ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 19 April 2022 21:19
- Hits: 7599
ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เสนอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 (นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ) ซึ่ง คทช. ได้มีมติรับทราบและพิจารณาผลการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
เรื่อง |
ข้อสั่งการของประธาน คทช./ ความเห็น/ข้อสั่งการของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง/มติ คทช. |
|
1. เรื่องเพื่อทราบ จำนวน 3 เรื่อง |
||
1.1 ผลการดำเนินงานของฝ่ายเลขานุการ คทช. และคณะอนุกรรมการภายใต้ คทช. ดังนี้ 1.1.1 ผลการดำเนินงานของฝ่ายเลขานุการ คทช. เช่น 1) ผลการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558-2564 โดยคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินกำหนดพื้นที่เป้าหมาย 1,442 พื้นที่ 70 จังหวัด ซึ่งได้ออกหนังสืออนุญาตแล้ว 309 พื้นที่ 2) การดำเนินงานตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม เรื่อง การสร้างมูลค่าให้กับที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชน พบว่า ทุกโครงการมีการดำเนินการที่เป็นไปตามแผนการขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปประเทศ และได้มีการรวบรวมส่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ เพื่อเสนอต่อรัฐสภาต่อไป และ 3) การจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566-2570) โดยโครงการเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2564-10 กรกฎาคม 2565 รวม 210 วัน 1.1.2 ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการภายใต้ คทช. เช่น 1) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558-2564 คณะอนุกรรมการจัดที่ดินได้จัดราษฎรเข้าครอบครองทำประโยชน์ในพื้นที่เป้าหมาย 303 พื้นที่ 67 จังหวัด 68,707 ราย 84,314 แปลง 2) คณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด โดยจัดทำแผนและงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 146.21 ล้านบาท มีการเบิกจ่าย 8 หน่วยงาน 142.61 ล้านบาท และ 3) คณะอนุกรรมการอ่านภาพถ่ายทางอากาศได้แต่งตั้งคณะทำงานกลั่นกรองผลการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ 3 คณะ เพื่อตรวจสอบผลการอ่านภาพถ่ายทางอากาศที่ค้างดำเนินการ 239 ระวางแผนที่ในพื้นที่ 8 จังหวัด และนำเสนอคณะอนุกรรมการฯ ให้ความเห็นชอบก่อนส่งให้คณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิในที่ดินของรัฐจังหวัด (คพร. จังหวัด) ใช้ประกอบการพิสูจน์สิทธิต่อไป |
มติ คทช. : รับทราบ 1) ผลการดำเนินงานฯ และข้อสั่งการของประธานกรรมการและให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป และ 2) การจัดทำคู่มือการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่ดำเนินการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ และ คพร. จังหวัด ต่อไป |
|
1.2 ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง สรุปได้ ดังนี้ 1.2.1 ในการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 มีมติมอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) ใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1) พื้นที่ชุมชนเมืองระนองซึ่งตั้งอยู่ภายในแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียวและป่าคลองเกาะสุย และอยู่ในแนวเขตป่าชายเลน [ตามมติคณะรัฐมนตรี (15 ธันวาคม 2530) เรื่อง การจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน ประเทศไทย] ปัจจุบันมีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นกลายเป็นชุมชนเมือง ไม่มีสภาพความเป็นป่าชายเลนหลงเหลืออยู่แล้ว ยังคงถือว่ามีสภาพเป็นป่าชายเลนตามกฎหมายหรือไม่ อย่างไร 2) หน่วยงานใดจะมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเพื่อออกกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียวฯ จังหวัดระนองบางส่วน ออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหรือกรมป่าไม้ และ 3) เมื่อกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหรือกรมป่าไม้ดำเนินการเพื่อขอให้เพิกถอนกฎกระทรวงบางส่วนออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียวฯ จังหวัดระนอง โดยระบุเหตุผลไว้ในกฎกระทรวงฯ ให้กรมธนารักษ์ไปบริหารจัดการควบคุมกำกับดูแลรับผิดชอบภายใต้กฎหมายของกรมธนารักษ์สามารถดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไร หากกรมธนารักษ์ไม่สามารถรับมอบพื้นที่ดังกล่าวมาบริหารจัดการภายใต้กฎหมายของกรมธนารักษ์ได้ หน่วยงานใดจะเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการควบคุมกำกับดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ เรื่องนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทางคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน สคก. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมธนารักษ์ โดยกรมธนารักษ์ มีนโยบายที่พร้อมจะรับพื้นที่นี้ เพราะพื้นที่จังหวัดระนองเป็นพื้นที่นำร่อง รวมทั้งการลงพื้นที่ทำแปลงและสำรวจรายชื่อพบว่าประชาชนไม่คัดค้านเนื่องจากประชาชนทราบดีอยู่แล้วว่าอาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอใช้ประโยชน์มาตั้งแต่ต้น |
