สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 3/2564
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Friday, 04 March 2022 11:02
- Hits: 6406
สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 3/2564
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต) ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล [เป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 มาตรา 7 (6) ที่บัญญัติให้ กพต. มีอำนาจหน้าที่เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อคณะรัฐมนตรี] ตามที่ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอ โดยมีเรื่องสำคัญสรุปได้ ดังนี้
ประเภท/เรื่อง/ประเด็น |
การดำเนินการ/ข้อสั่งการประธาน กพต./มติ กพต. |
|
1. เรื่องเพื่อทราบ (1 เรื่อง) |
||
การถ่ายโอนภารกิจจ้างวิทยากรผู้สอนภาษาไทยให้แก่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน |
- การดำเนินการ : ให้ ศอ.บต. ถ่ายโอนภารกิจการจ้างวิทยากรผู้สอนภาษาไทยให้แก่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน - ข้อสั่งการของประธาน กพต. : ให้ ศอ.บต. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขยายผลความสำเร็จไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่นเป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะในเด็กเล็กช่วงวัย 4-7 ขวบ มติ กพต. : รับทราบ |
|
2. เรื่องติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามข้อสั่งการประธาน กพต. (2 เรื่อง) |
||
2.1 ความคืบหน้าการช่วยเหลือและพัฒนาแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) |
- การดำเนินการ : ขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ โดยเน้นการช่วยเหลืออำนวยความสะดวก สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อให้มีรายได้ โดยดำเนินการใน 3 ลักษณะ ได้แก่ 1) ผู้ที่พร้อมไปทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมนอกพื้นที่ โดย ศอ.บต. ร่วมกับกระทรวงแรงาน (รง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนิน “โครงการเปิดพื้นที่ประเทศไทยรองรับแรงงานไทยที่กลับจากต่างประเทศ” ซึ่งเป็นการจัดส่งคนไปทำงานนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 3,448 คน 2) ผู้ที่ประสงค์จะประกอบอาชีพในภูมิลำเนาเดิม โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานแรงงานจังหวัด สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และกรมประมงดำเนินการสร้างอาชีพทางเลือก และฝึกอบรมทักษะอาชีพเข้าสู่ตลาดแรงงาน รวมทั้งสิ้น 6,178 คน และ 3) การเตรียมความพร้อมเข้าสู่การทำงานภาคเกษตรประเภทสวนปาล์มในประเทศมาเลเซีย โดย ศอ.บต. ร่วมกับ รง. กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาสิทธิประโยชน์ การปฏิบัติตน การรักษาวินัย กฎหมายเกี่ยวกับแรงงานและการสาธารณสุขภายหลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือเพื่อพิจารณาทบทวนปรับปรุงบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจ้างแรงงานไทยระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซียให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน - ข้อสั่งการของประธาน กพต. : มอบหมายให้ รง. กต. และ ศอ.บต. จัดระบบและอำนวยความสะดวกการทำงานในประเทศมาเลเซีย ปรับปรุงระเบียบกฎหมายที่ใช้บังคับให้เป็นปัจจุบัน เพื่อบริหารจัดการแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรองรับการเปิดประเทศ มติ กพต. : รับทราบ |
|
2.2 ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ |
- การเนินการ : ศอ.บต. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินดำเนินการ 1) เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่จะมีการแพร่ระบาดสูงสุดในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้ของเกษตรกร ปรับปรุงสวนยางให้พ้นความเสี่ยงการแพร่เชื้อโรค ตลอดจนการดำเนินการตามมาตรการป้องกัน มาตรการเผชิญเหตุและการยับยั้งเชื้อ และมาตรการแก้ไขหรือฟื้นฟู และ 2) จัดประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจบูรณาการแก้ปัญหาโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามผลการดำเนินการ เช่น การดำเนินการอนุมัติโครงการพัฒนาอาชีพชาวสวนยางรายย่อยเพื่อความยั่งยืนสำหรับพื้นที่ที่เกิดโรคระบาด การคัดเลือกพันธุ์ยางต้านทานโรค จำนวน 36 สายพันธุ์ และการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาความเสียหายให้แก่เกษตรกรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นทุนสำหรับการฟื้นฟูสวนยาง ข้อสั่งการของประธาน กพต. : ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว รวมทั้งให้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนโดยสูงสุด มติ กพต. : รับทราบ |
|
