ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ. ….
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 26 April 2022 23:10
- Hits: 10290
ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ. ….
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ ดศ. เสนอว่า โดยที่กฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่นตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พุทธศักราช 2477 พ.ศ. 2547 และกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรสำหรับไปรษณียภัณฑ์ภายในประเทศที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด พ.ศ. 2549 มีผลใช้บังคับมาเป็นระยะเวลานานแล้ว บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ไม่ได้ขอปรับอัตราราคาค่าบริการไปรษณีย์พื้นฐานในประเทศ ในขณะที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ และจากผลการศึกษาโครงการปรับปรุงอัตราค่าบริการไปรษณียากรของจดหมายและไปรษณียบัตรในประเทศของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เมื่ออิงกับดัชนีราคาผู้บริโภค และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ณ ปัจจุบันปรับสูงขึ้นร้อยละ 38.46 จากปี 2547 พบว่าในปี 2562 อัตราค่าบริการจดหมายในประเทศที่ควรจะเป็นคือ 4.13 บาทต่อฉบับ ในขณะที่ ปณท ได้พยายามบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ในกรอบอัตราเงินเฟ้อมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถบริการไปรษณีย์พื้นฐานในประเทศโดยทั่วถึงแก่ประชาชนในอัตราเริ่มต้นที่ 3 บาท มีผลให้ ปณท มีภาระเชิงสังคมต้นทุนของบริการพื้นฐานในประเทศเพิ่มสูงขึ้น จากข้อมูลปี 2554 – 2563 เป็นจำนวนสูงถึง 18,380 ล้านบาท (เฉลี่ยปีละ 1,838 ล้านบาทและมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในปี 2563 มีภาระการให้บริการเชิงสังคม 3,072 ล้านบาท) ประกอบกับ ปณท ต้องปรับมาตรฐานการฝากส่งให้เป็นไปตามสหภาพสากลไปรษณีย์ (The Universal Postal Union : UPU) จากมาตรฐานการฝากส่งรูปแบบเดียว เป็นมาตรฐานการฝากส่ง 2 รูปแบบ คือ ประเภทหีบห่อ (กล่อง) และประเภทซอง
ดศ. พิจารณาแล้วเห็นว่า ปณท ได้ใช้อัตราค่าบริการไปรษณีย์พื้นฐานเดิมมาเป็นเวลานาน กิจการไปรษณีย์ในปัจจุบันมีแนวโน้มประสบปัญหาขาดทุน เห็นควรปรับอัตราไปรษณียากรสำหรับบริการไปรษณียภัณฑ์ในประเทศใหม่ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ดศ. จึงได้ยกร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ. …. ขึ้น ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ได้มีมติเห็นชอบด้วยแล้ว
