WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 11

GOV8 copy

ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 11

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (Joint Commission on Bilateral Cooperation:JC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 11 และให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

          สาระสำคัญ

          กต. รายงานว่า การประชุม JC ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 11 ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 - 18 ธันวาคม 2564 กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา (กัมพูชา) โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายดอน ปรมัตถ์วินัย) และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งกัมพูชา (นายปรัก สุคน) เป็นประธานร่วมกัน โดยการประชุมครั้งนี้จัดภายใต้แนวคิดฟื้นฟูไปด้วยกันสู่สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองและจัดขึ้นในบริบทของการฉลองโอกาสครบรอบ 70 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับกัมพูชาเมื่อปี 2563 สรุปได้ ดังนี้

          1. ผลการประชุมฯ มีการส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆ ดังนี้

 

ประเด็น

 

สาระสำคัญ

1. การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมโดยเร็วจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

 

1.1 การอำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามแดนระหว่างกัน เช่น การใช้ระบบดิจิทัลในการตรวจสอบเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนระหว่างกัน การจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อหารือความเป็นไปได้ในการเปิดให้มีการท่องเที่ยวระหว่างกันโดยมีมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ และการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกัน

1.2 การนำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อตอบสนองความต้องการแรงงานของไทยและเพิ่มโอกาสการมีงานทำให้แก่แรงงานกัมพูชา และการให้แรงงานกัมพูชาที่ต้องการหางานทำในไทยดำเนินการผ่านช่องทางที่ถูกต้อง

1.3 การกำหนดกรอบเวลาและการทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายการค้า 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568

1.4 การส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนในแต่ละประเทศ รวมถึงเสริมสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยยิ่งขึ้นต่อการลงทุน โดยไทยหยิบยกข้อเสนอแนะของนักลงทุนไทยในกัมพูชา เช่น การปรับกฎหมายภาษีให้ชัดเจนและปฏิบัติตามได้ง่ายขึ้น และการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากความตกลงยกเว้นภาษีซ้อน

1.5 การส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียวโดยเฉพาะการปรับใช้ตัวแบบเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy Model) เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่อย่างเต็มที่ในการส่งเสริมการเติบโตในอนาคตและการบรรลุการพัฒนาสีเขียวและการพัฒนาที่ยั่งยืน

1.6 การส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองประเทศ โดยหารือกันเพื่อเตรียมการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชาที่เชื่อมโยงจังหวัดสระแก้วกับจังหวัดบันเตียนเมียนเจย ซึ่งมีกำหนดเปิดทำการในปี 2566 และการเปิดบริการการเดินรถไฟข้ามแดนระหว่างสองจังหวัดเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวย รวมทั้งการสนับสนุนโครงการพัฒนาถนนเส้นทางต่างๆ

1.7 การกระชับความร่วมมือด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความพร้อมในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคต โดยไทยได้ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์มูลค่ารวมประมาณ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่กัมพูชา

2. การรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน และการส่งเสริมมิตรภาพอันใกล้ชิดระหว่างประชาชนไทยและกัมพูชา

 

2.1 การป้องกันและปราบปรามปัญหาการลักลอบข้ามแดนผิดกฏหมายการค้ามนุษย์ และการช่วยเหลือและส่งกลับคนไทยที่ถูกชักชวนไปทำงานหลอกลวงทางโทรศัพท์หรือกรณี call center การค้ายาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติประเภทอื่นๆ และการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

2.2 การเปิดศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดและฝึกอาชีพแห่งชาติในจังหวัดพระสีหนุ โดยไทยได้สนับสนุนทางการเงินในการก่อสร้างศูนย์ดังกล่าว จำนวน 38 ล้านบาท (1.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

2.3 การส่งเสริมความเข้าใจอันดีและมิตรภาพในระดับประชาชน ซึ่งรวมถึงความร่วมมือในด้านกีฬาและการแลกเปลี่ยนระหว่างเยาวชน

3. ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในประเด็นอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอาเซียน

 

3.1 ไทยแสดงความยินดีต่อความสำเร็จของกัมพูชาในการเป็นประธานการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe Meeting: ASEM) ครั้งที่ 13 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 

3.2 การส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงผ่านกลไกความร่วมมือต่างๆ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) และคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission: MRC) 

3.3 ไทยสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของกัมพูชาในปี 2565 และแสดงความเป็นแกนกลางของอาเซียน โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนอาเซียนในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ ในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงประเด็นเมียนมาบนพื้นฐานของความเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน

 

          นอกจากนี้ ในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส มีการหยิบยกประเด็นที่สำคัญ เช่น ผู้แทนกระทรวงพลังงานของกัมพูชากล่าวว่า การเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ที่อ้างสิทธิทับซ้อนกันจะต้องทำควบคู่กันไปทั้งเรื่องการเจรจาเขตแดนและการพัฒนาร่วมด้านพลังงาน และไทยได้ขอให้กัมพูชาอำนวยความสะดวกแก่ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 40 ตารางกิโลเมตร

 

EXIM One 720x90 C J

GC 720x100

 

          2. ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบร่างบันทึกการประชุมฯ โดยสาระสำคัญของเอกสารไม่แตกต่างจากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบไว้แล้ว โดยมีการเพิ่มประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานตำรวจ ความร่วมมือด้านศุลกากร ความร่วมมือด้านตลาดทุนและความร่วมมือภายใต้กรอบคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง

