ร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน พ.ศ. 2565-2570
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 15 June 2022 17:19
- Hits: 4359
ร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน พ.ศ. 2565-2570
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน พ.ศ. 2565 - 2570 ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ กค. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเพื่อขับเคลื่อนและผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติต่อไป
ร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงินฯ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. วิสัยทัศน์ คนไทยมีความตระหนักรู้ ความรู้ และทักษะในการบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและมีวินัยทางการเงิน เพื่อสร้างความมั่นคงและความเป็นอยู่ที่ดีให้ตนเองและครอบครัว
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อเป็นกรอบนโยบายและกลไกบูรณาการการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินของประเทศไทย
2.2 เพื่อเป็นแนวทางการจัดทำโครงการและกิจกรรมที่เสริมสร้างทักษะทางการเงินของคนไทยให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด
3. องค์ประกอบของร่างแผนปฏิบัติการฯ ประกอบด้วย 8 มาตรการ 19 แผนงาน ดังนี้
เป้าหมาย |
มาตรการ/แผนงาน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
เป้าหมายที่ 1 คนไทยตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการบริหารจัดการเงินและเข้าถึงข้อมูลทางการเงิน |
มาตรการที่ 1 ยกระดับความสำคัญการพัฒนาทักษะทางการเงิน แผนงาน 1) กำหนดให้มีการรณรงค์ระดับชาติและจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการตระหนักรู้ทางการเงินให้แก่ประชาชน โดยกำหนดรูปแบบ (Theme) การรณรงค์ระดับชาติที่เปลี่ยนไปทุกปี และเน้นการรณรงค์สร้างค่านิยมพื้นฐานทางการเงินที่ดี 2) กำหนดให้การพัฒนาทักษะทางการเงินเป็นระเบียบวาระแห่งชาติ ตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าถึงการรณรงค์ต่อปี กำหนดให้การให้ความรู้ทางการเงินเป็นระเบียบวาระแห่งชาติ เป็นต้น มาตรการที่ 2 ส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้ทางการเงินที่ถูกต้องและเชื่อถือได้เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้และสนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางการเงินด้วยตนเองของประชาชน แผนงาน 1) ใช้เทคโนโลยีและสื่อดิจิทัลเพื่อเพิ่มระดับการเข้าถึงข้อมูล องค์ความรู้และข่าวสารทางการเงินที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ผ่านช่องทางออนไลน์/สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) รวมทั้งการเตือนภัยทางการเงิน 2) พัฒนาเว็บไซต์ความรู้ทางการเงินเพื่อคนไทย www.รู้เรื่องเงิน.com เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูล ความรู้ และข่าวสารด้านการเงินสำหรับประชาชน โดยเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ 3) ประชาสัมพันธ์ช่องทางติดต่อและศูนย์ให้คำปรึกษาทางการเงินของหน่วยงานต่างๆ อาทิ ศูนย์รับฟังปัญหาลูกค้า ปรึกษาปัญหาหนี้นอกระบบ ปรึกษาการลงทุนด้านการเงิน เป็นต้น ตัวชี้วัด เช่น จำนวนข้อมูลความรู้ในรูปแบบดิจิทัลที่มีการเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ของหน่วยงาน จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ www.รู้เรื่องเงิน.com หน่วยงานมีการประชาสัมพันธ์แจ้งช่องทางติดต่อและศูนย์ให้คำปรึกษาของตนในช่องทาง/วิธีการที่เหมาะสม เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