มติ คทช. : รับทราบความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ป่าชายเลนฯ ความเห็นของ สคก. ข้อสั่งการของประธานกรรมการและให้ ทส. / กรมธนารักษ์ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป |
|
1.3 การจัดงานวันสถาปนา สคทช. โดยมีการจัดกิจกรรมขึ้นในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การดำเนินงานของ คทช. และเปิดการประชุม” และมอบนโยบายให้แนวทางในการปฏิบัติงานแก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน และได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจการจัดทำระบบคลังข้อมูลที่ดินและทรัพยากรดินและการเสวนาในหัวข้อ “กลไกการแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวทางของ คทช.” |
มติ คทช. : รับทราบการจัดงานฯ |
|
2. เรื่องเพื่อพิจารณา จำนวน 5 เรื่อง |
||
2.1 ร่างนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566-2580) เป็นการกำหนดกรอบเป้าหมาย นโยบาย และทิศทางในการพัฒนาการใช้ประโยชน์ที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีนโยบายหลัก ได้แก่ 1) การสงวนหวงห้ามที่ดินของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ และการรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ 2) การใช้ที่ดินและทรัพยากรดินให้เกิดประโยชน์สุงสูด 3) การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และ 4) การบูรณาการและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินอย่างมีเอกภาพ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีการจัดทำประเด็นยุทธศาสตร์การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อเป็นกรอบตั้งต้นแนวคิดในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566-2570) ที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 |
สำนักงบประมาณมีข้อสังเกตว่า ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการ แผนการใช้จ่ายงบประมาณ และกิจกรรมโครงการที่จะดำเนินการ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณตามความจำเป็นและให้เหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป มติ คทช. : เห็นชอบร่างนโยบายและแผนฯ และมอบหมายให้ สคทช. รับข้อสังเกตไปดำเนินการและเสนอ สศช. และคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป |
|
2.2 การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1:4000 (One Map) และแก้ไขปัญหาเขตแนวที่ดินของรัฐ ของพื้นที่กลุ่มจังหวัดที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด โดยในคราวประชุมคณะอนุกรรมการปรับปรุง One Map และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 มีมติ 1) เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุง One Map ของพื้นที่กลุ่มจังหวัดที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ตราด นครนายก นครสวรรค์ ระยอง (ยกเว้นกรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง) ลพบุรี ศรีสะเกษ และสระบุรี 2) เห็นชอบต่อข้อเสนอแนะ/แนวทางการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ดินของรัฐ กรณีการดำเนินการปรับปรุง One Map อาจมีผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่จังหวัด กลุ่มที่ 2 ดังกล่าว 3) เห็นชอบแนวทางการดำเนินการกรณีพื้นที่กันออกจากป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถือว่ามีผลจำแนกออกจากพื้นที่ป่าไม้ถาวรด้วยหรือไม่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมีปัญหาในการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (13 กุมภาพันธ์ 2533) เรื่อง การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดขอนแก่น (เฉพาะแห่ง) จึงเห็นควรเสนอให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้ คทช. พิจารณาตามมาตรา 10 (7) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป 4) เห็นชอบให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การปรับปรุง One Map เพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี (25 ธันวาคม 2561) เรื่อง รายงานผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1:4000 (One Map) และมติคณะรัฐมนตรี (24 เมษายน 2562) เรื่องความคืบหน้าการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 (One Map) ที่มอบหมายให้ คทช. กำกับติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการปรับปรุง One Map และ 5) เห็นชอบให้เพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการปรับปรุง One Map และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ |
