ขอความเห็นชอบให้การประปาส่วนภูมิภาคปรับเพิ่มเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่พนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 16 February 2022 18:06
- Hits: 8856
ขอความเห็นชอบให้การประปาส่วนภูมิภาคปรับเพิ่มเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่พนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ปรับเพิ่มเงินค่าตอบแทนพิเศษ รายเดือนให้แก่พนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ค่าตอบแทนพิเศษฯ) จาก “รายละ 5,000 บาทต่อเดือน” เป็น “รายละ 7,000 บาทต่อเดือน” โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
มท. รายงานว่า
1. กปภ. เป็นรัฐวิสาหกิจในกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งมีภารกิจและอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2522 โดยมีภารกิจหลักในการจัดหาแหล่งน้ำดิบเพื่อใช้ในการผลิต จัดส่ง และจำหน่ายน้ำประปาทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ และดำเนินธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่องกับธุรกิจการประปาโดยปัจจุบัน กปภ. ดำเนินการจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษฯ อัตรารายละ 5,000 บาทต่อเดือน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554
2. ปัจจุบัน กปภ. มีหน่วยงานในสังกัดที่มีสถานที่ตั้งในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงหน่วยบริการที่อยู่ในสำนักงานเขตพื้นที่พิเศษ จำนวน 10 แห่งโดยมีพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 211 ราย จากกรอบอัตรากำลัง 212 ราย (ลาออกในปี 2564 จำนวน 1 ราย) (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564) ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
หน่วย : ราย
ลำดับ |
หน่วยงานของ กปภ. |
ผู้จัดการ กปภ. สาขา |
หัวหน้างาน |
พนักงาน |
ลูกจ้าง |
รวม |
จังหวัดนราธิวาส |
||||||
1 |
กปภ. สาขานราธิวาส |
1 |
4 |
27 |
- |
32 |
2 |
กปภ. สาขารือเสาะ |
1 |
3 |
14 |
- |
18 |
3 |
กปภ. สาขาสุไหงโก – ลก |
1 |
4 |
22 |
- |
27 |
4 |
Lab Cluster นราธิวาส |
- |
1 |
2 |
- |
3 |
จังหวัดยะลา |
||||||
5 |
กปภ. สาขายะหา |
1 |
3 |
16 |
- |
20 |
6 |
กปภ. สาขาเบตง |
1 |
4 |
19 |
- |
24 |
จังหวัดปัตตานี |
||||||
7 |
กปภ. สาขาสายบุรี |
1 |
2 |
12 |
- |
15 |
จังหวัดสงขลา |
||||||
8 |
กปภ. สาขาสะเดา |
1 |
4 |
33 |
- |
38 |
9 |
กปภ. สาขานาทวี |
1 |
3 |
14 |
- |
18 |
10 |
กปภ. สาขาพังลา |
1 |
3 |
12 |
- |
16 |
รวมทั้งสิ้น |
9 |
31 |
171 |
- |
211 |
3. โดยที่สถานการณ์ปัจจุบันในพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำและมีความเสี่ยงสูงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกกลุ่มบุคคล โดยเฉพาะพนักงานบริการและควบคุม น้ำสูญเสียที่มีหน้าที่ซ่อมแซมท่อแตกท่อรั่ว ซึ่งเมื่อได้รับแจ้งเหตุต้องลงพื้นที่สำรวจหาน้ำสูญเสียและพนักงานผลิต เพื่อดำเนินการผลิตน้ำประปาอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงงานอื่นๆ ที่มีภารกิจจำเป็นต้องอยู่เวรประจำสำนักงาน ส่งผลให้การสรรหาบุคคลที่จะมาปฏิบัติงานในพื้นที่ค่อนข้างยากประกอบกับมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่นที่จ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษฯ ในอัตรารายละ 7,000 บาทต่อเดือน ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดังนั้น กปภ. จึงเสนอขอปรับเพิ่มเงินพิเศษฯ จากเดิมรายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นรายละ 7,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้สอดคล้องหรือเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่นและเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดแรงงาน รวมทั้งสามารถรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพให้อยู่ปฏิบัติงานกับ กปภ. ได้
4. กปภ. ได้จัดทำข้อมูลหลักเกณฑ์เพื่อใช้ในการพิจารณากำหนดค่าตอบแทน ระบบแรงจูงใจ และสวัสดิการต่างๆ ในภาพรวม ตามแนวทางและหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 แล้ว
5. คณะกรรมการ กปภ. ในคราวประชุมครั้งที่ 6/2561 เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2561 เห็นชอบให้ กปภ. ปรับเพิ่มเงินค่าตอบแทนพิเศษฯ จากเดิมรายละ5,000 บาทต่อเดือน เป็นรายละ 7,000 บาทต่อเดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และให้ กปภ. นำเสนอให้คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครรส.) และคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
6. ครรส. (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นประธาน) ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 มีมติเห็นชอบให้ กปภ. ปรับเพิ่มเงินค่าตอบแทนพิเศษฯ เพิ่มจากเดิมรายละ 5,000 บาท ต่อเดือน เป็นรายละ 7,000 บาทต่อเดือนแล้ว รวมทั้งสำนักงาน ก.พ. พิจารณาแล้วเห็นด้วยในหลักการตามมติ ครรส. ข้างต้น โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 15 กุมภาพันธ์ 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A2425