ร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 09 March 2022 22:48
- Hits: 3847
ร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและรับทราบดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาในประเด็นการแก้ไขชื่อกฎหมายและความสอดคล้องกันของกฎหมายทั้งฉบับตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานศาลยุติธรรมไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
2. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลาและกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
3. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติ ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 โดยเปลี่ยนชื่อพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็น “พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหาย ผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ….” และเพิ่มเติมการคุ้มครองผู้ต้องหาและจำเลยที่ถูกควบคุมในชั้นสอบสวน (เดิมคุ้มครองเพียงผู้เสียหายและจำเลยที่ถูกคุมขังในชั้นพิจารณาของศาลเท่านั้น) ขยายระยะเวลาในการยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทน ค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย รวมทั้งกำหนดให้สามารถยื่นคำขอดังกล่าวผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อในคดีอาญาให้ครอบคลุมทั้งผู้เสียหาย ผู้ต้องหา จำเลยที่ถูกควบคุมตั้งแต่ในชั้นสอบสวน และจำเลยที่ถูกคุมขังในชั้นพิจารณาของศาล ให้ได้รับการอำนวยความยุติธรรมอย่างสะดวก รวดเร็ว เท่าเทียมและเป็นธรรม สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 โดยเปลี่ยนชื่อพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติมเป็น “พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหาย ผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญา พ.ศ ....” และเพิ่มเติมการคุ้มครองผู้ต้องหาและจำเลยที่ถูกควบคุมในชั้นสอบสวน (เดิมคุ้มครองเพียงผู้เสียหายและจำเลยที่ถูกคุมขังในชั้นพิจารณาของศาลเท่านั้น) ขยายระยะเวลาในการยื่นคำขอรับเงิน ค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่าย รวมทั้งกำหนดให้สามารถยื่นคำขอดังกล่าวผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ดังนี้
1. เพิ่มบทนิยาม “ผู้ต้องหา” หมายความว่า บุคคลผู้ถูกหาว่าได้กระทำความผิด แต่ยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เพิ่มการคุ้มครองผู้ต้องหา
2. แก้ไขบทนิยาม “ค่าทดแทน หมายความว่า เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยมีสิทธิได้รับเนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาและถูกควบคุมหรือขังในระหว่างการสอบสวนหรือการพิจารณาคดี” เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติฯ เพิ่มการคุ้มครองผู้ต้องหาและขยายให้จำเลยที่ถูกควบคุมหรือขังในชั้นสอบสวนมีสิทธิได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายด้วย
3. แก้ไขเพิ่มเติมให้เมื่อมีการแจ้งสิทธิผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาในการได้รับค่าตอบแทน ค่าทดแทน หรือค่าใช้จ่ายแล้ว ให้พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ปล่อยตัวแจ้งเป็นหนังสือหรือผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ แล้วบันทึกรายละเอียดการแจ้งนั้นไว้ในสำนวนคดีหรือทะเบียนประวัติซึ่งตนรับผิดชอบด้วย แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และวิธีการให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญากำหนด
4. ขยายการยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายจาก 1 ปี เป็น 2 ปี และให้สามารถยื่นคำขอทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ โดยให้ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา จำเลยหรือทายาทซึ่งได้รับความเสียหายที่มีสิทธิขอรับค่าตอบแทน ค่าทดแทน หรือค่าใช้จ่ายตามพระราชบัญญัตินี้ ยื่นคำขอต่อคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา และให้มีระยะเวลาการยื่นคำขอ ดังนี้
4.1 ผู้เสียหายต้องยื่นคำขอภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ผู้เสียหายได้รู้ถึงการกระทำความผิด
4.2 ผู้ต้องหาต้องยื่นคำขอภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ผู้ต้องหาทราบคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีของพนักงานอัยการ
4.3 จำเลยต้องยื่นคำขอภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้อง หรือวันที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง
เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์ยื่นคำขอให้มากกว่าเดิมและนำระบบ e-Service มาสนับสนุนการบริการประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการอย่างสะดวก รวดเร็ว
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 8 มีนาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A3333