ร่างกฎกระทรวงออกตามความในมาตรา 63/12 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 09 March 2022 22:26
- Hits: 3770
ร่างกฎกระทรวงออกตามความในมาตรา 63/12 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดขั้นตอนและวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการยึด การอายัด และการขายทอดตลาดทรัพย์สิน และกำหนดอำนาจของศาลในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีให้เป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ และรับทราบรายงานเหตุผลความจำเป็นที่ไม่อาจดำเนินการออกกฎกระทรวง รวม 3 ฉบับ ได้ทันเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
กำหนดขั้นตอนและวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการยึด อายัด และการขายทอดตลาดทรัพย์สินของมาตรการบังคับทางปกครองหรือคำสั่งทางปกครองกำหนดให้ชำระเงิน และกำหนดอำนาจของศาลในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีให้เป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ดังนี้
1. กำหนดหลักเกณฑ์ทั่วไปเกี่ยวกับการใช้มาตรการบังคับทางปกครอง
1.1 กำหนดให้ในกรณีที่กฎกระทรวงนี้ไม่ได้กำหนดเรื่องใดไว้ในส่วนที่เกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการยึด การอายัด และการขายทอดตลาด ให้นำบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม
1.2 กำหนดให้คำสั่ง ประกาศ และเอกสารอื่นที่จำเป็นตามกฎกระทรวงนี้ เป็นไปตามแบบที่หน่วยงานของรัฐกำหนดตามคำแนะนำของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
1.3 กำหนดให้บรรดาประกาศ คำสั่ง คำขอ คำร้อง คำร้องคัดค้าน คำเสนอราคา และเอกสารอื่น รวมทั้งการแจ้งและการอื่นที่ต้องทำตามกฎกระทรวงนี้ ให้กระทำโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ตามที่หน่วยงานตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายประกาศกำหนด
1.4 กำหนดประเภทของทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับทางปกครอง เช่น เครื่องใช้สอยส่วนตัวโดยประมาณรวมกันราคาไม่เกินประเภท 20,000 บาท สัตว์ สิ่งของ เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการประกอบอาชีพหรือประกอบวิชาชีพเท่าที่จำเป็นในการเลี้ยงชีพของผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองราคารวมกันโดยประมาณไม่เกิน 100,000 บาท ทรัพย์สินอันมีลักษณะเป็นของส่วนตัวโดยแท้ เช่น หนังสือสำหรับวงศ์ตระกูลโดยเฉพาะ
2. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการยึดทรัพย์สิน ดังนี้
2.1 กำหนดประเภททรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองที่สามารถใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยวิธียึด
2.2 กำหนดขอบเขตของการยึด โดยให้ยึดได้แต่เพียงประมาณราคาที่ควรจะขายทอดตลาดได้พอชำระหนี้ รวมทั้งค่าธรรมเนียม ค่าตอบแทน หรือค่าใช้จ่ายอื่นในการบังคับทางปกครอง
2.3 กำหนดหลักเกณฑ์ให้เจ้าพนักงานบังคับทางปกครองต้องประเมินความคุ้มค่าในการยึดทรัพย์สิน หากพิจารณาแล้วเห็นว่าคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายและภาระในการยึดให้เจ้าพนักงานบังคับทางปกครองยึดทรัพย์สินนั้น
2.4 กำหนดหลักเกณฑ์ในการยึด กล่าวคือ ต้องยึดทรัพย์สินในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ถ้ามีผู้ขัดขวางการยึด ให้เจ้าพนักงานบังคับทางปกครองมีอำนาจแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ
2.5 กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการยึดทรัพย์สินประเภทต่างๆ ผลของการยึดทรัพย์สิน การจัดทำบันทึกรายงานการยึดทรัพย์สินและบัญชีทรัพย์สินที่ยึดและการประเมินราคาทรัพย์สิน
2.6 กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์สินที่ยึดและการพิจารณาคำร้องดังกล่าว
3. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการอายัดทรัพย์สิน ดังนี้
3.1 กำหนดขอบเขตของการอายัด โดยให้อายัดได้เพียงไม่เกินกว่าที่พอจะชำระหนี้ รวมทั้งค่าธรรมเนียม ค่าตอบแทน หรือค่าใช้จ่ายอื่นในการบังคับทางปกครองเว้นแต่ทรัพย์สินที่อายัดนั้นไม่อาจแบ่งแยกได้