มติ คทช. : 1) เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุง One Map และข้อเสนอแนะ/แนวทางการแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐฯ ของกลุ่มจังหวัดที่ 2 2) เห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณามอบหมายให้หน่วยงานที่มีที่ดินของรัฐอยู่ในความรับผิดชอบปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับผลการดำเนินการปรับปรุง One Map โดยใช้ One Map ที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบให้แล้วเสร็จภายใน 360 วันแล้ว 3) เห็นชอบให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การปรับปรุง One Map เพิ่มเติมฯ 4) เห็นชอบการดำเนินการปรับปรุงแนวเขตที่ดิน หรือแผนที่ท้ายกฎหมายของหน่วยงานให้ คทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนและพิจารณาแก้ไขปัญหาหรือให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามความเหมาะสม 5) ให้คณะอนุกรรมการปรับปรุง One Map ทำหน้าที่บริหารจัดการแนวเขตที่ดินของรัฐ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ หลักการ หลักเกณฑ์ ตามกฎหมาย กฎ คำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ และรวมถึงพิจารณาดำเนินการต่อข้อร้องเรียนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการ และ 6) ให้ สคทช. นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในการรับรองเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐและประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|
2.3 การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดนครพนม (ขอเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเดิมเฉพาะแห่ง) ในคราวประชุมคณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง และมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 มีมติเห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดนครพนม “ป่าดงเซกา (หมายเลข 74)” เนื้อที่ประมาณ 1,648 ไร่ (เพื่อใช้ประโยชน์ในราชการทหาร ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งค่ายพระยอดเมืองขวาง โดยใช้เป็นที่ยุทธวิธีของทหาร เป็นที่ตั้งหน่วยงานและศูนย์ฝึกอาชีพ) ให้กรมธนารักษ์ดำเนินการ [ขอเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรี (15 เมษายน 2536) เรื่อง การจำแนกประเภทที่ดิน จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดนครพนม จังหวัดยโสธร จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดภูเก็ต (ขอเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเดิมเฉพาะแห่ง)] ตามที่คณะกรรมการพัฒนาที่ดินมีมติไว้แล้ว และให้นำเสนอ คทช. ต่อไป |
มติ คทช. : เห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดนครพนมฯ และมอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป |
|
2.4 การยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 2.4.1 ในคราวประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติ 1) เห็นชอบให้ยกเลิกระเบียบฯ และ 2) ให้โอนอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาและป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐไปเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการ ภายใต้ คทช. 2.4.2 ในการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 มีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ พ.ศ. 2545 พ.ศ. ....* และให้เสนอ คทช. และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป |
มติ คทช. : เห็นชอบการยกเลิกระเบียบฯ และมอบหมายให้ สคทช. เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป |
|
2.5 การแก้ไขคำสั่ง คทช. ที่ 1/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ โดยเพิ่มเติมองค์ประกอบในคณะอนุกรรมการภายใต้ คทช. 4 คณะ ได้แก่ 1) คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน 2) คณะอนุกรรมการจัดที่ดิน 3) คณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ และการตลาด และ 4) คณะอนุกรรมการปรับปรุง One Map และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ |
