ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 30 March 2022 13:53
- Hits: 8303
ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง (โครงการกิ่วคอหมาฯ) ดังนี้
จากเดิม [มติคณะรัฐมนตรี (7 เมษายน 2563)] |
เป็น |
17 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 - 2564) |
19 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 - 2566) |
ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม 3,670.50 ล้านบาท
สาระสำคัญของเรื่อง
กษ. รายงานว่า
1. กรมชลประทานได้เริ่มดำเนินโครงการกิ่วคอหมาฯ มาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 โดยมีผลการดำเนินงานจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
1.1 งานที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ได้แก่
1.1.1 เขื่อนหัวงานและอาคารประกอบ กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2551 ซึ่งปัจจุบันสามารถเก็บกักน้ำได้ 170 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม – กิ่วคอหมา สำนักงานชลประทานที่ 2 กรมชลประทาน เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการน้ำ
1.1.2 ระบบชลประทานกิ่วลม 3 ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ ปี พ.ศ. 2554 และปี พ.ศ. 2555 ตามลำดับ สามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานรวม 23,000 ไร่
1.1.3 ระบบชลประทานแจ้ห่ม ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ ปี พ.ศ. 2555 และปี พ.ศ. 2558 ตามลำดับ สามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานรวม 20,000 ไร่
1.2 งานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 1 รายการ ได้แก่ งานจ้างก่อสร้างระบบชลประทานกิ่วลม 3 ระยะที่ 3 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.2.1 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 อนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการระบบชลประทานกิ่วลม 3 ระยะที่ 3 โครงการกิ่วคอหมาฯ วงเงินก่อหนี้ผูกพันทั้งสิ้น 300.70 ล้านบาท (รวมเงินสำรองจ่ายเผื่อเหลือเผื่อขาด 14.30 ล้านบาท) โดยให้ผูกพันงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2558
1.2.2 กรมชลประทานได้ว่าจ้างผู้รับจ้างก่อสร้างระบบชลประทานกิ่วลม 3 ระยะที่ 3 โครงการกิ่วคอหมาฯ ตามสัญญาเลขที่ กจ.21/2555 ลงวันที่ 24 กันยายน 2555 วงเงินสัญญา 197.64 ล้านบาท อายุสัญญา 900 วัน เริ่มสัญญาวันที่ 18 ตุลาคม 2555 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 5 เมษายน 2558 ต่อมากรมชลประทานได้อนุมัติให้มีการขยายอายุสัญญาตามมติคณะรัฐนตรีเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 (เรื่อง การพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานอันเนื่องมาจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท) เป็นเวลา 150 วัน อนุมัติลดค่าปรับ เป็นเวลา 370 วัน และต่อมาแก้ไขสัญญาเพิ่มเติมพร้อมอนุมัติ งดค่าปรับ 1,117 วัน สิ้นสุดสัญญาวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ปัจจุบันมีผลงานสะสม ร้อยละ 42.36
1.2.3 ปัญหาและอุปสรรค
1) เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของราษฎรเปลี่ยนแปลงไป ทำให้แบบก่อสร้างที่ออกแบบไว้เดิมไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ กรมชลประทานจึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขแบบก่อสร้างให้มีความสอดคล้องกับภูมิประเทศและมีความเหมาะสมกับทางด้านวิศวกรรม เพื่อให้การใช้งานเป็นไปตามวัตถุประสงค์โครงการและมีผลกระทบต่อราษฎรในพื้นที่น้อยที่สุด ซึ่งปัจจุบันกรมชลประทานได้ดำเนินการแก้ไขแบบก่อสร้างและแก้ไขสัญญาเรียบร้อยแล้ว
2) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้รัฐบาลมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อจำกัดการเคลื่อนย้าย การเดินทางของบุคคล และสกัดกั้นการระบาดให้อยู่ในวงจำกัด ส่งผลให้ผู้รับจ้างประสบปัญหาขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร - เครื่องมือไม่เพียงพอ และไม่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าสถานที่ก่อสร้างได้ ส่งผลให้ผู้รับจ้างไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ ประกอบกับปัจจุบันกรมชลประทานอยู่ระหว่าง การพิจารณามาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 [ตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 693 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2564]
2. จากข้อเท็จจริงและสภาพปัญหาดังกล่าวข้างต้น ทำให้ กษ. โดยกรมชลประทานดำเนินการก่อสร้างระบบชลประทานกิ่วลม 3 ระยะที่ 3 โครงการกิ่วคอหมาฯ ล่าช้ากว่าแผนงานที่วางไว้ จึงมีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการกิ่วคอหมาฯ โดยใช้งบประมาณภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม 3,670.50 ล้านบาท เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
3. แผนปฏิบัติการ
3.1 ช่วงระยะเวลา 1 - 3 เดือน เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการแล้ว กรมชลประทานจะดำเนินการเร่งรัดดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จและดำเนินการตามเงื่อนไขสัญญาต่อไป
3.2 ช่วงระยะเวลา 4 - 12 เดือน จะดำเนินการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำและจัดทำแผนการจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานตามแผนงานที่วางไว้
4. เนื่องจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มีความเห็นโดยเห็นควรให้ชี้แจงเพิ่มเติมในส่วนของแผนการดำเนินโครงการซึ่งกรมชลประทานมีแผนที่จะต้องดำเนินการจ่ายค่าชดเชยค่าที่ดิน และได้วางแผนการใช้จ่ายงบประมาณสิ้นสุดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 แต่ไม่ได้รายงานผลการดำเนินงานในส่วนดังกล่าวมาด้วย ซึ่ง กษ. ได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า โครงการกิ่วคอหมาฯ มีที่ดินที่ต้องดำเนินการจัดหา จำนวน 5,105 แปลง คิดเป็นเนื้อที่ 2,443 - 0 - 96 ไร่ ปัจจุบันจ่ายค่าชดเชยแล้ว 792.87 ล้านบาท (5,090 แปลง คิดเป็นเนื้อที่ 2,441 - 0 - 96 ไร่) และในส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สิน เนื่องจากบางส่วนมีการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ใหม่ และเปลี่ยนแปลงการถือครองกรรมสิทธิ์ไปจากเดิม โดยมีแผนการดำเนินการให้แล้วเสร็จปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 29 มีนาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A3984