3.2 กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการอายัดทรัพย์สิน ผลของการอายัดทรัพย์สิน และวิธีการดำเนินการกับทรัพย์สินที่อายัดแล้ว
3.3 กำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการกับบุคคลภายนอกหรือสถาบันการเงินที่ไม่ปฏิบัติตามหนังสือแจ้งให้ชำระเงินหรือส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินตามคำสั่งอายัดทรัพย์สิน
3.4 กำหนดหลักเกณฑ์การคัดค้านคำสั่งอายัดทรัพย์สินและการพิจารณาคำร้องคัดค้าน
4. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขายทอดตลาดทรัพย์สิน โดยกำหนดขั้นตอนขายทอดตลาดทรัพย์สิน เช่น การออกประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สิน การแสดงความจำนงเข้าเสนอราคา การวางหลักประกัน ฯลฯ กำหนดวิธีการขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภทต่างๆ กำหนดกระบวนการขายทอดตลาดทรัพย์สิน กำหนดหลักเกณฑ์การยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์สินและการพิจารณาสั่งคำร้อง และกำหนดขั้นตอนการดำเนินการภายหลังการขายทอดตลาดทรัพย์สิน เช่น การชำระราคาและส่งมอบทรัพย์สิน ฯลฯ
5. กำหนดหลักเกณฑ์รองรับกรณีที่หน่วยงานของรัฐแห่งใดประสงค์จะยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองที่หน่วยงานของรัฐแห่งอื่นได้ยึดหรืออายัดไว้แล้ว ให้แจ้งต่อหน่วยงานของรัฐที่ได้ยึดหรืออายัดทรัพย์นั้นไว้ เพื่อขอรับชำระเงินส่วนที่เหลือภายหลังจากหน่วยงานของรัฐที่ขายทอดตลาดทรัพย์สินได้รับชำระเงินครบถ้วนแล้ว โดยมิให้นำบทบัญญัติว่าด้วยการขอเฉลี่ยทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ
6. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการถอนการบังคับทางปกครอง โดยกำหนดให้มีการถอนการบังคับทางปกครองในกรณีที่ผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองชำระเงินครบถ้วนหรือวางประกันเป็นจำนวนพอชำระหนี้ และกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ชำระเงินด้วยเหตุที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและคดีถึงที่สุดแล้ว
7. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยึด การอายัด และการขายทอดตลาดทรัพย์สิน โดยในกรณีที่เรื่องใดมิได้มีการกำหนดไว้ในกฎกระทรวงนี้ ให้นำบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยให้ถือว่าอำนาจของศาลในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีเป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่อำนาจของศาลตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในเรื่องดังต่อไปนี้ ให้เป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐโดยการอนุมัติของผู้บังคับบัญชา ผู้กำกับดูแล หรือผู้ควบคุมการปฏิบัติงานชั้นเหนือขึ้นไปของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ (1) การมีหนังสือเรียกบุคคลอื่นซึ่งมิได้เป็นผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองมาเพื่อการไต่สวนและการสั่งให้ส่งเอกสารหรือวัตถุพยานเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครอง (2) การเข้าไปในสถานที่ที่บุคคลอื่นครอบครองอยู่ซึ่งมีเหตุอันควรเชื่อว่ามีทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองหรือวัตถุอื่นใดที่เกี่ยวข้องอยู่ในสถานที่นั้น และ (3) การออกคำสั่งให้ผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองหรือบริวารออกไปจากอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ขายและโอนให้แก่ผู้ซื้อ
8. กำหนดบทเฉพาะกาลให้บรรดาการใดเกี่ยวกับการยึด การอายัด และการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ดำเนินการอยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้นำบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม จนกว่าการขายทอดตลาดทรัพย์สินจะแล้วเสร็จ ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์เดิมต่อไปได้จนกว่ากระบวนการบังคับทางปกครองจะเสร็จสิ้น
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 8 มีนาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A3329