3. เรื่องเพื่อพิจารณา (8 เรื่อง) |
||
3.1 การศึกษาแนวทางการมอบอำนาจให้เลขาธิการ ศอ.บต. ตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารราชการฯ พ.ศ. 2553 |
- ความเห็นที่ประชุม : ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางการมอบอำนาจให้เลขาธิการ ศอ.บต. ตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารราชการฯ พ.ศ. 2553 และเป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการจัดทำร่างระเบียบการมอบอำนาจให้เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นผู้ปฏิบัติราชการแทนด้วย - ข้อสั่งการของประธาน กพต. : ให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมมือดำเนินการตามนัยมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารราชการฯ พ.ศ. 2553 ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์โดยเร็วด้วย มติ กพต. : 1) เห็นชอบแนวทางการมอบอำนาจให้เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นผู้ปฏิบัติราชการแทนตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารราชการฯ พ.ศ. 2553 2) เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำ ร่างระเบียบการมอบอำนาจให้เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นผู้ปฏิบัติราชการแหน ตามนัยมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารราชการฯ พ.ศ. 2553 และ 3) เห็นชอบให้พิจารณาแนวทางการจัดตั้งศูนย์ประสานงานบริการแบบเบ็ดเสร็จตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 สำหรับเป็นศูนย์บริการร่วมและศูนย์รับคำขออนุญาตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมอบหมายให้ ศอ.บต. ร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. ศึกษาความเป็นไปได้ และปรึกษาการทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป |
|
3.2 กรอบการบูรณาการขับเคลื่อนขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใต้แนวคิดจัดข้าราชการรับผิดชอบครัวเรือนยากจน |
- ข้อสั่งการของประธาน กพต. : ให้ทุกหน่วยงานนำกรอบการบูรณาการและประสานจังหวัด เพื่อนำฐานข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform: TPMAP) เป็นกลุ่มเป้าหมายในการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมอบหมายเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ร่วมกันรับผิดชอบให้เห็นผลการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม - มติ กพต. : เห็นชอบกรอบการขับเคลื่อนงานขจัดความยากจนฯ โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจน 5 มิติ และให้กระทรวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม |
|
3.3 โครงการขยายพื้นที่ปลูกไม้เศรษฐกิจและไม้ผลเศรษฐกิจเพื่อสร้างความยั่งยืนทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2565-2570 |
- ข้อสั่งการของประธาน กพต. : ให้ส่วนราชการร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่และให้สำนักงบประมาณ (สงป.) และ สมช. สนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการด้วย - มติ กพต. : 1) เห็นชอบหลักการโครงการขยายพื้นที่ปลูกไม้เศรษฐกิจและไม้ผลเศรษฐกิจฯ 2) เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแผนงานโครงการ กิจกรรม และงบประมาณที่ได้รับจัดสรรตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สนับสนุนโครงการดังกล่าว และ 3) ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มท. และ ศอ.บต. จัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2570 เพื่อสนับสนุนโครงการขยายพื้นที่ปลูกไม้เศรษฐกิจและไม้ผลเศรษฐกิจฯ |
|
3.4 โครงการยกระดับการพัฒนาพื้นที่เมืองต้นแบบเบตง จังหวัดยะลา “Amazean Jungle Trail” |
- ข้อสั่งการของประธาน กพต. : ให้ ศอ.บต. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) วางแผนการจัดโครงการกีฬาระดับโลกอื่นๆ รวมทั้งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เพิ่มเติมด้วย - มติ กพต.: 1) เห็นชอบหลักการโครงการยกระดับฯ โดยให้ กก. เป็นหน่วยงานหลักบูรณาการร่วมกับ ศอ.บต. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและจังหวัดยะลา ในการดำเนินโครงการดังกล่าว 2) เห็นชอบหลักการการขอใช้พื้นที่ตามเส้นทางที่ กก. ดำเนินการสำรวจและจัดทำร่างแผนที่เส้นทางการแข่งขัน ซึ่งจำเป็นต้องวิ่งข้ามแดนระหว่างไทยกับประเทศมาเลเซีย รวมทั้งเส้นทางในเขตป่าสงวนโดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3) ให้ กต. ประสานงานกับประเทศมาเลเซียในการร่วมจัดการแข่งขันและขอใช้พื้นที่ตามเส้นทางที่ กก. ดำเนินการสำรวจและจัดทำร่างแผนที่เส้นทางการแข่งขัน และ 4) มอบหมายให้ กก. และ ศอ.บต. ปรับแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม และงบประมาณที่ได้รับจัดสรรตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สนับสนุนโครงการยกระดับฯ |