การปรับอัตราไปรษณียากร จะทำให้กิจการไปรษณีย์ของ ปณท มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอสำหรับการให้บริการพื้นฐานแก่ประชาชนทั่วไปได้ เพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาบริการได้บรรลุเป้าหมาย รวมทั้งเป็นการลดต้นทุนในการดำเนินกิจการของผู้ใช้บริการและเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้บริการไปรษณีย์ อันช่วยยกระดับมาตรฐานให้อยู่ระดับสากลตามมาตรฐานของ UPU อีกทั้งในระยะยาวภาครัฐสามารถนำเงินมาพัฒนาบริการการส่งไปรษณียภัณฑ์รูปแบบดั้งเดิมเป็นดิจิทัลด้วยการเป็นผู้ให้บริการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร (Total Document Handling : TDH) เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการด้วยการพัฒนาระบบงานเพื่อให้บริการ Data Address Cleansing Tool (DAC) บริการไปรษณีย์ตอบรับในประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Acknowledgement of Receipt : eAR) รวมทั้งพัฒนาระบบบริหารจัดการฐานข้อมูล เพื่อให้ ปณท สามารถเป็น THP Digital Centre รองรับความต้องการใช้งานข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ปณท ยืนยันว่า การปรับอัตราไปรษณียากรในระยะ 3 ปีแรก จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคประชาชนแต่ประการใด เนื่องจากเป็นการปรับอัตราไปรษณียากรเฉพาะบริการประเภทจดหมายซึ่งภาคประชาชนส่วนใหญ่มาใช้บริการฝากส่งอยู่ในช่วงพิกัดน้ำหนัก 0 – 10 กรัม ซึ่งมีอัตราไปรษณียากร 3 บาท (เท่าเดิม) และแม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจสำหรับกลุ่มการเงิน กลุ่ม e-Commerce และกลุ่มขนส่งและสื่อสารก็ตาม แต่เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีนัยสำคัญจนอาจเกิดการผลักภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปยังผู้ใช้บริการแต่อย่างใด
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
ให้ยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่นตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พุทธศักราช 2477 พ.ศ. 2547 และกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรสำหรับไปรษณียภัณฑ์ภายในประเทศที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด พ.ศ. 2549 และปรับปรุงใหม่เป็น “ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ. ….” โดยปรับอัตราไปรษณียากรสำหรับบริการไปรษณียภัณฑ์ในประเทศใหม่ ดังนี้
1. จดหมาย จำแนกออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) จดหมาย ประเภทซอง และ 2) จดหมาย ประเภทหีบห่อ (กำหนดเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับ UPU) โดยมีอัตราค่าบริการให้แยกประเภทซอง/หีบห่อ เป็น 2 ระยะ
1.1 ระยะแรก (พ.ศ. 2565 – 2567)
(1) จดหมาย ประเภทซอง ยังคงอัตราค่าบริการพิกัดน้ำหนักแรกไว้ที่ 3 บาท สำหรับพิกัดน้ำหนักไม่เกิน 10 กรัม
(2) จดหมาย ประเภทหีบห่อ มีอัตราค่าบริการในพิกัดน้ำหนักแรก 30 บาท สำหรับพิกัดน้ำหนักไม่เกิน 500 กรัม และมีอัตราค่าบริการสูงสุด 55 บาท สำหรับพิกัดน้ำหนักเกิน 1,000 กรัม แต่ไม่เกิน 2,000 กรัม
1.2 ระยะที่สอง ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป
