สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 11 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564-28 กุมภาพันธ์ 2565)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 11 May 2022 12:33
- Hits: 5819
สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 11 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564-28 กุมภาพันธ์ 2565)
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (กตน.) เสนอ สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 11 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564-28 กุมภาพันธ์ 2565) สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. นโยบายหลัก 9 ด้าน
นโยบายหลัก |
มาตรการ/การดำเนินการที่สำคัญ |
||||||||||||||||||||||
1) การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ |
1.1) กิจกรรมผู้นำต้นแบบตัวอย่างที่เห็นจริง/ผู้นำต้องทำก่อน ได้น้อมนำ แนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการแล้ว 76 จังหวัด มีผู้นำที่เข้าร่วม 110,201 คน 1.2) พิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ประชาสัมพันธ์ทางเพจเฟซบุ๊ก “พิราบลายพราง” เกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันฯ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มียอดถูกใจเพจ 11,361 คน และมียอดกดติดตามเพจ 12,104 คน |
||||||||||||||||||||||
2) การสร้างความมั่นคงความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ |
2.1) ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สามารถจับกุมผู้ลักลอบ เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านชายแดนทางบก 366 ครั้ง และผู้ต้องหา 5,508 คน 2.2) โครงการเฝ้าระวังเว็บไซต์ผิดกฎหมาย มีคำสั่งศาลให้ระงับการแพร่หลาย ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ผิดกฎหมาย 18 คำสั่งศาล รวม 341 URLs |
||||||||||||||||||||||
3) การทำนุบำรุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม |
3.1) เปิดพิพิธภัณฑ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เพื่อเป็นสถานที่รำลึกถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 และเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างงาน และสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ 3.2) จัดงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย CCPOT GRAND EXPOSITION ระหว่างวันที่ 16-20 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์การค้าพารากอน และผ่านระบบออนไลน์ มีผู้เข้าเยี่ยมชมจาก 20 ประเทศ มีผู้ซื้อรายใหญ่เข้าร่วมเจรจา 70 ราย และสามารถจับคู่เจรจาธุรกิจ ได้ถึง 265 คู่ มียอดสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้ามูลค่ากว่า 2 ล้านบาท 3.3) จัดกิจกรรมทางพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา พ.ศ. 2565 โดยมีกิจกรรมทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา ในรูปแบบปกติ ณ สถานที่ที่กำหนด และจัดกิจกรรมผ่านระบบออนไลน์ |
||||||||||||||||||||||
4) การสร้างบทบาทของไทย ในเวทีโลก |
4.1) สานต่อความร่วมมือรอบด้านการค้า การลงทุน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เทคโนโลยีการเกษตร อาหาร และเทคโนโลยีชีวภาพ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 นายแร็มโก โยฮันเนิส ฟัน ไวน์คาร์เดินเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้ารับหน้าที่และหารือเกี่ยวกับความร่วมมือ เช่น การฟื้นการเจรจา FTA ไทย-EU 4.2) มุ่งสร้างความเป็นหุ้นส่วนไทย-สหภาพยุโรปทุกมิติ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 นายเดวิด เดลี เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่และหารือในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ เช่น ด้านยุทธศาสตร์เพื่อความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของสหภาพยุโรป
|
||||||||||||||||||||||
5) การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย |
|
||||||||||||||||||||||
6) การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งของฐานราก |
6.1) โครงการพัฒนาเยาวชนชนเผ่าเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเป้าหมายชีวิตใหม่ให้แก่ชาวเขา 9 ชนเผ่า เช่น กะเหรี่ยง ม้งและลาหู่ รวมทั้งราษฎรที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานและประกอบอาชีพอยู่ในพื้นที่สูงไม่ต่ำกว่า 3 ปี โดยการฝึกอบรมให้ความรู้ เช่น ด้านออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อยกระดับสินค้า และฝึกอบรมด้านอาชีพให้กับกลุ่มล่ามภาษามือ 6.2) ดำเนินโครงการ “SMART LOCAL by DBD” พาณิชย์ ช่วยเหลือผู้ประกอบการสินค้าชุมชน เพื่อยกระดับศักยภาพสินค้าชุมชนในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยมีกิจกรรม เช่น SMART LOCAL SHOP ภายใต้แคมเปญ “ช้อปฟิน ของเด่นพื้นที่ ของดีพื้นถิ่น” และ SMART LOCAL BCG เปลี่ยนให้เกิดการรักชุมชน รักษ์โลก ภายใต้แนวคิด BCG-Economy Model คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 50 ล้านบาท |
||||||||||||||||||||||
7) การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย |
