การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 22 March 2022 22:55
- Hits: 6135
การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรคราวที่ 17 ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 และสิ้นสุดในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ตามที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
เรื่องเดิม เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 16) ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2565 เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศ
การดำเนินการที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใกล้จะสิ้นสุดลง สมช. ในฐานะศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.) ได้จัดการประชุมเพื่อประเมินความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2565 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล และได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 มีมติเห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไปด้วยแล้ว โดยมีเหตุผลและความจำเป็นตามสรุปสาระสำคัญของการประชุมรายละเอียด ดังนี้
1. กรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด ดังนี้
1.1 สถานการณ์ในระดับโลก ยังคงพบสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 โดยเฉพาะเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนในหลายประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 17 มีนาคม 2565 ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เกาหลีใต้ เยอรมณี เวียดนาม ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนขึ้น เนื่องจากหลายประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติมากขึ้น โดยหลายประเทศได้เน้นไปที่การมีมาตรการกระตุ้นให้ประชาชนฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้นเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงที่เกิดจากการติดเชื้อ และรณรงค์การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อลดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ
1.2 สถานการณ์กรระบาดของโรคติดเชื้อโควิด - 19 ในประเทศเพื่อนบ้าน แนวโน้มสถานการณ์ยังคงน่าห่วงกังวลและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเมียนมา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา ปัจจุบันยังไม่มีแนวโน้มการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลต่อสถานการณ์การ
ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องอันจะเพิ่มความเสี่ยงของการนำพาโรคระบาดมากยิ่งขึ้น
1.3 สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด - 19 ในประเทศไทย ระลอกเดือนกุมภาพันธ์ 2565-มีนาคม 2565 ปรากฏผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อกระจายทั่วประเทศ เนื่องจากรัฐบาลได้เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อควบคุมการระบาด เพื่อเป็นการทำให้เศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชนกลับคืนสู่สภาวะปกติ การกลับมาดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามปกติ อาทิ การทำงาน การเดินทางไปโรงเรียน การพบปะสังสรรค์ และการรวมกลุ่มทางสังคมอย่างเต็มรูปแบบเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการระบาดของโรคเป็นวงกว้างมากขึ้น
2. สำหรับแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดในห้วง 1-2 เดือนต่อจากนี้เป็นช่วงที่ต้องมี การบูรณาการประสานการปฏิบัติทางด้านสาธารณสุขอย่างเต็มกำลังเพื่อรักษาขีดความสามารถทางด้านสาธารณสุข เนื่องจากในห้วงเดือนเมษายนเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางไปท่องเที่ยวในหลายท้องที่ อาจจะก่อให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรคไปในวงกว้างมากขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องอาศัยอำนาจ ตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในการบูรณาการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการทางด้านสาธารณสุขที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ
3. มาตรการป้องกันโรคโควิด - 19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเฉพาะช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์ตามที่กรมควบคุมโรคเสนอ โดยมีมาตรการที่สำคัญ อาทิ 1) ให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา และการเข้าร่วมงานเทศกาล กิจกรรมตามประเพณีจะต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ และให้ประเมินความเสี่ยงของตนเอง หากพบว่ามีอาการหรือมีความเสี่ยง ให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมงาน หรือให้พิจารณาตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ ATK ก่อนเดินทางหรือก่อนร่วมงานภายใน 72 ชั่วโมง 2) ผู้จัดงานและกิจการ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานสงกรานต์ให้ลงทะเบียนบนระบบ และประเมินตนเองตามประเภทมาตรการ COVID Free Setting การขออนุญาตจัดงานให้เป็นไปตามเขตพื้นที่สถานการณ์ หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครกำหนด และให้มีมาตรการในการควบคุมกำกับอย่างเข้มงวด 3) การกำหนดมาตรการสำหรับกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ในพื้นที่สาธารณะโดยห้ามเล่นน้ำ ประแป้ง หรือปาร์ตี้โฟม ในพื้นที่สาธารณะที่ไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนน และการห้ามจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ จัดงานประเพณีสงกรานต์ที่ได้รับอนุญาต เป็นต้น
4. มติของที่ประชุม ที่ประชุมมีความเห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต่อไปอีกคราวหนึ่ง เพื่อประโยชน์ในการบูรณาการปฏิบัติงานและการดำเนินมาตรการที่จำเป็นในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมีความต่อเนื่อง จึงเห็นสมควรให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 17 เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 15 มีนาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A3759