มติ คทช. : เห็นชอบการแก้ไขคำสั่งฯ |
|
3. เรื่องอื่นๆ จำนวน 2 เรื่อง |
||
3.1 การรับเรื่องร้องเรียนและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีหน่วยงานที่ร่วมรับเรื่องราวร้องทุกข์ตามภารกิจ 18 หน่วยงาน มีผู้ยื่นหนังสือร้องเรียนร้องทุกข์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของ สคทช. 7 เรื่อง เช่น 1) ขอให้พิจารณาจัดที่ดินทำกินให้ราษฎรในพื้นที่ชุมชนเจริญพัฒนา ตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ และ 2) ขอให้พิจารณาจัดสรรที่ดินในพื้นที่เหมืองแกะ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ 3) ขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหาข้อพิพาทในที่ดินกับหน่วยงานของรัฐ |
มติ คทช. : รับทราบการรับเรื่องร้องเรียนฯ |
|
3.2 การดำเนินการตามมติที่ประชุม คทช. ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 โดยคณะกรรมการจัดการที่ดินมีมติเสนอเรื่องให้ สคทช. พิจารณา 3 เรื่อง ได้แก่ 3.2.1 ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี รวม 5 มติ [มติคณะรัฐมนตรี (22 มิถุนายน 2525 และ 18 ธันวาคม 2527) เรื่อง นโยบายการใช้และกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และนโยบายเกี่ยวกับการจัดตั้งธนาคารที่ดิน และเรื่อง แจ้งผลการพิจารณา เรื่อง ที่ดินของคณะกรรมการพัฒนาชนทบแห่งชาติ มติคณะรัฐมนตรี (7 กุมภาพันธ์ 2527) เรื่อง อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติเกี่ยวกับการถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์เพื่อนำไปจัดให้แก่ประชาชน มติคณะรัฐมนตรี (11 มีนาคม 2529) เรื่อง การควบคุมการจัดที่ดิน มติคณะรัฐมนตรี (1 กันยายน 2530) เรื่อง มติคณะกรรมการพัฒนาชนบทแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2530 และมติคณะรัฐมนตรี (15 สิงหาคม 2543) เรื่อง การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่องกรมป่าไม้ขอกำหนดพื้นที่สวนป่าชะอำ (กำหนดเป็นสวนรุกขชาติชะอำ) เป็นป่าไม้ถาวร จังหวัดเพชรบุรี (ขอเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเดิม เฉพาะแห่ง) และเรื่องสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ขอคืนพื้นที่จำแนกที่ไม่เหมาะสมต่อการปฏิรูปที่ดิน] เนื่องจากเดิมเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติในการอนุมัติโครงการจัดที่ดินของทบวงการเมืองและการควบคุมการจัดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายอื่น แต่โดยปัจจุบันได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 ซึ่งได้ยกเลิกอำนาจดังกล่าวแล้ว และเป็นอำนาจหน้าที่ของ คทช. แทน 3.2.2 ขอให้ทบทวนการจัดหาผลประโยชน์ในที่ดินของรัฐ แปลง “ดงน้ำจั้น” “ดงบ้านอ้น” และ “ดงเหล่าแขม” ในท้องที่ตำบลกมลาไสย และตำบลหลักเมือง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ จาก “ให้เช่า” เป็น “ให้ซื้อ” 3.2.3 การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดนครพนม [ขอเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรี (15 เมษายน 2536) เรื่อง การจำแนกประเภทที่ดิน จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดนครพนม จังหวัดยโสธร จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดภูเก็ต (ขอเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเดิมเฉพาะแห่ง) และมติคณะรัฐมนตรี (22 กันยายน 2513) เรื่อง เสนอให้จำแนกที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี] |
มติ คทช. : 1) เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรี 5 มติ ตามที่คณะกรรมการจัดที่ดินเสนอและให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป 2) มอบหมายให้คณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง และมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินพิจารณา เรื่อง การขอให้ทบทวนการจัดหาผลประโยชน์ในที่ดินของรัฐ (ตามข้อ 3.2.2 และข้อ 3.2.3) ก่อนเสนอ คทช. ต่อไป และ 3) รับทราบข้อสั่งการของประธานกรรมการ กรณีการชะลอการดำเนินการตามกฎหมายกับประชาชนที่เข้าถือครองในที่ดินของรัฐ โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายฯ พิจารณาก่อนเสนอ คทช. ต่อไป |
________________________
* คณะรัฐมนตรีมีมติ (5 เมษายน 2565) เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบฯ แล้ว
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 19 เมษายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A4574