(1) จดหมายประเภทซอง จะปรับอัตโนมัติโดยมีอัตราค่าบริการในพิกัดน้ำหนักแรก 4 บาท สำหรับพิกัดน้ำหนักไม่เกิน 10 กรัม และมีอัตราค่าบริการสูงสุด 62 บาท สำหรับพิกัดน้ำหนักเกิน 1,000 กรัม แต่ไม่เกิน 2,000 กรัม
(2) จดหมายประเภทหีบห่อ จะปรับอัตโนมัติโดยมีอัตราค่าบริการในพิกัดน้ำหนักแรก 34 บาท สำหรับพิกัดน้ำหนักไม่เกิน 500 กรัม และมีอัตราค่าบริการสูงสุด 62 บาท สำหรับพิกัดน้ำหนักเกิน 1,000 กรัม แต่ไม่เกิน 2,000 กรัม
2. ไปรษณียบัตร ของตีพิมพ์ และพัสดุไปรษณีย์ ไม่เปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการในระยะแรก (พ.ศ. 2565 – 2567) เป็นระยะเวลา 3 ปี และระยะที่สองจะปรับอัตโนมัติตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป
3. กำหนดอัตราไปรษณียากรพิเศษสำหรับไปรษณียภัณฑ์ภายในประเทศที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยมีส่วนลดสูงสุดไม่เกินร้อยละ 44 จากอัตราที่ขอปรับขึ้นใหม่ โดยกำหนดเงื่อนไขในการใช้บริการ เช่น ฝากส่งเป็นประจำต่อเนื่อง ฝากส่งต่อเดือนตั้งแต่ 500,000 ฉบับต่อเดือนขึ้นไป มีการคัดแยกเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งต่อในระบบงานไปรษณีย์ ฝากส่งและนำจ่ายในเขตพื้นที่เดียวกัน เป็นต้น
รายละเอียดดังนี้
ปรับอัตราไปรษณียากรสำหรับบริการไปรษณียภัณฑ์ในประเทศใหม่ ดังนี้
1) อัตราไปรษณียากรสำหรับจดหมาย ประเภทซอง จดหมาย ประเภทหีบห่อ ไปรษณียบัตร ของตีพิมพ์ เครื่องอ่านสำหรับคนเสียจักษุ และพัสดุไปรษณีย์
ประเภท |
พิกัดน้ำหนัก |
อัตราปัจจุบัน (กฎกระทรวงฯ ปี 47) (บาท/ฉบับ) |
อัตราที่ปรับใหม่ |
|||
พ.ศ. 2565 – 2567 อัตรา (บาท/ฉบับ) |
อัตราร้อยละ (%) |
พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป อัตรา (บาท/ฉบับ) |
อัตราร้อยละ (%) |
|||
จดหมายประเภทซอง |
ไม่เกิน 10 กรัม |
ไม่เกิน 20 กรัม มีอัตรา 3 บาท |
3 |
- |
4 |
33.33 |
เกิน 10 กรัม แต่ไม่เกิน 20 กรัม |
ไม่เกิน 20 กรัม มีอัตรา 3 บาท |
5 | 67.00 | 6 | 20.00 | |
เกิน 20 กรัม แต่ไม่เกิน 100 กรัม |
5 | 10 | 100 | 11 | 10.00 | |
เกิน 100 กรัม แต่ไม่เกิน 250 กรัม |
9 | 15 | 67.00 | 17 | 13.33 | |
เกิน 250 กรัม แต่ไม่เกิน 500 กรัม |
15 | 20 | 33.00 | 23 | 15.00 | |
เกิน 500 กรัม แต่ไม่เกิน 1,000 กรัม |
25 | 35 | 40.00 | 40 | 14.29 | |
เกิน 1,000 กรัม แต่ไม่เกิน 2,000 กรัม |
45 | 55 | 22.00 | 62 | 12.73 | |
จดหมาย ประเภทหีบห่อ |
ไม่เกิน 500 กรัม |
- |
30 |
34 |
13.33 |
|
เกิน 500 กรัม แต่ไม่เกิน 1,000 กรัม |
40 | 45 | 12.50 | |||
เกิน 1,000 กรัม แต่ไม่เกิน 2,000 กรัม |
55 | 62 | 12.73 | |||
ไปรษณียบัตร |
- |
2 |
คงเดิม |
3 |
||
ของตีพิมพ์ |
ไม่เกิน 50 กรัม |
3 |
คงเดิม |
4 |
33.33 |
|
เกิน 50 กรัม แต่ไม่เกิน 100 กรัม |
4 | คงเดิม | 5 | 25.00 | ||
เกิน 100 กรัม แต่ไม่เกิน 250 กรัม |
6 | คงเดิม | 8 | 33.33 | ||
เกิน 250 กรัม แต่ไม่เกิน 500 กรัม |