7.1) โครงการ “SAFE สถานศึกษาปลอดภัย” กระทรวงศึกษาธิการได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ 8 กระทรวง 2 หน่วยงาน เพื่อจัดการปัญหาความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับนักเรียนและเยาวชน เช่น ภัยจากการใช้ความรุนแรง อุบัติเหตุ โดยจัดตั้งศูนย์ MOE Safety Center เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถติดตามแก้ไขได้ถึงต้นตอของปัญหาเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบสามารถแจ้งเหตุได้ 7.2) จัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา จัดทำข้อเสนอแนวทางการจัดการศึกษาฯ ซึ่งเป็นแนคิดที่เกิดจากความตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนการศึกษาระดับอุดมศึกษาของไทยให้ทันกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยออกข้อกำหนด เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดการศึกษาฯ พ.ศ. 2564 เพื่อเป็นหลักเกณฑ์และแนวทางสำหรับสถาบันอุดมศึกษาในการเสนอขอจัดการศึกษาฯ |
||||||||||||||||||||||
8) การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม |
โครงการนำร่องโรงพยาบาลอัจริยะ เพื่อวางรากฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระบบ 5G โดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สนับสนุนงบประมาณดำเนินการในปีแรกของโครงการ “ศิริราชต้นแบบโรงพยาบาลอัจฉริยะระดับโลกด้วยเทคโนโลยีเครือข่าย 5G” เช่น พัฒนาเชื่อมต่อระบบทำนายปริมาณ การใช้เพื่อการบริหารการจัดการสินค้าคงคลัง ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ |
||||||||||||||||||||||
9) การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน |
9.1) แก้ไขปัญหาน้ำมันรั่วไหลจากการกู้ท่อน้ำมัน จังหวัดระยอง โดยหาสาเหตุป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำมันรั่วไหล พร้อมทั้งกำชับให้กรมควบคุมมลพิษพิจารณาการใช้สารช่วยกระจายตัว (Dispersant) อย่างละเอียดรอบคอบ รวมทั้งให้จังหวัดทำความเข้าใจและดูแลประชาชนให้ได้รับความพอใจในการเยียวยา ตลอดจนเร่งดำเนินคดีจากความเสียหายต่อประชาชน 9.2) การดำเนินงานการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน พ.ศ. 2564 โดยเปรียบเทียบจุดความร้อน (Hotspot) ระบบชุดเครื่องวัดรังสีอินฟราเรดที่มองเห็นได้ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ ระหว่างปี 2563 และปี 2564 โดยในภาพรวมทั่วประเทศมี Hotspot ที่ลดลงจาก 85,714 เหลือ 33,230 |
2. นโยบายเร่งด่วน 9 เรื่อง
นโยบายเร่งด่วน |
มาตรการ/การดำเนินการที่สำคัญ |
|
1) การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน |
1.1) ลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลง 3 บาทต่อลิตร มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์-20 พฤษภาคม 2565 1.2) โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนและเป็นค่าลงทุน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปีแรก โดยตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยตามเกณฑ์ปกติของธนาคาร ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 อนุมัติสินเชื่อแล้ว 3,508 ราย เป็นเงิน 15,888 ล้านบาท 1.3) การบริหารจัดการที่ดินในรูปแบบสวัสดิการสังคม (สมาชิกนิคม) เพื่อช่วยเหลือราษฎรยากจนที่ขาดแคลนที่ดินทำกินและออกหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (นค.3) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีสมาชิกได้รับบริการ 309 คน |
|
2) การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน |
2.1) โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยโอนเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564-28 กุมภาพันธ์ จำนวน 20,343.85 ล้านบาท และจ่ายเงินสวัสดิการสังคมและเงินอื่นผ่านระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม 55,398.85 ล้านบาท 2.2) โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ด้วยการสนับสนุนให้กับครอบครัวที่มีรายได้น้อย เดือนละ 600 บาท ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี มีผู้ได้รับเงิน 2.34 ล้านคน |
|
3) การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม |
3.1) โครงการบริหารจัดการการผลิตสินค้าเกษตรตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) เช่น พัฒนาที่ดินเพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสมตาม Agri Map เป็นการผลิตสินค้าเกษตรชนิดใหม่ที่เหมาะสมกับพื้นที่ 8,223 ไร่ และส่งเสริมเกษตรเชิงรุก ด้านการประมง 441 ราย 3.2) ดำเนินโครงการสร้างหลักประกันทางรายได้ให้แก่เกษตรกรผ่านการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง (ระยะที่ 3) มีผู้ได้รับประโยชน์ ได้แก่ เจ้าของสวนยาง 1.23 ล้านราย และคนกรีดยาง 142,059 คน 3.3) โครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM2.5 ฤดูการผลิตปี 2564/2565 โดยจัดทำโครงการจัดซื้อเครื่องสางใบอ้อย 288 เครื่อง และสมาคมชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ 37 แห่ง และโรงงานน้ำตาล 21 แห่ง ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาการรับอ้อยสดคุณภาพดีและการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ 3.4) ดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี 3.59 ล้านราย และโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 96,626 ราย ในปีการผลิต 2564 |
|
4) การยกระดับศักยภาพของแรงงาน |
