ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 13 April 2022 17:02
- Hits: 7811
ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงนาม และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
ปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการและหน้าที่และอำนาจของกรมทรัพยากรน้ำ ทส. ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทรัพยากรน้ำ ทส. พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทรัพยากร พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม |
ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทรัพยากรน้ำฯ |
หมายเหตุ |
||
(1) สำนักงานเลขานุการกรม |
(1) สำนักงานเลขานุการกรม |
เพิ่มภารกิจด้านการสนับสนุนการตรวจราชการของกรม และภารกิจด้านงานกฎหมาย |
||
(2) สำนักบริหารจัดการน้ำ |
(2) กองการจัดสรรน้ำ |
- ปรับหน้าที่รองรับการควบคุมกำกับการดำเนินการและส่งเสริมเกี่ยวกับสัมปทานประกอบกิจการประปาและเพิ่มภารกิจรองรับการสนับสนุนให้คำแนะนำเทคนิควิชาการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับประปาหมู่บ้าน รวมทั้งกำกับ ดูแลการจัดสรรและการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะ และศึกษา วิเคราะห์ ติดตามประเมินผลมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ และเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำ - เปลี่ยนชื่อ เป็น “กองการจัดสรรน้ำ” |
||
(3) สำนักพัฒนาแหล่งน้ำ |
(3) กองพัฒนาแหล่งน้ำ 1 |
- เพิ่มหน้าที่และอำนาจในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการก่อสร้างเพื่อการพัฒนาและบำรุงรักษาแหล่งน้ำ - เปลี่ยนชื่อ เป็น “กองพัฒนาแหล่งน้ำ 1” |
||
(4) กองพัฒนาแหล่งน้ำ 2 |
จัดตั้งใหม่ เพิ่มภารกิจเพื่อรองรับการวางแผน พัฒนา จัดหา ด้านวิศวกรรมและเครื่องกล |
|||
(4) สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรน้ำ |
(5) กองยุทธศาสตร์และแผนงาน |
- เพิ่มหน้าที่และอำนาจในการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับประเทศด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำสาธารณะ บูรณาการเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการขับเคลื่อนการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรน้ำสาธารณะ รวมถึงเพิ่มบทบาทภารกิจงานด้านประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ - เปลี่ยนชื่อ เป็น “กองยุทธศาสตร์และแผนงาน” |
||
(5) ศูนย์ป้องกันวิกฤติน้ำ |
(6) กองวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำ |
- ปรับภารกิจรองรับการจัดทำข้อมูล บูรณาการข้อมูลทรัพยากรน้ำ การติดตาม ควบคุมดูแล การจัดสรรน้ำ และการวิเคราะห์ คาดการณ์สภาวะวิกฤตน้ำ รวมทั้งเฝ้าระวัง ป้องกันบรรเทาและแก้ไขปัญหาวิกฤตดังกล่าว - เปลี่ยนชื่อ เป็น “กองวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำ” |
||
(6) สำนักวิจัย พัฒนา และอุทกวิทยา |
(7) กองวิจัย พัฒนา และอุทกวิทยา |
- ปรับเพิ่มหน้าที่และอำนาจในการพัฒนาและเพิ่มระบบเตือนภัยล่วงหน้าด้านทรัพยากรน้ำเพื่อให้ครอบคลุมภารกิจในการบริการหรือเผยแพร่พัฒนาข้อมูล สถิติอุทกวิทยาและอุตุนิยมวิทยา |
||
(7) สำนักอนุรักษ์และฟื้นฟู แหล่งน้ำ |
(8) กองอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ |
- เพิ่มหน้าที่และอำนาจในการกำกับ ดูแล การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรน้ำสาธารณะและพื้นที่ชุ่มน้ำ ศึกษา วิเคราะห์ ประสาน และดำเนินการเสนอให้มีประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริม จัดการน้ำ กำกับดูแลทรัพยากรน้ำเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการน้ำ - เปลี่ยนชื่อ เป็น “กองอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ” |
||
(8) ศูนย์สารสนเทศทรัพยากรน้ำ |
(9) ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร |
- ปรับภารกิจให้สอดคล้องกับนโยบายของประเทศด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยปรับหน้าที่ความรับผิดชอบให้เกิดความชัดเจน เพื่อรองรับนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม การบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) การจัดทำข้อมูลภูมิสารสนเทศพื้นที่ของประเทศ (FGDS) - เปลี่ยนชื่อ เป็น “ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร” |
||
(9) สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ |
- |
ยุบเลิก |
||
(10) สำนักส่งเสริมและประสานมวลชน |
- |
ยุบเลิก |
||
(11) – (20) สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1 - 10 |
(10) – (19) สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 - 10 |
- เพิ่มภารกิจในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาทรัพยากรน้ำสาธารณะ แหล่งน้ำในพื้นที่นอก เขตชลประทาน และแหล่งน้ำในพื้นที่ต้นน้ำและโครงการพระราชดำริ รวมถึงส่งเสริม สนับสนุน การมีส่วนร่วมของประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการน้ำ |
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 12 เมษายน 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A4455