|
3.5 โครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพา ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา |
- ข้อสั่งการของประธาน กพต. : ให้ส่วนราชการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน การปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การให้ข้อมูล และการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย มติ กพต. : 1) เห็นชอบหลักการโครงการก่อสร้างฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565-2568 และ 2) มอบหมายให้กรมเจ้าท่าจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2568 วงเงินไม่เกิน 270 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการก่อสร้างฯ |
|
3.6 โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน เรือชุดที่ 1 |
ข้อสั่งการของประธาน กพต. : ให้ทุกส่วนราชการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบอาชีพธุรกิจประมงตามปัญหาความเดือดร้อนที่ ศอ.บต. สำรวจไว้ มติ กพต. : 1) เห็นชอบกรอบวงเงินช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเรือประมง ชุดที่ 1ภายใต้โครงการนำเรือประมงฯ จำนวน 104 ลำ และการจัดทำปะการังเทียมพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมวงเงินไม่เกิน 298 ล้านบาท โดยให้ความเห็นชอบใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นและให้ ศอ.บต. กรมประมง กรมเจ้าท่า และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการนำเรือประมงฯ และ 2) ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการนำเรือประมงฯ จัดทำคำของบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และปีงบประมาณถัดไป เพื่อดำเนินการสำหรับเรือประมงในพื้นที่จังหวัด (จังหวัดสงขลา สตูล และนราธิวาส) โดยต่อเนื่องอีก 318 ลำให้เสร็จสิ้นตามเป้าหมาย |
|
3.7 โครงการพัฒนาศักยภาพด่านศุลกากรชายแดนไทย-มาเลเซีย (9 ด่าน) เพื่อยกระดับการค้าชายแดนและความร่วมมือในมิติต่างๆ |
ข้อสั่งการของประธาน กพต. : ให้ส่วนราชการทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่และให้ สงป. และ สมช. สนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการ รวมถึงให้ กต. รายงานให้ที่ประชุมทราบความคืบหน้าการเจรจาเรื่องจุดเชื่อมผ่านด่านระหว่างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮีตัมของประเทศมาเลเซีย - มติ กพต. : 1) เห็นชอบหลักการโครงการการพัฒนาฯ กรอบวงเงินงบประมาณรวมไม่เกิน 332.63 ล้านบาท [โครงการพัฒนาและยกระดับสมรรถนะห้องปฏิบัติการชีวโมเลกุลด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ (ด่านพรมแดน) ต้นแบบ ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา และนราธิวาส จำนวน 16.09 ล้านบาท และโครงการจัดซื้อที่ดินเพื่อการขยายด่านบูเก๊ะตา จังหวัดนราธิวาส งบประมาณ 316.53 ล้านบาท] และ 2) ให้กระทรวงสาธารณสุข (กรมควบคุมโรค) และกระทรวงการคลัง (กค.) (กรมศุลกากร) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการปรับแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการพัฒนาฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป |
|
3.8 การขอทบทวนมติ กพต. เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 เรื่อง การพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนกรณีครอบครัวนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ และมติ กพต. เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563เรื่อง การให้ความช่วยเหลือเยียวยากรณีราษฎรเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ 3 ศพ บนเทือกเขาตะเว ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส |
- มติ กพต.: เห็นชอบให้ทบทวนมติ กพต. เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 และมติ กพต. เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 โดยให้ ศอ.บต. เป็นหน่วยรับผิดชอบแทนกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการเบิกจ่ายทุนการศึกษารายปี และเงินยังชีพรายเดือนให้แก่ผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเทียบเคียงหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้กับบุตรของนายอับดุลเลาะฯ และบุตรของนายบูดีมัน มะลี จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ทั้งนี้ อายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ และให้มีผลตั้งแต่ได้รับการอนุมัติตามมติ กพต. เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 และมติ กพต. เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ตามลำดับ |
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 1 มีนาคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A3110