8 | คงเดิม | 11 | 37.50 | ||
เกิน 500 กรัม แต่ไม่เกิน 1,000 กรัม |
13 | คงเดิม | 17 | 30.77 | ||
เกิน 1,000 กรัม แต่ไม่เกิน 2,000 กรัม |
25 | คงเดิม | 33 | 32.00 | ||
ส่วนที่เกิน 2,000 กรัม คิด 1,000 กรัมละ (เศษของ 1,000 กรัม ให้นับเป็น 1,000 กรัม) | 12 | คงเดิม | 16 | 33.33 | ||
เครื่องอ่านสำหรับคนเสียจักษุ |
ไม่เกิน 7,000 กรัม |
ไม่ต้องชำระ |
ไม่ต้องชำระ |
ไม่ต้องชำระ |
||
พัสดุไปรษณีย์ |
ไม่เกิน 1,000 กรัม ส่วนที่เกิน 1,000 กรัม คิด 1,000 กรัมละ (เศษของ 1,000 กรัม ให้นับ 1,000 กรัม) |
20 15 |
คงเดิม |
25 20 |
25.00 33.33 |
2) อัตราไปรษณียากรต่ำกว่าอัตราไปรษณียากรทั่วไป สำหรับ (1) ลูกค้าฝากส่งอย่างเป็นประจำต่อเนื่อง (2) เป็นจดหมาย ประเภทซอง ที่มีปริมาณงานฝากส่งต่อเดือนตั้งแต่ 500,000 ฉบับขึ้นไป (3) มีการดำเนินการคัดแยกตามรหัสไปรษณีย์ หรือดำเนินการอื่นใดเพื่ออำนวยความสะดวก ในการคัดแยกและส่งต่อในระบบงานไปรษณีย์ (4) ฝากส่ง ณ ศูนย์รับฝากไปรษณีย์จำนวนมาก หรือที่ทำการไปรษณีย์รับจ่ายเท่านั้น (5) ฝากส่งและนำจ่ายในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือฝากส่งและนำจ่ายในพื้นที่จังหวัดเดียวกันสำหรับภูมิภาค และ (6) ฝากส่งภายในเวลา 15.00 น. ของวันจันทร์ - ศุกร์ หรือภายใน 10.00 น. ของวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการประจำปี
ประเภท |
พิกัดน้ำหนัก |
อัตราปัจจุบัน (กฎกระทรวงฯ ปี 49) |
อัตราส่วนลดจากอัตราไปรษณียากร ทั่วไป (ปรับใหม่) |
|
พ.ศ. 2565 – 2567 ไม่เกิน (บาท/ฉบับ) |
พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป ไม่เกิน (บาท/ฉบับ) |
|||
จดหมาย ประเภทซอง |
ไม่เกิน 20 กรัม |
จดหมายและของตีพิมพ์ที่ได้รับส่วนลดสำหรับผู้ใช้บริการที่มีปริมาณการฝากส่งจดหมายหรือของตีพิมพ์อื่น จำนวน 1,000,000 ฉบับขึ้นไป เงื่อนไขการชำระเงินสด/เงินเชื่อ โดยมีอัตราต่อฉบับขึ้นอยู่กับจำนวนฉบับกับพิกัดน้ำหนักต่อฉบับ |
2.20 |
2.50 |
เกิน 20 กรัม แต่ไม่เกิน 100 กรัม |
1.50 | 2.25 | ||
เกิน 100 กรัม แต่ไม่เกิน 250 กรัม |
1.50 | 3.75 | ||
เกิน 250 กรัม แต่ไม่เกิน 500 กรัม |
1.50 | 4.25 | ||
เกิน 500 กรัม แต่ไม่เกิน 1,000 กรัม |
5.00 | 9.75 | ||
เกิน 1,000 กรัม แต่ไม่เกิน 2,000 กรัม |
20.00 | 26.75 |
3) อัตราค่าธรรมเนียมสำหรับบริการการเงินในประเทศให้กำหนด ดังนี้
ประเภท |
วงเงิน |
อัตราปัจจุบัน (กฎกระทรวงฯ ปี 47) (บาท) |
อัตราตามร่างฯ ที่เสนอ |
|
พ.ศ. 2565 – 2567 อัตรา (บาท) |
พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป อัตรา (บาท) |
|||
ธนาณัติ ในประเทศ |
1,000 บาทแรก ส่วนที่เกิน 1,000 บาท คิด 1,000 บาทละ (เศษของ 1,000 บาท ให้นับเป็น 1,000 บาท) |
10 2 |
คงเดิม คงเดิม |
คงเดิม คงเดิม |
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 26 เมษายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A4846