วันน้ำบาดาลแห่งชาติ
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 21 June 2022 21:57
- Hits: 4701
วันน้ำบาดาลแห่งชาติ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ “วันที่ 3 เมษายน ของทุกปี เป็น วันน้ำบาดาลแห่งชาติ” ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
ทส. รายงานว่า
1. ประเทศไทยมีการนำน้ำบาดาลมาใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ดังนี้
1.1 เริ่มต้นตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีการเจาะบ่อน้ำบาดาลบ่อแรกของประเทศไทย ณ โรงพยาบาลเทียนหัวย่านเยาวราช กรุงเทพมหานคร
1.2 ต่อมาในปี 2551 กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้จัดทำโครงการพัฒนาแหล่งน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ กว่า 6,900 แห่ง
1.3 ปี 2556 ได้จัดทำโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรเพื่อนำน้ำบาดาลมาให้ประชาชนทำการเกษตรแบบใช้น้ำน้อยและเลือกพืชที่มีราคาผลผลิตสูง
1.4 ปี 2562 ได้ริเริ่มโครงการพัฒนาน้ำบาดาลและส่งน้ำระยะไกล โครงการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ด้วยระบบ River Bank Filtration (RBF) นอกจากนี้ยังมีจุดบริการน้ำดื่มสะอาดฟรีเพื่อประชาชน จำนวน 577 แห่งทั่วประเทศสามารถบริการฟรีกว่า 11.5 ล้านลิตร สามารถลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้ปีละ 57 ล้านบาท
2. ในส่วนของภาคเอกชนหรือภาคธุรกิจเนื่องจากเป็นภาคส่วนที่มีรายได้เป็นของตัวเอง แต่จำเป็นต้องพึ่งพาน้ำต้นทุนที่มีความมั่นคงจากน้ำบาดาลทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้สนับสนุนข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลที่เกี่ยวกับการขออนุญาตเจาะและขออนุญาตใช้น้ำบาดาลให้กับภาคส่วนต่างๆ เพื่อกำกับดูแลการใช้ประโยชน์จากน้ำบาดาลให้เป็นไปอย่างสมดุล ยั่งยืน และยุติธรรม โดยภาคเอกชนต้องจ่ายค่าใช้น้ำและค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลให้กับภาครัฐ เพื่อนำไปใช้ในการศึกษา สำรวจ วิจัย พัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาลของประเทศให้อยู่ในสภาพที่สมดุลและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมทางน้ำบาดาลเชิงพื้นที่ให้มีปริมาณที่เหมาะสมและคุณภาพที่ดี
3. กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้จัดแบ่งพื้นที่น้ำบาดาลเพื่อการบริหารจัดการออกเป็น 27 แอ่งน้ำบาดาล ตามลักษณะสภาพอุทกธรณีวิทยาของประเทศไทย เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลเชิงพื้นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้มีการส่งเสริมให้ใช้น้ำบาดาลอย่างประหยัดและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เฝ้าระวังคุณภาพของน้ำบาดาลไม่ให้เสื่อมโทรม เสียหาย หรือเกิดมลพิษ และมีการใช้ประโยชน์อย่างสมดุล กล่าวคือไม่ใช้เกินอัตราที่มีการเติมลงไปทดแทน รวมทั้งการสร้างจิตสำนึกหรือปลูกฝังให้ประชาชนเห็นความสำคัญ รู้จักคุณค่าและประโยชน์ของน้ำบาดาล
4. เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับ “โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง” ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ทส. จำนวน 15 โครงการครอบคลุม 11 จังหวัด ไว้เป็น “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรจากภาวะวิกฤตภัยแล้ง นำมาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนสร้างประโยชน์สุขให้อาณาราษฎร ซึ่งเป็น พระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้ดั่งเป็นที่ประจักษ์
5. เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2565 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
6. เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในการเสด็จ พระราชดำเนินไปทรงเปิดงานดังกล่าวข้างต้น จึงเห็นควรให้กำหนด “วันน้ำบาดาลแห่งชาติ” ขึ้น โดยที่ประชุมกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 เห็นชอบให้วันที่ 3 เมษายน ของทุกปี เป็น วันน้ำบาดาลแห่งชาติ
7. การประกาศให้มี “วันน้ำบาดาลแห่งชาติ” เป็นการกำหนดวันในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อใช้ในการรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนได้น้อมรำลึกและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์กับการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาล และร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานในการร่วมกันดูแล รักษา ปกป้องทรัพยากรน้ำบาดาลให้เกิดความยั่งยืนตลอดไป ซึ่ง ทส. ได้พิจารณาวันที่เหมาะสมเป็นวันที่ 3 เมษายน ของทุกปี เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2565 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 21 มิถุนายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A6663