4.1) ขับเคลื่อนโครงการ Factory Sandbox ด้วยหลักการ “เศรษฐกิจศาสตร์คู่กับสาธารณสุข” สามารถดำเนินการตรวจและรับการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ใน 12 จังหวัด ให้แก่สถานประกอบการ 730 แห่ง ลูกจ้าง 349,016 คน และฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ลูกจ้าง 112,746 คน สามารถรักษาระดับการจ้างงานในภาคการผลิตและส่งออกสำคัญ 3 ล้านตำแหน่ง 4.2) โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสำหรับช่วยเหลือผู้รับงานไปทำงานที่บ้าน โดยอนุมัติวงเงินกู้ยืม 5 ล้านบาท ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0 ต่อปี (จากเดิมร้อยละ 3) ในงวดที่ 1-12 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลาชำระคืน 2 ปี |
|
5) การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต |
ดำเนินโครงการจัดให้มีโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อการประกอบกิจการและบริการโทรคมนาคมที่ครอบคลุมพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ (Eastern Economic Corridor: EEC) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่โดยจัดโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อให้บริการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่านความถี่ 2600 MHz ของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ครอบคลุมพื้นที่ในเขต EEC ร้อยละ 95.70 และบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด มีความครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ EEC ร้อยละ 94.46 ของพื้นที่ |
|
6) การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษ ที่ 21 |
6.1) โครงการส่งเสริมเด็กทุนไทยสร้างชาติด้วยเทคโนโลยีบิ๊กดาต้า (Big Data) โดยประกาศรับสมัครนิติบุคคลเพื่อขอรับการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนการพัฒนาศักยภาพกำลังคน และบุคลากรด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ด้าน Data Science และ Data Engineering และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการยกระดับทักษะบุคลากรด้าน Big Data 6.2) โครงการรัฐร่วมเอกชนสร้างทักษะดิจิทัลใหม่ เรียนจบ ไม่ตกงานยกระดับทักษะกำลังคนดิจิทัลที่ศึกษาในสาขาไอที ให้มีความรู้ความสามารถตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานและรองรับอุตสาหกรรมของประเทศและเพิ่มเติมทักษะใหม่แก่กำลังคนดิจิทัลในสาขาที่ไม่ใช่ไอทีให้สามารถทำงานในสายดิจิทัลที่ขาดแคลนได้ |
|
7) การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ |
7.1) โครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการประมง โดยอบรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด สัตว์น้ำชายฝั่งและการทำประมงพื้นบ้าน 1,190 ราย และปล่อยสัตว์น้ำสู่ทะเล 800,000 ตัว 7.2) โครงการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยให้ความช่วยเหลือ 5,218 ราย 57.56 ล้านบาท 7.3) สกัดกั้นและปราบปรามการลักลอบค้ายาเสพติด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีการจับกุมผู้กระทำผิดพระราชบัญญัติยาเสพติด 100 ครั้ง ผู้ต้องหา 108 คน ยึดได้ของกลางยาบ้า 17.06 ล้านเม็ด และกัญชาแห้ง 1,864.236กิโลกรัม |
|
8) การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน |
8.1) การอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจแก่บุคลากรทักษะสูง/ผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน ผู้บริหาร และผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้นที่ประสงค์จะเข้ามาทำงานหรือลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศผ่าน SMART Visa มีผู้ผ่านการรับรองคุณสมบัติทั้งสิ้น 46 คำขอ 8.2) โครงการพัฒนาบริการโครงสร้างพื้นฐานและความมั่นคงปลอดภัยด้านดิจิทัล เช่น ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการสร้างเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในระบบ e-Timestamp จำนวน 16.69 ล้านฉบับ e-Tax invoice by Email จำนวน 453,036 ฉบับ และ Web Validation จำนวน 43,592 ฉบับ |
|
9) การจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัย |
9.1) การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย เช่น (1)โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยก่อสร้างคลองระบายน้ำสาย 3 พร้อมอาคารประกอบ และ (2) โครงการคลองระบายน้ำหลาก บางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยขุดคลองระบายน้ำหลาก พร้อมอาคารประกอบ 9.2) การเตรียมความพร้อมด้านภัยแล้งและอุทกภัย ในห้วงวันที่ 1-28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยดำเนินการด้านภัยแล้ง เช่น ใช้กลไกของคณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการของจังหวัดกำหนดแนวทางการใช้น้ำในลักษณะต่างๆ เพื่อการอุปโภคบริโภค การรักษาระบบนิเวศ การเกษตร และอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ และด้านอุทกภัย เช่น ในช่วงระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2565 มีสถานการณ์อุทกภัย 1 ห้วง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 20,730 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย |
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 10 พฤษภาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A5279