใช้จ่ายจากกรอบวงเงินของโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 จำนวน 9,000 ล้านบาท (2) ขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ จากเดิมเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นเดือนตุลาคม 2565 และ (3) ขยายระยะเวลาสิ้นสุดการเบิกจ่าย จากเดิมเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นเดือนธันวาคม 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว โดยมอบหมายให้ ททท. ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลโครงการให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง และเน้นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองให้มากขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ
2.10 มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามข้อ 2.7 และข้อ 2.9 เร่งแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ eMENSCR ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการโดยเร็ว พร้อมทั้งเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ และปฏิบัติตามข้อ 19 และข้อ 20 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 รวมทั้งให้ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดต่อไป
2.11 รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานและใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ราย 3 เดือน ครั้งที่ 3 (1 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2565) พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ข้อ 3.2.5.3 (2) ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
___________________________
1 เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19
2 เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19
3 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 21 มิถุนายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A6665