เป้าหมายที่ 2 คนไทยมีความรู้และทักษะทางการเงินเพียงพอที่จะนำไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต |
มาตรการที่ 3 กำหนดกรอบสมรรถนะทางการเงินสำหรับคนไทย แผนงาน พัฒนากรอบสมรรถนะทางการเงินสำหรับคนไทยแต่ละกลุ่มเป้าหมาย1 ตัวชี้วัด มีกรอบสมรรถนะทางการเงินสำหรับคนไทยที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
มาตรการที่ 4 ผลักดันการพัฒนาทักษะทางการเงินในหลักสูตรการเรียนในระบบการศึกษา แผนงาน 1) ผลักดันการพัฒนาทักษะทางการเงินในหลักสูตรการเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับอาชีวศึกษา การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ในรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม มุ่งให้เกิดการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง รวมทั้งมีการทบทวนปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์อยู่เสมอ 2) ยกระดับความรู้และพัฒนาครูผู้สอน โดยการดำเนินโครงการส่งเสริมความรู้ด้าน Financial Literacy แก่กลุ่มข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยการนำเสนอหลักสูตร SET e - Learning (หลักสูตรเกี่ยวกับการวางแผนการเงินและการลงทุน) เพื่อประกอบการขอมี/เลื่อนวิทยฐานะ 3) ส่งเสริมการเรียนการสอนเรื่องการเงินส่วนบุคคลในระดับอุดมศึกษา โดยกำหนดให้มีการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการเงินส่วนบุคคลแก่นักศึกษา ตัวชี้วัด เช่น มีการพัฒนาเนื้อหา/แนวทางการเรียนการสอนเรื่องการเงินในหลักสูตรการเรียน จำนวนครูที่ได้รับความรู้จากหลักสูตร SET e - Learning จำนวนมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมส่งเสริมการเรียนการสอนเรื่องการเงินส่วนบุคคลในระดับอุดมศึกษาต่อปี เป็นต้น มาตรการที่ 5 พัฒนาทักษะทางการเงินของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายตลอดช่วงชีวิต แผนงาน ดำเนินโครงการให้ความรู้และพัฒนาทักษะทางการเงิน รวมถึงการเงินดิจิทัล ภัยและกลโกงการเงิน และการป้องกันและจัดการความเสี่ยงให้ประชาชนทุกกลุ่มผ่านการฝึกอบรม การสัมมนา และกิจกรรมให้ความรู้ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมายตามสภาพปัญหาและความจำเป็นเร่งด่วน ดังนี้
ตัวชี้วัด เช่น ระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมการสัมมนาต่างๆ จำนวนผู้เข้าถึงสื่อความรู้ที่เผยแพร่ จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม และจำนวนผู้เข้าร่วมอบรมในแต่ละหลักสูตร เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||
มาตรการที่ 6 พัฒนากฎระเบียบและมาตรการเพื่อสนับสนุน แผนงาน 1) กำหนดให้องค์กรในภาคการเงินต้องจัดให้มีกิจกรรมหรือการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงิน 2) กำหนดให้บุคลากรภาครัฐบรรจุใหม่ได้รับการฝึกอบรมการเงินส่วนบุคคล 3) กำหนดให้การเข้ารับการอบรมและการผ่านแบบทดสอบความรู้เรื่องการบริหารจัดการหนี้เป็นเงื่อนไขของการได้รับอนุมัติหรือได้รับชำระวงเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาจาก กยศ. ตัวชี้วัด ได้แก่ หน่วยงานกำกับดูแลภาคการเงินมีการออกหลักเกณฑ์หรือข้อกำหนดให้องค์กรการเงินในกำกับต้องจัดให้มีกิจกรรมหรือการดำเนินการด้านการพัฒนาความรู้และทักษะทางการเงินให้แก่ประชาชน มีการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และมีการกำหนดให้บุคลากรภาครัฐบรรจุใหม่ได้รับการฝึกอบรมการเงินส่วนบุคคล |
||||||||||||||||||||||||||||||||||
เป้าหมายที่ 3 ประเทศไทยมีกลไกขับเคลื่อนการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินอย่างบูรณาการ เพื่อให้เกิดระบบนิเวศด้านการพัฒนาทักษะทางการเงินที่ยั่งยืน |