          3. กต. พิจารณาแล้วเห็นว่า ผลการประชุมฯ มีประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับส่วนราชการต่างๆ เช่น

 

ประเด็น

 

การดำเนินการที่สำคัญ เช่น

 

หน่วยงานที่รับผิดชอบ

1. ด้านการเมืองและความมั่นคง

 

- จัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมของทั้งสองประเทศ

- หารือเพื่อยกระดับ/เปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม ก่อสร้างอาคารสำนักงานศุลกากร ถนน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

- ส่งเสริมการใช้บัตรผ่านแดน

- ยกระดับการลาดตระเวนชายแดนเพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย

- หารือการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของทั้งสองประเทศ

- จัดการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนและการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาในปี 2565 

- ร่วมมือในการอำนวยความสะดวกสำหรับปฏิบัติการการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ชายแดน

- จัดการประชุมทางวิชาการว่าด้วยการจัดการพื้นที่คุ้มครองข้ามพรมแดนภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการจัดการพื้นที่คุ้มครองและพื้นที่อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพข้ามพรมแดนระหว่างกรมการบริหารการอนุรักษ์และการปกป้องธรรมชาติ

- ช่วยเหลือและสนับสนุนในการพัฒนาขีดความสามารถในการเตือนภัยหมอกควันข้ามแดน

- สานต่อความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในการป้องกันและปราบปรามการผลิต การค้า และการใช้ยาเสพติดในภูมิภาค

 

กต. กระทรวงกลาโหม (กห.) กระทรวงการคลัง (กค.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงคมนาคม (คค.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

2. ด้านเศรษฐกิจ

 

- อำนวยความสะดวกการค้าข้ามแดน ด่านศุลกากรต่างๆ รวมทั้งการต่อต้านการลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมาย และการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าผ่านแดน

- จัดการประชุมทวิภาคีหรือการประชุมผ่านระบบทางไกล เพื่อเร่งดำเนินการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าผ่านแดนระหว่างกัน

- ส่งเสริมความร่วมมือเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาและความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อส่งเสริมตลาดทุนในทั้งสองประเทศ

- ส่งเสริมการค้าทวิภาคีและการลงทุน และคงเป้าหมายการค้าทวิภาคี

- จัดการประชุมคณะกรรมการร่วมการค้าชายแดนกัมพูชา-ไทย

- ส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจของสองประเทศ

- ส่งเสริมการยกเว้นการเก็บภาษีซ้อน

- นำเข้าแรงงานกัมพูชามาทำงานในภาคเกษตร

- เร่งรัดการเจรจาความตกลงเกี่ยวกับการจัดการการบำรุงรักษา และการใช้งานสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา

- จัดการประชุมคณะทำงานร่วมสามฝ่ายว่าด้วยการเดินเรือตามแนวชายฝั่ง ระหว่างไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ครั้งที่ 5

- ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและการพัฒนาลานกองตู้คอนเทนเนอร์เพื่อเตรียมการสำหรับการเปิดให้บริการรถไฟข้ามแดน

- อำนวยความสะดวกให้มีเที่ยวบินตรงระหว่างทั้งสองประเทศมากขึ้น

- ส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราดของไทยกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในจังหวัดเกาะกงและบันเตียนเมียนเจย

- พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวสำหรับการฟื้นฟูและการเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

- เร่งรัดการใช้การชำระเงินระหว่างประเทศ (Interoperable QR code) อย่างเต็มรูปแบบ

- หารือเกี่ยวกับพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนกัน

- เร่งรัดให้มีการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าขนาด 230/500 kV จากสถานีไฟฟ้าแรงสูงวัฒนานครในประเทศไทยไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงพระตะบองในประเทศกัมพูชา ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร

- ร่วมกันในการแบ่งปันความรู้และการพัฒนาขีดความสามารถในการปรับใช้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ในสาขาต่างๆ เช่น พลังงานสะอาด การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

 

กค. กต. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) กษ. คค. กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ...) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

3. ด้านสังคม วัฒนธรรม และอื่นๆ

 

- สานต่อการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ฝ่ายกัมพูชาในสาขาการศึกษา

- เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ความร่วมมือในการต่อต้านการลักลอบขนโบราณวัตถุ

- ส่งเสริมความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านกีฬา

- เสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีในด้านสารสนเทศ

- ส่งเสริมความร่วมมือที่ใกล้ชิดในการบังคับใช้กฎหมายอาญา

- จัดทำแผนความร่วมมือในสาขาสาธารณสุขระยะที่สอง (.. 2565 - 2567)

- เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์ และจัดทำแผนปฏิบัติการระยะที่ 2

- ส่งเสริมความร่วมมือในกรอบคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในลุ่มแม่น้ำโขง

- สนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ของอาเซียนในสถานการณ์ในเมียนมาโดยผ่านการปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อ*

 

กต. กก. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อว. กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กระทรวงศึกษาธิการ สธ. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ตช. และกรมประชาสัมพันธ์

_________________________

* ฉันทามติ 5 ข้อ ได้แก่ (1) ทุกฝ่ายหยุดความรุนแรง (2) ทุกฝ่ายเจรจาอย่างสันติ (3) ให้มีทูตพิเศษเพื่อให้เกิดกระบวนการเจรจา (4) อาเซียนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และ (5) ทูตพิเศษเข้าไปในเมียนมาเพื่อพูดคุยกับทุกฝ่าย

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 22 กุมภาพันธ์ 2565

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A2602

 Click Donate Support Web

TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100NHA720x100

เจนเนอราลี่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!