WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ผลการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

GOV3 copy copy

ผลการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

          คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการเยือนฯ ต่อไปตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ

          สาระสำคัญของเรื่อง

          กต. รายงานว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย (ดาโตะ ชรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ) ได้เยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย เมื่อวันที่ 24 - 26 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นผู้นำรัฐบาลต่างประเทศคนแรกที่เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) การเยือนครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระดับผู้นำของไทยกับมาเลเซีย ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และผลักดันความร่วมมือทวิภาคีที่สำคัญ โดยนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้หารือในรูปแบบกลุ่มเล็ก แบบเต็มคณะ และระหว่างงานเลี้ยงมื้อค่ำ สรุปได้ ดังนี้

          1. ผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย สรุปได้ ดังนี้

 

ประเด็น

 

ผลการหารือ

1. ภาพรวมความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย

 

แสดงจตนาที่จะกระชับความร่วมมือทวิภาคีในทุกมิติ โดยเฉพาะความความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูประเทศจากผลกระทบของโรคโควิด-19 การเปิดประเทศ ความร่วมมือด้านความมั่นคงและการพัฒนาพื้นที่ชายแดน และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของอาเซียน รวมถึงใช้กลไกทวิภาคี เช่น คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (Joint Commission for Bilateral Cooperation: JC) และคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน (Joint Development Strategy for Border Areas: JDS) เพื่อปูทางไปสู่การประชุมประจำปีระดับนายกรัฐนตรี (Annual Consultation: AC)

2. ความร่วมมือในการเปิด

ประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19

 

เปิดพรมแดนทางอากาศ ทางบก และทางน้ำระหว่างกันภายใต้มาตรการ Vaccinated Travel Lane (VTL) ของมาเลเซีย และมาตรการ Test and Go ของไทย

3. ความร่วมมือด้านสาธารณสุข

 

รับรองเอกสารการฉีดวัคซีนแบบดิจิทัลร่วมกันโดยฝ่ายมาเลเซียประสงค์ให้เชื่อมโยงแฮปพลิเคชันหมอพร้อมของไทยกับแอปพลิเคชัน MySejahtera ของมาเลเซีย ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทางระหว่างทั้งสองประเทศ และเสนอให้ร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโรคโควิด-19 รวมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะสำหรับเด็ก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแสดงความชื่นชมมาตรการของไทยในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง

4. ความเชื่อมโยงพื้นที่ชายแดน

 

ย้ำหลักการเปิดการเดินทางระหว่างกัน รวมทั้งการขับเคลื่อนโครงการความเชื่อมโยงชายแดน เช่น การสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่-บูกิตกายูฮิตัม และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก 2 แห่ง ให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว รวมถึงการสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพมหานคร-กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเชื่อมต่อกับเส้นทางกรุงกัวลาลัมเปอร์-สาธารณรัฐสิงคโปร์

5. ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ

 

การส่งเสริมการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจบริเวณชายแดนเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยเน้นการขับเคลื่อนการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ตามเป้าหมาย 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568

6. ความร่วมมือด้านแรงงาน

 

การอำนวยความสะดวกให้แรงงานไทยในมาเลเซียเดินทางกลับไทยในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19

7. สถานการณ์ในจังหวัด

ขายแดนภาคใต้

 

การหารือเกี่ยวกับการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยืนยันเจตนารมณ์ที่จะทำหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยดังกล่าวและนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม และการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศ

8. ความร่วมมือด้านความมั่นคง

 

นายกรัฐมนตรีเสนอให้กระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงชายแดน โดยเฉพาะการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ การป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย และความร่วมมือในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน รวมถึงความมั่นคงทางไซเบอร์

9. สถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ

 

ทั้งสองฝ่ายเห็นถึงความสำคัญของบทบาทของอาเซียนในการจัดการกับประเด็นในภูมิภาค และสนับสนุนการทำงานของอาเซียน รวมทั้งการปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อ* ของผู้นำอาเซียนเกี่ยวกับสถานการณ์ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นอกจากนี้ ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศยูเครน โดยแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียกับประเทศยูเครน และการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลและอพยพคนชาติออกจากประเทศยูเครน

 

          ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้แถลงข่าวร่วมกันที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาของร่างแถลงข่าวร่วมฯ ในสาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 

________________________

*ฉันทามติ 5 ข้อ ได้แก่ (1) ทุกฝ่ายหยุดความรุนแรง (2) ทุกฝ่ายเจรจาอย่างสันติ (3) ให้มีทูตพิเศษเพื่อให้เกิดกระบวนการเจรจา (4) อาเซียนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และ (5) ทูตพิเศษเข้าไปเมียนมาเพื่อพูดคุยกับทุกฝ่าย

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 3 พฤษภาคม 2565

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A5061

 Click Donate Support Web 

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100GC 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!