มาตรการที่ 7 จัดตั้งกลไกขับเคลื่อนการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินอย่างบูรณาการและยั่งยืน แผนงาน แต่งตั้งคณะกรรมการการพัฒนาทักษะทางการเงินเพื่อขับเคลื่อน กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินการตามร่างแผนปฏิบัติการฯ ตัวชี้วัด มีการจัดตั้งคณะกรรมการการพัฒนาทักษะทางการเงิน มาตรการที่ 8 สร้างระบบการติดตามและประเมินผล แผนงาน 1) กำหนดตัวชี้วัดระดับเป้าหมาย 2) กำหนดตัวชี้วัดของแต่ละหน่วยงานรวมทั้งการประเมินผล 3) จัดให้มีการสำรวจระดับทักษะทางการเงินทุก 2 ปี 4) ผลักดันให้มีการบูรณาการระบบข้อมูลความรู้/ทักษะทางการเงิน 5) จัดทำรายงานผลการดำเนินงานและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี ตัวชี้วัด หน่วยงานมีการกำหนดตัวชี้วัดและประเมินผลการดำเนินงาน มีการสำรวจระดับทักษะทางการเงินทุก 2 ปี มีการกำหนดแนวทางในการรวบรวมและบูรณาการข้อมูลระหว่างองค์กรต่างๆ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม เป็นต้น |
4. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
4.1 คนไทยมีระดับทักษะทางการเงินสูงขึ้นในทุกด้านและเพียงพอสำหรับการบริหารจัดการเงินอย่างเหมาะสมในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
4.2 คนไทยมีการก่อหนี้และภาระหนี้ที่ไม่จำเป็นลดลง
4.3 คนไทยมีการออมเพิ่มขึ้นและมีการออมตามแผนทางการเงินและเป้าหมายในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
4.4 คนไทยมีภูมิคุ้มกันต่อความเสี่ยง เหตุไม่คาดฝัน และแรงกดดันทางการเงิน ผ่านการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสมตามแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
4.5 คนไทยมีทักษะด้านการเงินดิจิทัล มีความรู้ความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากการเงินดิจิทัลได้ รวมทั้งสามารถป้องกันและจัดการกับความเสี่ยงหรือภัยที่เกิดจากการเงินดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม
4.6 ประเทศไทยมีกลไกขับเคลื่อน กำกับ และติดตามผลการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินของประชาชนอย่างเป็นระบบ
5. ตัวชี้วัดระดับความสำเร็จของร่างปฏิบัติการฯ ประกอบด้วย
5.1 ผลสำรวจทักษะทางการเงินของคนไทยที่จัดทำโดย ธปท. สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD
5.2 ผลสำรวจทักษะทางการเงินของคนไทยที่จัดทำโดย ธปท. เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อสิ้นสุดร่างแผนปฏิบัติการฯ
ทั้งนี้ ร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน พ.ศ. 2565-2570 เป็นกรอบนโยบายระดับปานกลาง 6 ปี ที่มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 - 13 ที่มุ่งพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยการพัฒนาทักษะ ความรู้ รวมถึงค่านิยมทางการเงิน เพื่อให้ประชาชนสามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย รวมทั้งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ได้กำหนดเป้าหมายปี 2565 เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน”
________________________________
1 กลุ่มเป้าหมายของร่างแผนปฏิบัติการฯ ประกอบด้วย (1) กลุ่มเด็กและเยาวชน (2) กลุ่มอุดมศึกษา (3) กลุ่มผู้มีงานทำ (4) กลุ่มภาครัฐ (5) กลุ่มประชาชนฐานราก (6) กลุ่มผู้สูงวัย/ผู้เกษียณอายุ (7) กลุ่มประชาชนทั่วไป (8) กลุ่มผู้ถ่ายทอดความรู้และทักษะทางการเงิน และ (9) กลุ่มผู้มีความเปราะบางทางการเงินสูง
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 14 มิถุนายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A6404